Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่ 3 เด็กชายอายุ 4 วัน BW 3155 gms. - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่ 3 เด็กชายอายุ 4 วัน BW 3155 gms.
การวินิจฉัยโรค
(Meconium aspiration syndrome, MAS)
คำจำกัดความ
กลุ่มอาการหายใจลําบากที่เกิดขึ้นเนื่องจากการที่ทารกสูดสําลักหายใจเอาขี้เทาปนอยู่ในน้ําคร่ำเข้าไปในทางเดินหายใจ
พยาธิสภาพ
ภาวะแทรกซ้อนของโรค
Pneumonia
Sepsis
Pneumothorax
ก่อนคลอด
ทารกเพศชาย G3P1A1 GA 41 wks by U/S
ANC 4 ครัง Refer มาจาก รพ.พิปูน ด้วยเรื่อง Fetal distress with Oligohydramnios
มี Deceleration, No uterine contraction จึง C/S due to fetal distress
ขณะคลอด
พบ Thick meconium stained amniotic fluid
ทำ direct suction 1 ครัง ได้ meconium เหนียวข้น 2 cc
ทำ PPV ไป 1 cycle และให้การรักษาด้วยการให้ O2 box 8 LPM
ความเข้มข้น ออกซิเจน ร้อยละ 100
แรกคลอดมีภาวะสูดสำลักขี้เทา
การรักษาที่ได้รับ
ยา
การรักษาที่ได้รับมีความสมเหตุสมผล เนื่องจากยาทั้ง 2 ตัวที่ทารกได้รับเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้ออย่างครอบคลุมทั้งเชื้อแกรมลบและแกรมบวก ซึ่งจากเคสกรณีศึกษาทารกมีการสูดสำลักน้ำคร่ำที่มีขี้เทา ทำให้มีการติดเชื้อทางเดินหายใจ
Ampicillin 320 mg iv q 12 hr
กลุ่มยา : Penicillin
ข้อบ่งใช้ : ใช้เพื่อรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคปอดอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ โรคติดเชื้อที่หู ผิวหนัง และโรคติดเชื้อทางเพสสัมพันธ์บางชนิด เป็นต้น Neonate -ขนาดปกติ 25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้วันละ 4-6 ชั่วโมง Infants -ขนาดปกติ 100-400 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้วันละ 4-6 ชั่วโมง
กลไกการออกฤทธิ์ : จัดเป็นสารที่มี Bcta-lactamsm ring เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ออกฤทธิ์โดยห้ามการสร้างผนังเซลล์ โดยจับกับ Penicillin-binding-protein ชนิด 1-3 ทำให้ไม่เกิด Transpeptidation จึงไม่มีการสร้าง Peptidoglycan ทำให้มี autolysis ทำให้เซลล์แตก
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา : ผื่นคัน หายใจหรือกลืนอาหารลำบาก หายใจมีเสียงหวีด ไม่สบายท้อง ท้องเสีย อาเจียน
Gentamicin 12 mg iv OD
กลุ่มยา : aminoglycosides
ข้อบ่งใช้ : รักษาการติดเชื้อแบคที่เรียชนิดแกรมลบและแกรมบวก ซึ่งเป็นสาเหตุการติดเชื้อต่อระบบต่างๆของร่างกาย เช่น กระดูก ระบบทางเดินหายใจ ผิวหนังและเยื่อบุ ช่องท้อง ระบบทางเดินปัสสาวะ หัวใจและระบบเลือด ขนาดยาที่ใช้แบบดั้งเดิม -เด็ก 3-7.5 mg/kg/day q 8 hrs -ผู้ใหญ่ 1-1.7 mgkg q 8 hrs
กลไกการออกฤทธิ์ : ฆ่าจุลชีพ โดยจับกับ ribosome ส่วน 30 s ของเชื้อแบคที่เรีย และรบกวนการสร้างโปรตีน ใช้รักษาแบคที่เรียกรัมลบชนิด acrobic ฤทธิ์ยาจะลดลงในสภาวะที่ขาดออกซิเจนและ ไม่มีผลต่อแบคทีเรียพวก anacrob ic ถ้ายามีความเข้มข้นสูงจะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อความเข้มข้นต่ำมีฤทธิ์ขับยั้งเชื้อ ยาสามารถคูดซึมได้ดีโดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา : >10% ทรงตัวลำบาก กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกันท่าทางการเดินผิดปกติ , 1 -10% บวม ผิวหนังเป็นผื่น แดง คัน , <1% ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ไข้ แพ้แสงแดด ผิวหนังบวมอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
