Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สิทธิ จริยธรรม จรรยาบรรณ และวิชาชีพ - Coggle Diagram
สิทธิ จริยธรรม
จรรยาบรรณ
และวิชาชีพ
หลักจริยธรรมทางการพยาบาล
ความหมาย
กฎเกณฑ์หรือแนวทางการประพฤติปฏิบัติทางการพยาบาลของบุคคลที่จะทำหรือไม่กระทำที่ผ่านการไตร่ตรองเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อผู้อื่นและสังคม
ความสำคัญ
ค่านิยมขององค์กร ที่บุุคคลากรทุกใช้ในการปฏิบัติงานและการให้การพยาบาลผู้ป่วย
ประกอบด้วย 6 ประการ ได้แก่
1.Autonomy ความเป็นอิสระ
2.Beneficence การทำประโยชน์เกื้อกูล
3.Non maleficence การไม่ทำอันตราย
4.Fidelity/Confidentiality ความซื่อสัตย์
5.Justice ความยุติธรรมหรือความเสมอภาค
6.Veracity การบอกความจริง
สิทธิ
สิทธิเด็ก
1.สิทธิในการอยู่รอด
คือสิทธิในการอยู่รอดปลอดภัยตั้งแต่เมื่อคลอด ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเกิดมาปกติ หรือเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจก็ตาม
2.สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา
คือสิทธิที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษาตามมาตรฐาน ความเป็นอยู่และโภชนาการที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงการส่งเสริมเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
3.สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
คือสิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจากการล่วงละเมิด และการทารุณกรรมทุกรูปแบบ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการใช้แรงงานเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์
4.สิทธิที่จะมีส่วนร่วม
คือสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น การกระทำ ที่มีผลกระทบต่อตนเอง
สิทธิพยาบาล
1.พยาบาลมีความรับผิดชอบที่จะต้องให้รายละเอียดของตนที่ปฏิบัติงานอยู่ เกี่ยวกับคุณวุฒิทางการศึกษาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
พยาบาลแต่ละคน มีความรับผิดชอบที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับตัวหรือถอนตัวออกจากสถานการณ์เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกับความรู้ ความสามารถและความเชื่อของตน
3.หน่วยงานที่พยาบาลปฏิบัติงานอยู่จะต้องจัดสรรวัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้เพื่อบริการสุขภาพได้อย่างเพียงพอกับผู้บริการ
4.พยาบาลมีสิทธิ์และความรับผิดชอบกับหน่วยงานที่ตนปฏิบัติงานอยู่ ในการที่จะเสริมสร้างสภาพแวดล้อม ให้สามารถให้บริการสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
5.หน่วยงานที่พยาบาลปฏิบัติอยู่ต้องให้ความเคารพเชื่อถือต่อความรู้ความสามารถและบุคคลิกส่วนตัวของพยาบาลแต่ละคนในการปฏิบัติหน้าที่
ฟาจินและปูเลน
1.พยาบาลมีสิทธิ์ที่จะสร้างรูปแบบการสัมพันธ์ตามรูปแบบและเห็นสมควร เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
2.พยาบาลมีสิทธิ์ที่จะเข้าใจและยอมรับความรู้สึกของตนเอง
3.พยาบาลมีสิทธิ์ที่จะดำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและการแสดงออกของตนเอง
4.พยาบาลมีสิทธิ์ที่จะพ้นสภาพจากการทำงานที่มีผลต่อการบั่นทอนสุขภาพอนามัยที่ดีของตนเอง
สิทธิผู้ป่วย
ประกอบด้วย 9 ประการ ได้แก่
1.ผู้ป่วยมีสิทธิ์ขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
2.ผู้ป่วยมีสิทธิ์ที่จะได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงและเพียงพอเกี่ยวกับการรักษา
3.ผู้ป่วยที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือเร่งด่วนทันทีโดยไม่ต้องคำนึงถึงการร้องขอจากผู้ป่วย
4.ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบชื่อสกุลและวิชาชีพของผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน
5.ผู้ป่วยมีสิทธิ์ขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพสุขภาพอื่นและมีสิทธิ์ขอเปลี่ยนผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลได้
