ทารกเพศหญิง
การซักประวัติ
1.ซักประวัติมารดาเกี่ยวกับน้ำหนักก่อนและหลังคลอด, การดูแลสุขภาพก่อนและหลังตั้งครรภ์, ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ, ความถี่และปริมาณในการดื่มแอลกอฮอลก์, นอกจากบิดามีบุคคลรอบข้างสูบบุหรี่อีกหรือไม่
2.การซุกประวัติบิดา ปริมาณและความถี่ในการสูบบุหรี่ และพื้นที่ที่ชอบสูบบุหรี่
สาเหตุและพยาธิสภาพ
สาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของ umbilical vein เส้นขวาสลายเร็วกว่าปกติ ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องขาดเลือด ส่งผลให้เกิดการตายของผนังหน้าท้อง จนเกิดเป็นช่องโหว่ อวัยวัในช่องท้องจึงออกมาภายนอก
การตรวจร่างกาย
1.ตรวจระบบช่องท้อง คลำชีพจรบริเวณหน้าท้อง ฟังเสียงลำไส้ และดูรูปร่างและลักษณะของหน้าท้อง
2.ตรวจระบบหายใจ สังเกตลักษณะการหายใจ รูปร่างและการเคลื่อนไหวของทรวงอก
3.ตรวจระบบผิวหนัง สีและลักษณะความผิดปกติของผิวหนัง
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจแล็ป CBC และอิเล็กโตรไลท์
การป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ปัญหาทางการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยก่อนการผ่าตัด
1.มีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ เนื่องจากทารกมีลำไส้ออกมาสัมผัสกับผิวหนังด้านนนอก
2.เสี่ยงต่อการติดเชื้อและการตายของลำไส้ (NEC) เนื่องจากการยื่นของอวัยวะในช่องท้องออกมาภายนอก
3.เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาการ เนื่องจากทารกก่อนกำหนด ทำให้มีอวัยวะยังทำงานไม่สมบูรณ์
ข้อวินิจฉัยหลังการผ่าตัด
1.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องแรงดันในทรวงอกเพิ่มขึ้น
2.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน (Abdominal compartment syndrome) หลังการผ่าตัด
3.เสี่ยงต่อภาวะพร่องสารน้ำ เนื่องจากการทำงานของลำไส้ลดลง
4.เสี่ยงต่อการติดเชื้อแผลผ่าตัด
5.เตรียมความพร้อมผู้ป่วย ก่อนการจำหน่าย
1.สังเกตอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อ
2.การดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้สะอาดลดการติดเชื้อ
3.การดูแลสุขลักษณะรอบตัวทารกให้สะอาดลดการติดเชื้อ และลดการเกิดเนื้อตายบริเวณแผลผ่าตัด
การรับวัคซีน
วัคซีนแรกเกิดที่ควรได้รับ คือ BCG และ HBV
วัคซีนที่จะได้รับถัดไปในเดือนแรกคือ HBV
การส่งเสริมพัฒนาการ
การจัดท่านอนทารกให้คล้ายกับการอยู่ในครรภ์มารดา คือ จัดให้แขนขางอเข้าหาลำตัว มืออยู่ใกล้ริ่มฝีปาก
การกอดแบบ Kangaroo mother care ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิและอัตราการเต้นของหัวใจ
การสัมผัสเบาๆจากบิดาและมารดา เพื่อส่งเสริมให้ทารกมีการตอบสนองต่อการสัมผัส โดยการงอแขนหรือกางแขนออก