สารน้ำและสารอาหาร
ทารกได้รับสารน้ำและสารอาหารไม่เพียงพอ
ทารกน้ำหนัก 3155 gms. ต้องการพลังงาน 120 kcal/kg/day ดังนั้นทารกต้องได้รับพลังงาน 120*3.155 = 378.6 kg/day
ทารกควรได้รับนม 1 oz = 20 kcal (1 oz = 30 cc) พลังงาน 330 kcal 0.5
330/10 = 16.5 oz (ทารกควรได้รับนมวันละ 16.5 oz) ทารกรายนี้ได้รับนม 0.5 oz = 10 kcal
8 feeds
คำนวณ ใน 1 วัน ได้ 10% D/W 7 ml
24 hr = 168 ml/day สารน้ำ D/W 100 ml มี 10 g สารน้ำ D/W 168 ml มี 168 ml
10 g/100ml = 16.8 g D/W 1 g ให้พลังงาน 4 kcal D/W 16.8 g ให้พลังงาน 16.8 g * 4 kcal / 1 g = 67.2 kcal : ใน 1 วัน ทารกรายนี้ ได้รับพลังงาน 80 kcal + 67.2 kcal = 147.2 kcal/day
ทารกควรได้รับพลังงานวันละ 378.6 kcal ทารกรายนี้ได้รับนม 80 kcal สารน้ำ 67.2 kcal ได้รับพลังงานทั้งหมด 80+67.2=147.2 kcal
: แสดงว่าได้รับพลังงานไม่เพียงพอเนื่องจากทารกรายนี้ได้รับพลังงานจากนมและสารน้ำรวมกัน 147.2 kcal/day ซึ่งตามปกติควรได้รับพลังงาน 378.6 kcal/day
: แสดงว่าได้รับสารน้ำ 10% D/W เหมาะสมกับโรคเนื่องจากให้เพื่อป้องกันการติดเชื้อในทารกแรกเกิดและเพื่อแก้ไขปัญหาแทรกซ้อนจากภาวะน้ำตาลในเลือด แต่ปริมาณที่ได้รับไม่เหมาะสมเนื่องจากสารน้ำที่ได้รับให้พลังงาน 67.2 kcal ซึ่งปกติทารกรายนี้ควรได้รับพลังงาน 378.6 kcal/day
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากสูดสำลักขี้เทา
ข้อมูลสนับสนุน
-Fetal distress with Oligohydramnios
-พบ Thick meconium stained amniotic fluid เนียวข้น 2 cc
-มีการรักษาให้ 02 box 8 LPM 02 เข้มข้น ร้อยละ100
-V/S แรกรับ (9 มิถุนายน 2564) BT 37.4 o C RR 80 bpm HR 158 bpm
-V/S แรกรับ (10 มิถุนายน 2564) BT 37.2 o C RR 60 bpm HR 146 bpm
เกณฑ์การประเมินผล
-เสมหะไม่มีขี้เทาปน
-สีผิวแดงดี หายใจไม่หอบเหนื่อย ไม่มีปีกจมูกบาน
-BT=36.9-37.1 +1-0.1
-RR= 40-60 bpm
-HR=110-160 bpm
เป้าหมายการพยาบาล
-ไม่มีภาวะพร่อง02
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้ทารกได้รับ 02 02 box 8 LPM 02 เข้มข้น ร้อยละ100 ตามแผนการรักษา เพื่อป้องกันภาวะขาด02
2.ดูแลรักษาอุณหภูมิกายให้เป็นปกติ เพื่อลดการใช้ 02
3.ดูแลให้ได้รับการ Suction ในทางเดินหายใจ เพื่อให้ทางเดินหายใจโล่งสะดวก
4.ประเมินบันทึกสัญญาณชีพ
5.ประเมินอาการปอดแตก ได้แก่ มีอาการคล้ำลงทันทีทันใด ให้02ไม่ตอบสนอง หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบรายงานแพทย์
มีภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเนื่องจากสูดสำลักขี้เทา
ข้อมูลสนับสนุน
-พบ Thick meconium stained amniotic fluid เนียวข้น 2 cc
-Oligohydramnios
-VIS แรกรับ (9 มิถุนายน 2564) BT 37.4 o C RR 80 bpm HR 158 bom