6.ผู้ป่วยมีสิทธิ์ได้รับการปกปิดข้อมูลของตนเอง ยกเว้นในกรณีีที่ยินยอมหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพหรือกฎหมาย
7.ผู้ป่วยมีสิทธิ์ได้รับทราบข้อมูลครบถ้วน เพื่อตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวการทำวิจัยด้านสุขภาพ
8.ผู้ป่วยมีสสิทธิ์ทราบข้อมูลการรักษาในเวชระเบียนของตนเอง โดยไม่ละเมิดผู้อื่น และเป็นไปตามขั้นตอนของสถานพยาบาลนั้น
9.บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรมใช้สิทธิ์แทนผู้ป่วยเด็กที่อายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ หรือบกพร่องทางกายหรือจิตได้
หน้าที่อันพึงปฏิบัติของผู้ป่วย
1.การเอาใจใส่และดูแลสุขภาพของตนเอง รวมทั้งการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรม เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในกระบวนการรักษาพยาบาล ทั้งนี้หากผู้ป่วยเห็นว่าไม่อาจทำตามคำแนะนำดังกล่าวได้ ผู้ป่วยควรแจ้งให้ทราบโดยทันที เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน
2.ผู้ป่วยพึงเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพ “ที่เป็นจริงและอยู่ในความรับรู้” ของผู้ป่วย แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทั้งนี้เพื่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะได้รับทราบข้อมูลด้านสุขภาพทั้งหมด อันจะเป็นประโยชน์ต่อการให้การรักษาพยาบาลและป้องกันมิให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อตัวผู้ป่วยเองและต่อผู้ป่วยรายอื่น รวมทั้งบุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
3.ผู้ป่วยพึงปฏิบัติตามระเบียบที่สถานพยาบาลกำหนดไว้
4.ผู้ป่วยพึงตระหนักว่าการใช้สิทธิการรักษาพยาบาล รวมทั้งสิทธิผู้ป่วยตามที่กำหนดไว้ ต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิของผู้ป่วยท่านอื่น
5 ผู้ป่วยพึงหลีกเลี่ยงการกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและบุคลากรสาธารณสุข หากมีกรณีที่ผู้ป่วยไม่เห็นด้วยต่อการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ท่านสามารถให้คำแนะนำหรือใช้สิทธิร้องเรียนได้ตามระเบียบปฏิบัติของสถานพยาบาลนั้นๆ
6 ผู้ป่วยพึงตระหนักว่า ห้องฉุกเฉินเป็นสถานที่ซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นการเฉพาะเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ตกอยู่ใน “ภาวะเร่งด่วนและเป็นภยันตรายอันใกล้ต่อชีวิต” เป็นสำคัญ บุคลากรสาธารณสุขจะให้การรักษาตามลำดับความเร่งด่วนทางการแพทย์เป็นสำคัญ ดังนั้นพึงหลีกเลี่ยงหรืองดเว้นการกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบของบุคลากรในห้องฉุกเฉิน
7.ผู้ป่วยพึงตระหนักว่า “ทรัพยากรในระบบสาธารณสุขมีราคาแพงและมีจำนวนจำกัด” ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมร่วมกับสถานพยาบาลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการในการจัดสรรการใช้ทรัพยากรอันมีค่าอย่างระมัดระวัง การกระทำการใดๆ ของผู้ป่วยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรอันมีค่า และส่งผลเสียร้ายแรงต่อการรักษาพยาบาลของตัวผู้ป่วยเอง รวมทั้งต่อผู้ป่วยท่านอื่น
8.ผู้ป่วยพึงเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคลากรสาธารณสุขและผู้ป่วยท่านอื่น ในสถานพยาบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามกระทำการถ่ายรูป บันทึกเสียงหรือภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งกระทำการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันนี้ โดยมิได้รับความยินยอมก่อน
9.ผู้ป่วยพึงตระหนักว่า "เอกสารลงนามในการให้ความยินยอมเพื่อรับการรักษาพยาบาล" เป็นเอกสารสำคัญที่ให้รายละเอียด ตลอดจนข้อจำกัดและความเสี่ยงของการรักษาพยาบาล ดังนั้นก่อนทำการลงนามในเอกสารดังกล่าว ผู้ป่วยต้องอ่านและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อน ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรือมีความไม่เข้าใจใดๆ ควรสอบถามผู้เกี่ยวข้องก่อนการลงนามทุกครั้ง
