Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Necrotizing Fasciitis โรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า, Ischemic…
Necrotizing Fasciitis
โรคแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า
พยาธิสภาพ
ผู้ป่วยส่วนมากจะมีประวัติการบาดเจ็บ เชื้อจะฝังตัวในเนื้อเยื่อชั้นลึกในตอนแรกยังไม่พบความผิดปกติที่ผิวหนัง ต่อมาเชื้อจะมีการกระจายไปตามชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ถ้าเป็นบริเวณแขนขาที่มีผังผืดมากเชื้อจะสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วโดยมีการติดเชื้อเข้าในระบบต่อมน้ำเหลืองและหลอดเลือดดำ จะเกิดกล้ามเนื้ออักเสบหรือกล้ามเนื้อตายได้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากผิดปกติซึ่งเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อและเส้นประสาทและผิวหนังทำให้เกิดการขาดเลือดและการตายตามมา
อาการ
ระยะแรกหลังการติดเชื้อภายใน 1 วัน มีอาการดังนี้
ผิวหนังบริเวณรอบ ๆ บาดแผลร้อนหรือมีสีแดง
รู้สึกปวดบาดแผลมากผิดปกติ
บริเวณที่เกิดการติดเชื้อเกิดการเปลี่ยนสี หรือมีของเหลวซึมออกมา
มีตุ่มแดงเล็ก ๆ ถุงน้ำ จุดดำ
ตึงบริเวณกล้ามเนื้อ
มีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ
มีภาวะขาดน้ำ โดยมีอาการ เช่น กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อย
เมื่อติดเชื้อไปแล้ว 3-4 วัน
มีอาการรุนแรงมากขึ้น
บริเวณที่เกิดการ
ติดเชื้ออาจมีอาการบวม
มีผื่นสีม่วงขึ้น
มีตุ่มน้ำสีเข้มที่ส่งกลิ่นเหม็น
ผิวหนังอาจเกิดการเปลี่ยนสี
เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจหลุดลอกออก
ติดเชื้อเข้าสู่วันที่ 4-5 วัน
ผู้ป่วยอาจมีภาวะวิกฤติ
ความดันโลหิตต่ำ
Shock
หมดสติได้
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น สเตรปโตค็อคคัส กลุ่มเอ (Group A Streptococcus) คลอสตริเดียม (Clostridium) เคล็บเซลลา (Klebsiella) สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) อีโคไล (E. Coli) และแอโรโมแนส ไฮโดรฟิลา (Aeromonas Hydrophila)
ปล่อยสารพิษทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังและกล้ามเนื้อ
ส่งผลให้เนื้อเยื่อตายได้
เข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางผิวหนังหรือกระแสเลือดผ่านทางแผลถูกบาด แผลถลอก รอยข่วน แมลงกัดต่อย การใช้เข็มฉีดยา หรือแผลผ่าตัด
การวินิจฉัย
ตรวจร่างกาย เพื่อดูอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น คลำได้ฟองอากาศใต้ผิวหนัง
ตรวจด้วยเครื่อง CT Scan
MRI Scan
ตรวจเลือดหรือตรวจภาพถ่าย
ตรวจตัวอย่างของเหลวหรือเนื้อเยื่อ
การรักษา
การใช้ยา
ยาปฏิชีวนะและยาลดปวดตามแผนการรักษา
Meropenam 1 mg vein drip in3 hr. q 8 hr.
colistin 150 mg v q 12 hr.
Aspirin (81) 1x1 Oral pc.
Morphine 4 mg v q 4 hr.
สารภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกลบูลินทางหลอดเลือดดำ
ให้ยาหลายชนิดร่วมกันทางหลอดเลือดดำ
การผ่าตัด
ตัดกำจัดเนื้อเยื่อที่เสียหายหรือตาย
เพื่อหยุดการกระจายของเชื้อ
ผู้รับบริการทำ Excisional debridement
Ischemic heart disease โรคหัวใจขาดเลือด
ภาวะที่หลอดเลือดแดง (Coronary Artery)
ที่เลี้ยงหัวใจตีบหรือตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไปเลี้ยงลดลงหรือไม่มีเลย
และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย (Acute myocardial infraction : AMI )
ผู้รับบริการเป็น NF Rt thigh ได้ทำการผ่าตัด Excisional debridement → ผู้รับบริการเสียเลือดมากปริมาณเลือดในร่างกายลดลง ปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกายลดลง ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดเพื่อขนส่งออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงทั่วร่างกายเพียงพอ รวมทั้งมีโรคประจำตัว IHD ภาวะที่หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงหัวใจตีบหรือตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไปเลี้ยงลดลง → Low cardiac
output → ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อน Hypovolemic Shock
พยาธิสภาพ
เริ่มจากการอักเสบของเซลล์บุผนังชั้นในหลอดเลือด (Endothelium cell)จากปัจจัยต่าง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นคราบไขมัน Plaque formation
ระยะที่ 1
ระยะการเกิดคราบไขมัน (Fatty streak) มีการสะสม LDL หลั่ง cytokine ดึง monocyte เข้าไปในผนังหลอดเลือด
ระยะที่ 2
คราบไขมันเกิดการอักเสบและขยายตัวก้อนใหญ่ขึ้น โดยกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด (Smoot muscle cells ; SMCs) แทรกตัวเข้าไปรวมกับfome cell เกิดเป็นคราบไขมันและผังผืด (fibro-fatty kesion) ทำให้หลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้น ผนังหลอดเลือดชั้นในบางลง
ระยะที่ 3
เป็นระยะที่เกิดพังผืดมาหุ้ม โดยแคลเซียมมาสะสมในคราบไขมันร่วมกับการตายของ SMCs และเซลล์ไขมันอื่นๆ (apoptosis) เกิดเป็นพังผืดรอบๆ ก้อนไขมันซึ่งเต็มไปด้วยเซลล์ที่ตาย เป็น Fibrous plaques ซึ่งเพิ่มความหนา และแข็งแก่หลอดเลือดแดง
ปัจจัยเสี่ยง
เพศชายมากกว่าเพศหญิง 3-5 เท่า
สูบบุหรี่
ไขมันในเลือดสูง
4.ขาดการออกกำลังกาย
โรคความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน
อ้วน
มีบุคลิกภาพเจ้าอารมณ์ โกรธ โมโหง่าย เครียดเป็นประจำ
มีประวัติโรคหัวใจขาดเลือดของคนในครอบครัว
อาการ
อาการเจ็บหน้าอก (Angina Pectoris)
เจ็บหน้าอกแบบคงที่ (Stable Angina) เป็นอาการเจ็บหน้าอกเมื่อมีการออกแรงมากๆเช่น ขณะวิ่ง โกรธ เครียด แต่อาการจะทุเลาลงถ้าหยุดพักจากการออกแรงในกิจกรรมนั้นๆ หรือคลายจากอารมณ์ โกรธ เครียด จะมีอาการประมาณ 3 – 5 นาที นานที่สุดไม่เกิน 20 นาที
เจ็บหน้าอกเฉียบพลันหรือแบบไม่คงที่ (Unstable Angina) เป็นอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่สัมพันธ์กับการออกแรง เจ็บได้ในขณะพัก เจ็บนานเกิน 20 นาที ซึ่งมักมีภาวะช็อกและหัวใจวาย มีกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน (Myocardial Infarction) สาเหตุมาจากหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และอาจมีอาการร่วมอื่นๆ ได้แก่ ใจสั่น วิงเวียน ศีรษะ หน้ามืด จากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อาการคลื่นไส้ อาเจียน อาการของภาวะหัวใจวาย ได้แก่ เหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ หรือมีภาวะช็อก เหงื่อออก ตัวเย็น หมดสติ หรือเสียชีวิต
การวินิจฉัย
สอบถามอาการเบื้องต้น
การตรวจเลือดช่วยวินิจฉัยระดับความรุนแรง
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography , ECG)
การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test)
การฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angiography)
การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนของหัวใจ (Echocardiography)
การรักษา
รักษาด้วยยา Enoxaparin 0.6 ml v q 12 hr.
การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน
การผ่าตัดบายพาสของหลอดเลือดหัวใจ