-VIS แรกรับ (10 มิถุนายน 2564) BT 37.2 o C RR 60 bpm HR 146 bpm
-Chest X-ray พบ RLL infiltration
-WBC 20.0 10^3/uL
Neutrophil 65.3 %
Lymphocyte 40.8 %
Monocyte 7.5%
เกณฑ์การประเมินผล
เกณฑ์การประเมินผล
-ไม่พบ Thick meconium stained amniotic fluid เนียวข้น
-Chest X-ray ไม่พบ infiltration
-BT=36.9-37.1 +/-0.1
-RR= 40-60 bpm
-HR=110-160 bpm
-Neutrophil 54-62 %
Lymphocyte 25-33 %
Monocyte 3-7 %
เป้าหมาย
-การติดเชื้อในร่างกายลดลง
กิจกกรรมการพยาบาลล
1.ประเมินสภาพการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ พร้อมทั้งสังเกตอาการและอาการ แสดงต่างๆ ที่ผิดปกติ เช่น ไข้สูง ตัวเย็น ซึมลง เคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง รีบให้การพยาบาลเบื้องต้น และรีบรายงานแพทย์ทันที
ดูแลให้ทารกได้รับยาปฏิชีวะนะAmpicilin 320 mg iv q 12 hr และGentamicin 12 mg iv OD ตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อฆ่าเชื้อ
3.ล้างมือก่อนและหลังการสัมผัสทารกทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายเชื้อ
4.ปฏิบัติการพยาบาลแก่ทารกโดยใช้ทคนิคปราศจากเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
5.ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติกร CBC ได้แก่ WBC Neutrophills Lymphocyte Monocyte เพื่อติดตามภาวะการติดเชื้อ
คำแนะนำการปฏิบัติตัว
การเตรียมตัวเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระยะมารดาหลังคลอด
ทารกหลังเกิด ใช้หลักการ "3 ดูด" เพื่อให้นมแม่ผลิตและมีปริมาณเพียงพอสำหรับทารก
"ดูดบ่อย" คือ ให้ทารกดูดนมแม่ทุก 2-3 ชั่วโมงทั้งกลางวัน
และกลางคืน และดูดได้บ่อยตามต้องการ
"ดูดถูกวิธี" คือ ท่าอุ้มของแม่และการดูดจากเต้าของทารก
ถูกต้องโดย ลูกดูดถึงลานนม ไม่ใช่หัวนมและดูดให้เกลี้ยงเต้า
"ดูดเร็ว" คือ ให้ทารกดูดนมแม่ภายใน 1 ชั่วโมงหลังเกิดหรือ
เร็วที่สุด
2.ไม่ใช้หัวนมหลอก หัวนมยาง ขวดนมแก่ทารกแรกเกิดในช่วง
อายุประมาณ 30-45 วัน เพื่อป้องกันภาวะสับสนหัวนม
3.ไม่ให้น้ำ หรือ อาหารอื่นแก่ทารกแรกเกิด
4.มารดาควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆดิบๆ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติด
มารดาควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
6.ก่อนกลับบ้าน มารดาและครอบครัวควรมีความมั่นใจ ในการเลี้ยงลูกต้วยนมแม่ และนำทารกมาติดตามหลัง กลับบ้านตามแพทย์นัด
พัฒนาการทารกแรกเกิด-1 เดือน ตามแบบประเมิน DSMP
ด้านการเข้าใจภาษา
สะดุ้งหรือเคลื่อนไหวร่างกายเมื่อได้ยินเสียงพูดระดับปกติ
ด้านการใช้ภาษา
ส่งเสียงอ้อแอ้
ด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
ด้านการช่วยเหลือตนเองและสังคม
ท่านอนคว่ำยกศรีษะตั้งขึ้นได้ 45 องศา 3อวินาที
ด้านการเคลื่อนไหว
ท่านอนคว่ำยกศรีษะและหันไปข้างใดข้างหนึ่ง
วัคซีนที่ควรได้รับ
BCG (วัดซีนป้องกันวัณโรค)
คำแนะนำ : ควรให้เร็วที่สุดภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด
HB1 (วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี)
คำแนะนำ : ฉีดให้เด็กก่อนออกจากโรงพยาบาลและครั้งต่อไปในอายุ 2 4 และ 6 เดือน