10.ผู้ป่วยพึงตระหนักว่า การละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามรายละเอียดข้างต้น อาจส่งผลเสียต่อการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยเอง และในบางกรณี หากเกิดความเสียหายต่อสถานพยาบาลหรือผู้ป่วยท่านอื่น ท่านอาจได้รับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติ
สิทธิมนุษยชน
2.สิทธิทางการเมือง คือสิทธิในการลงคะแนนเสียง สิทธิเสรีภาพในความเชื่อทางการเเมือง การนับถือศาสนา สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
หมายถึง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่มีมาแต่กำเนิดและความเสมอภาค ที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ ศาสนา เพศ สีผิว ภาษา เผ่าพันธุ์ หรือสถานะอื่นใด
1.สิทธิพลเมือง หมายถึงประชาชนที่มาอยู่ร่วมกันในสังคม โดยมีสัญญาประชาคมร่วมกัน ว่าผู้ได้รับเลือกเป็นรัฐบาล มีหน้าที่บริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชนและปกป้องคุ้มครองพลเมืองเกี่ยวกับสิทธิในชีวิต เช่น สิทธิที่จะไม่ถูกทรมาน สิทธิในการรับสัญชาติ สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน
3.สิทธิทางเศรษฐกิจ คือสิทธิในการทำงาน การประกอบอาชีพ สิทธิในการใช้ค่าประกอบการใช้จ้าง และสิทธิในการได้รับผลผลิตอย่างเป็นธรรม
4.สิทธิทางสังคม คือสิทธิได้รับสุขภาพ รับบำเหน็ดบำนาญเมื่อชราหรือสิทธิในการเลือกคู่ครอง
5.สิทธิทางวัฒนธรรม คือสิทธิในการได้รับการศึกษา สิทธิในการแต่งกายตามความเชื่อความต้องการ และการปฏิบัติตามความเชื่อตามต้องการ
ความหมายของสิทธิ
อำนาจที่จะทำการใดๆอย่างอิสระ โดยได้รับการรับรองจากกฎหมาย
การละเมิดสิทธิ
จะมีความผิดทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา
ทางแพ่ง
ละเมิด ม. 420 , 425 ,427
โทษทางอาญา
ม. 288 ฆ่าโดยเจตนา
ม. 291 ประมาทเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ม. 297 ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส
ม. 295 ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ
หน่อวยงานป้องกันการละเมิดสิทธิเด็ก
2.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กเพื่อช่วยเหลือปกป้องคุ้มครองเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิตั้งแต่แรกเกิด จนถึง18 ปี
3.มูลนิธิปวีณา หงส์สกุล เพื่อช่วยเหลือเด็กเเละสตรีที่ด้วยโอกาสที่ถูฏละเมิดสิทธิและถูฏทารุณกรรมในรูปแบบต่างๆทางร่างกายและจิตใจ
4.กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงมนุษย์
5.กระทรวงสาธรณสุขกรมอนามัยและกรมสุขภาพจิต
6.Unicef เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติที่ส่งเสริม ปกป้อง คุ้มครองสิทธิเด็ฏทั่วโลก
1.มูลนิธิคุ้มครองเด็กเพื่อป้องกัน คุ้มครอง ช่วยเหลือ ฟื้นฟูและพัฒนาเด็กไทยที่ประสบปัญหาภาวะทุกข์ยากและถูกทอดทิ้งในสังคม
ความสำคัญ
เป็นเกราะคุ้มกันประชาชนให้พ้นจากภัยคุกคามของกำลังอิทธิพลของอำนาจที่ไม่ยุติธรรม และเป็นเสมือนกุญแจให้ประชาชนใช้ไขไปสู่ประโยชน์ในด้านต่างๆได้
การพิทักษ์สิทธิผู้ป่วย
ความหมาย
เป็นการรักษา ปกป้อง หรือช่วยให้ผู้ปื่นได้รับประโยชน์ เป็นผู้แทนในการตัดสินใจและลงมือกระทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ป่วย
ความสำคัญ
เพื่อเป็นหลักในการรักา ปกป้องและเป็นผุ้แทนเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดตามสิทธิที่ผู้ป่วยพึงได้รับ
การทำหน้าที่พิทักษ์สิทธิ
1.การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิ์ที่ผู้ป่วยพึงได้รับ ให้ผู้ป่วยพึงเข้าใจอย่างชัดเจน
2.การป้องกันไม่ให้มีการละเมิดสิทธิผู้ป่วย
3.การช่วยพิทักษ์คุณค่าความเป็นมนุษย์และปกป้องการล่วงละเมิดศักดิ์ศรี ความเป็นส่วนตัว
