Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิดการพยาบาลชุมชน (Concept of Community Health Nursing) - Coggle…
แนวคิดการพยาบาลชุมชน
(Concept of Community Health Nursing)
แนวคิดสุขภาพองค์รวมในงานการพยาบาลชุมชน
สุขภาพร่างกาย(Physical)
ร่างกายแข็งแรง พละกำลังสมบูรณ์
นอนหลับเพียงพอ
ดื่มน้ำเหมาะสม
ทานอาหารที่มีประโยชน์
เลี่ยงทานอาหารแปรรูป
ออกกำลังกาย
งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สุขภาพจิตใจ(Mental)
สุขภาพจิตดี มีความสุข ปราศจากความเครียด
ทำสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบ
เขียนบันทึกประจำวันเพื่อให้รู้ทันความคิดและอารมณ์
ออกกำลังกายเพื่อให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน
หากเผชิญปัญหาแล้วไม่มีทางออก ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ด้านสังคม (Social)
การอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่น
กิจกรรมอาสาสมัคร
กิจกรรพัฒนาชุมชน
ด้านจิตวิญญาณ(Spiritual)
ทำให้เข้าใจความจริงของชีวิต เข้าใจธรรมชาติและสรรพสิ่งรอบตัว
ใช้เวลากับธรรมชาติ
ฝึกสมา
เล่นโย
เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมอง
สุขภาพองค์รวม แบ่งเป็น 3 ระดับ
ระดับบุคคล : การดูแลโดยให้ผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง (Client-centered care)
ระดับครอบครัว : การดูแลผู้ป่วยโดยเข้าใจภาพรวมทั้งหมดของครอบครัว (Family-oriented care)
ระดับชุมชนหรือสังคม : การดูแลผู้ใช้บริการโดยเข้าใจภาพรวมทั้งหมดของชุมชน (Community-oriented care)
แนวคิดการพยาบาลชุมชน
คือ การพยาบาลที่ให้บริการดูแลสุขภาพแก่ผู้ใช้บริการทุกระดับตั้งแต่บุคคล ครอบครัว กลุ่มคนและชุมชน โดยให้บริการที่จัดให้แก่ผู้ใช้บริการสุขภาพแบบองค์รวมและต่อเนื่อง มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์พึ่งตัวเองได้ สอดคล้องกับการดำเนินชีวิต
บทบาทหน้าที่ของพยาบาลชุมชน
เป็นผู้บริการด้านสุขภาพ (Health care provider) : ให้บริการทั้งผู้ที่เจ็บป่วยและไม่เจ็บป่วย แบบครบถ้วนผสมผสาน ทั้งด้านการรักษา การฟื้นฟูสภาพ การป้องกัน และส่งเสริมสุขภาพ
เป็นผู้ให้ความรู้ด้านสุขภาพ (Health educator) :ให้สุขศึกษาในรูปแบบต่างๆ เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ส่งเสริมสุขภาวะชุมชน
เป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ (Advocator) : ให้ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับสิทธิของตนเองในด้านสุขภาพ
เป็นผู้บริหารจัดการ (Manager) : เพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น การจัดวางกำลังคน จัดเตรียมอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ให้พร้อม การประสานงาน การประชาสัมพันธ์ วางแผนแก้ปัญหา
เป็นผู้ให้คำปรึกษา (Counselor) : แก่ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพกายและจิต รวมทั้งด้านการจัดโครงการสุขภาพของชุมชนแก่ อสม. และกรรมการชุมชน
เป็นผู้วิจัย (Researcher) : ทำวิจัยหรือเข้าร่วมวิจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวิชาชีพ
เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change agent) : กระตุ้นหรือทำให้ชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
เป็นผู้นำ (Leader) : เป็นผู้นำในด้านสุขภาพช่วยชี้นำแนะนำแนวทางในชุมชน
เป็นผู้ประสานงาน (Coordinator) : ทุกระดับจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพื่อให้การทำงานได้รับความราบรื่น
เป็นผู้ให้ความร่วมมือ (Collaborator) : ทุกฝ่ายจะช่วยกันพัฒนาชุมชน เช่น ทางการศึกษา ทางฝ่ายการเมือง การปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. พัฒนากร ผู้นำชุมชน
คุณภาพและมาตรฐานการพยาบาลชุมชน
ด้านทฤษฎี : นำแนวคิด ทฤษฎี หลักการการพยาบาลมาประยุกต์ใช้
ด้านการรวบรวมข้อมูล : รวบรวมข้อมูลจากผู้รับบริการอย่างมีระบบ ครบถ้วน ถูกต้องใช้สะดวก
ด้านการวินิจฉัย : วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมไว้เกี่ยวกับภาวะสุขภาพชุมชน ครอบครัวและบุคคล
ด้านการวางแผนการป้องกันทุกระดับ : พยาบาลต้องวางแผนปฏิบัติการพยาบาลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับบริการ
ด้านกิจกรรมบริการ : ปฏิบัติการพยาบาลตามแผนเพื่อส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูสภาพให้ชุมชนมีส่วนร่วม
ด้านการประเมินผล : กำหนดเป้าหมายและประเมินผลร่วมกัน
ด้านการประกันคุณภาพ และพัฒนาวิชาชีพ : ร่วมกันประเมินผลด้วยวิธีต่างๆเพื่อพัฒนาบุคลากรและการบริการ
ด้านการร่วมงานระหว่างทีมสุขภาพและบุคลากรอื่นๆ
ด้านการวิจัย : ทำวิจัยเพื่อพัฒนาความรู้ในการบริการ
สิทธิมนุษยชน (Human Right)
มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคทั้งความคิดและการกระทำที่ไม่มีการล่วงละเมิดได้
สมรรถนะการพยาบาลชุมชน
สมรรถนะด้านการทำงานร่วมกับชุมชน
สมรรถนะด้านภาวะผู้นำ
สมรรถนะด้านการดำเนินงานพัฒนาสุขภาพชุมชน
สมรรถนะด้านการบริหารจัดการ
สมรรถนะด้านวิชาการและการวิจัย
สมรรถนะด้านกฎหมาย
สิทธผู้ป่วย
ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ผู้ที่มาเข้ารับบริการมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอชัดเจน
ในภาวะฉุกเฉินเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วนโดยผู้ป่วยไม่ต้องร้องขอ
ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการสุขภาพตามรัฐธรรมนูญ
มีสิทธิที่จะทราบชื่อ สกุล ประเภทของผู้ให้บริการแก่ตน
มีสิทธิขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านอื่นที่ไม่ได้เป็นผู้บริการแก่ตน
มีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง
มีสิทธิได้รับข้อมูลครบถ้วนในการตัดสินใจเข้าร่วม/ถอนตัวจากการวิจัย
มีสิทธิได้รับทราบข้อมูลการรักษาพยาบาลเฉพาะตนเมื่อร้องขอ
บิดามารดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมอาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์
เป้าหมายของการพยาบาลชุมชน
ดูแลสและสุขภาวะของประชาชนให้แข็งแรงทุกระดับ
การดูแลความต้องการที่จำเป็นของมนุษย์
คำนึงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ส่งเสริมการดูแลสุขภาพตนเอง
ความหมาย : การพยาบาลสาธารณสุข คศ.1893 ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า การพยาบาลชุมชน สมาคมพยาบาลแห่งสหรัฐอเมริกาบอกว่าคือ การปฏิบัติการพยาบาลชุมชนโดยการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู สุขภาพของประชาชน โดยการผสมผสานทักษะการพยาบาลให้แก่บุคคล ครอบครัว และกลุ่มต่างๆ
วิวัฒนาการ
ยุโรป
การดูแลผู้ป่วยตามบ้านโดยนักบวชและแม่ชีศาสนาคริสต์
เซนต์ วินเซนต์ เดอปอล ปีคศ 1633 ได้ก่อตั้ง Sister of Charity เพื่อให้การพยาบาลผู้ป่วยตามบ้าน
ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ปรับปรุงการศึกษาพยาบาลแนวคิดว่าสุขภาพของบุคคลมีความสำคัญต่อสุขภาพของชุมชน
มร วิลเลียม แรทโบน ปีคศ 1859 ได้ก่อตั้งบริการพยาบาลตามบ้าน ให้บริการพยาบาล บริการสังคมสงเคราะห์สอนสุขอนามัยส่วนบุคคล การสุขาภิบาล การสอนครอบครัวดูแลผู้ป่วย
ลิเลียน วอลด์ เป็นผู้ใช้ชื่อพยาบาลสาธารณสุขสำหรับพยาบาลที่ปฏิบัติงานในชุมชน คศ 1893 ก่อตั้งHenry Street Settlement
ไทย
ระยะแรก (พศ 2400-2484)
พศ 2400 เริ่มการสาธารณสุขและการแพทย์แผนปัจจุบัน จากการตายด้วยโรคร้ายแรง 3 โรค คือ อหิวาตกโรค ไข้ทรพิษ กาฬโรค
พศ 2424 ตั้งหน่วยบรรเทาทุกข์ผู้ป่วยโรคอหิวาตกโรคครั้งแรก
พศ 2431 สร้างโรงพยาบาลศิริราชและโรงเรียนแพทย์
พศ2439 จัดทำหลักสูตรผดุงครรภ์"โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาล"
พศ2456 ออกพระราชบัญญัติควบคุมโรคระบาด รณรงค์ให้ประชาชนปลูกฝี ตั้ง "สุขศาลา"ในจังหวัดต่างๆ
พศ 2461 จัดตั้งกรมสาธารณสุขในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ฉีดวัคซีนอหิวาตกโรคครั้งแรก
ระยะสอง (พศ 2400-2484)
พศ 2485 “กรมสาธารณสุข” เปลี่ยนเป็น “กระทรวงสาธารณสุข”
จัดให้มีพยาบาลประจำสุขศาลาของเทศบาลเรียก “พยาบาลสาธารณสุข”
ระยะที่ 3(พศ 2500-ปัจจุบัน)
ปี พศ 2500 [การสาธารณสุขมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน]
พศ 2503 รัฐบาลประกาศให้ลดอัตราการเพิ่มของประชากร
พศ 2513 รัฐบาลยอมรับการวางแผนครอบครัวเป็นนโยบายระดับชาติ
ปัจจุบัน ใช้แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12