การเข้าถึงบริการสุขภาพ
ความหมาย
คือการบริการที่รัฐจัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่าเท่าเทียมกัน ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญ
เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการอย่างทั่วถึงและและลดความเหลื่อมลำ้ในการรับบริการ
ปัจจัยในการเข้าถึงการรับบริการ
1.ค่าใช้จ่าย
2.คุณภาพการให้การบริการ
3.ความสะดวกในการเข้าถึงการรักษา
เอกสิทธิ์ของพยาบาล
ความหมาย
การรับรู้อายุ เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ในการที่สามรถตัดสินใจในการปฏิบัติงาน
ประกอบด้วย 8 ข้อ
3.การปฏิบัติจากผู้ร่วมงานอย่างเท่าเทียมกัน
4.การรับเลือกเข้าทำงานโดยชอบตามหลักของคุณธรมและจริยธรรม
5.การได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมเหมาะสมกับภาระ หน้าที่
6.การได้รับสวัสดิการ ความมั่นคงและปลอดภัย
7.การรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์ปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบวิชาชีพ
8.การร้องเรียนขอความเป็นธรรมตามกฎหมายหากได้รับการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรม
1.มีเอกสิทธิ์การประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย อย่างเป็นอิสระและด้วยความรับผิดชอบในการกระทำ
2.การปฏิเสธ การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรืออาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้บริการ
ขอบเขตของพยาบาล
1.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วย
2.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการจัดการกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวมดเร็วในสถานกการณ์ต่างๆ
3.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการจัดการกับภาวะสุขภาพและความเจ็บป่วย
4.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการบริหาร การจัดการระบบสุขภาพ
5.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการเฝ้าระวังโรคและติดตามเพื่อควบคุมคุณภาพของการให้บริการ
6.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการสอนให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลสุขภาพ
7.การปฏิบัติการพยาบาลด้านการจัดระบบงานและกระบวนการสาธรณสนเทศ มีการให้ข้อมูลข่าวสาร
หน้าที่ของพยาบาล
1.การประเมินปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยทันที ที่รับไว้ในความดูแล
2.การดูแลความปลอดภัย เช่นการจัดสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
3.การช่วยเหลือบรรเทาอาการด้านร่างกายและจิตใจ ได้แก่ การบรรเทาอาการปวด
4.การจัดการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติงาน ตามแนวทางที่กำหนด เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการทำงาน
5.การจัดการดูแลอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ให้เพียงพอในภาวะฉุกเฉิน
6.การสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ป่วย เช่น การให้ข้อมูล การช่วยเหลือ
7.การป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา เช่นการให้เลือด
8.การให้การดูแลต่อเนื่อง เช่น การเฝ้าระวัง สังเกตอาการ การส่งต่อแผนการรักษาพยาบาล
การสร้างเสริมความเป็นเอกภาพของวิชาชีพพยาบาล
ความหมาย
ความต้องการให้พยาบาลรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อผดุงเกียรติ ความสามัคคี ในวิชาชีพ
1.การให้ความรักและให้เกียรติแก่ผู้ร่วมวิชาชีพ ไม่คิดร้าย หรือทาลายเกียรติ ไม่ว่าจะเป็นทาง ความคิด พูด หรือการกระทำ
ร่วมกันสร้างเสริมเพื่อการผดุงเกียรติ ชื่อเสียงขององค์กรที่ทำงานและวิชาชีพของตน
ให้ความร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพทุกระดับอย่างจริงใจ และทุกโอกาส
ร่วมกระทำกิจกรรมเกี่ยวกับวิชาชีพทั้งด้านความคิด แรงงาน และทรัพย์สินตามศักยภาพของตน
เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม
มีแนวทาง หรือแสวงหาวิธีการผดุงความสามัคคีในกลุ่มผู้ร่วมวิชาชีพ และธำรงรักษาไว้อย่างเข้มแข็ง
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นเพียรพยายามแสวงหาวิถีทางเพ่ือคลี่คลายหรือแก้ไขปัญหาด้วยความ
อดทน และจริงใจ ให้บังเกิดสันติสุขในสังคม
จรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาล
ความหมาย
เป็นมาตรฐานความประพฤติและวิจารณญาณทางศีลธรรมและวิชาชีพ เป็นกฎเกณฑ์หรือแบบแผนของความประพฤติ สำหรับยึดถือเป็นแนวปฏิบัติของผู้ประกอบวิชาชีพ
ความสำคัญ
เพื่อให้เห็นความเอกภาพ จรรณยาบรรณของพยาบาลได้ซึ่งแต่ละข้อมีความหมายครอบคลุมการปฏิบัติหน้าที่ทางจริยธรรมแต่ละหมวดอย่างกว้างขวาง
ประกอบด้วย 9 ข้อ ได้แก่
1.พยาบาลรับผิดชอบต่อประชาชน ผู้ต้องการการพยาบาลและบริการสุขภาพ
2.พยาบาลประกอบวิชาชีพด้วยความเมตตา กรุณา เคารพในคุณค่าของชีวิต ความมีสุขภาพดี และความผาสุขของเพื่อนมนุษย์
3.พยาบาลมีปฏิสัมพันธ์วิชาชีพกับผู้ใช้บริการ ผู้ร่วมงานและประชาชนด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีและสิทธิมนุษยชยของบุคคล
4.พยาบาลยึดหลักยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมมนุษย์
5.พยาบาลประกอบวิชาชีพโดยมุ่งความเป็นเลิศ
6.พยาบาลพึงป้องกันอันตรายสุขภาพของชีวิตของผู้ใช้บริการ
8.พยาบาลพึงร่วมในการทำความเจริญก้าวหน้าให้แก่วิชาชีพการพยาบาล
7.พยาบาลรับผิดชอบในการปฏิบัติให้สังคมเกิดความเชื่อใจไว้วางใจต่อพยาบาลและวิชาชีพการพยาบาล
9.พยาบาลพึงรับผิดชอบต่อตนเองเช่นเดียวกับรับผิดชอบผู้อื่น
Reference
กรมกิจการเด็กและเยาวชน. (2558).หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในบริบทสิทธิและหน้าที่. กรุงเทพ: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
แพทยสภา, สภาการพยาบาล, สภาเภสัชกรรม, กระทรวงสาธารณสุข, ทันตแพทยสภา, สภาเทคนิคการแพทย์ และสภากายภาพบำบัด. (2558, 12 สิงหาคม). คำประกาศสิทธิและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย.
ชิดชนก มยูรภักดิ์.(2563).เอกสารการสอน เรื่องประเด็นปัญหาทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลผู้ใหญ่ที่มีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน เรื้อรังและวิกฤต.สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.
เรณู พุกบุญมี. (ม.ป.ป).
บทบาทหน้าที่ของพยาบาลในยุคThailland4.0 สืบค้นจาก
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/articleสืบค้นเมื่อ20ตุลาคม2564
.
โสรัตน์ วงศ์สุทธิธรรม และคณะ.(2559).กระบวนการปกป้องสิทธิผู้ป่วยของพยาบาลวิชาชีพ.วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.ปีที่ 24(2).หน้าที่ 27-39.
วรรณี ศรีวิลัย.(ม.ป.ป). ขอบเขตการปฎิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพ
สืบค้นจาก
https://sites.google.com/site/karnphayabal/nursing/hnathi-hlak-thang-khlinikh-khxng-phyabal-wichachiph
สืบค้นเมื่อ20ตุลาคม2564.
มนัส จาดยางโทน. (2562). จริยธรรมวิชาชีพและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป.สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2564 จาก
http://www.bcnb.ac.th/bcnb/uploads/documents/wg4/20190306_153315_118_3761.pdf
สุรชัย ศรีสารคาม. (ม.ป.ป). บทความเกี่ยวกับหลักสิทธิมนุษยชน. สิทธิตามกฎหมาย. สืบค้นจาก
https://english.constitutionalcourt.or.th
. สืบค้นเมื่อ 20 ตุลาคม 2564.
น้ำฝน ฤทธิภักดี. (2564). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา NUR60-331 การพยาบาลเด็กและวัยรุ่น. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์:นครศรีธรรมราช.
เกียรติกำจร กุศลเเละคณะ.(2564).เอกสารประกอบการสอนรายวิชา NUR60-315 จริยศาสตร์เเละกฏหมายวิชาชีพทางสุขภาพ.มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์:นครศรีธรรมราช.