Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปการจัดทำแผนการเรียนรู้ - Coggle Diagram
สรุปการจัดทำแผนการเรียนรู้
บทที่ 6 รูปแบบของแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การกระทำกิจกรรมใดก็ตามให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพย่อมเกิดขึ้นจากการคิดไตร่ตรองและเตรียมการไว้ล่วงหน้าว่าต้องทำสิ่งใดตามลำดับขั้นตอนก่อนหลังการจัดการเรียนรู้ก็เช่นกันหากครูผู้สอนได้คิดไตร่ตรองและเตรียมการไว้ล่วงหน้าในรูปแบบของแผนการจัดการเรียนรู้ย่อมช่วยให้สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างเป็นระบบมีคุณภาพช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้บรรลุตามความมุ่งหมายของหลักสูตร
ความหมายของแผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ (Lesson Plan) หมายถึง การเตรียมการจัดการเรียนรู้ไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบและ เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการจัดการเรียนรู้ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ใดสาระการเรียนรู้หนึ่งให้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายที่หลักสูตรกำหนดแผนการจัดการเรียนรู้มี 2 ระดับ ได้แก่ ระดับหน่วยการเรียน (Unit Plan) และระดับบทเรียน (Lesson Plan)
ประโยชน์ของการทำแผนการจัดการเรียนรู้
เพื่อให้เห็นความต่อเนื่องของการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตร
เพื่อให้จัดการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับความถนัดความสนใจและความต้องการของผู้เรียน
เพื่อให้สามารถเตรียมวัสดุอุปกรณ์และแหล่งเรียนรู้ให้พร้อมก่อนทำการสอนจริง
เพื่อให้ครูผู้สอนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในการเรียนรู้
เพื่อให้เกิดการปรับปรุงวิธีการจัดการเรียนรู้จากข้อจำกัดที่พบ
เพื่อเป็นเครื่องบ่งชี้ความเป็นวิชาชีพของครูผู้สอน (แผนการจัดการเรียนรู้เป็นลักษณะเฉพาะของวิชาชีพครู)
เพื่อเป็นหลักฐานสำหรับการพิจารณาผลงานและคุณภาพในการปฏิบัติการสอน
เพื่อให้ผู้อื่นสอนแทนได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น
องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้
หัวเรื่อง (Heading)
สาระสำคัญ (Concept)
จุดประสงค์การเรียนรู้ (Objective)
เนื้อหา (Content)
กิจกรรมการเรียนรู้ (Activities)
สื่อการเรียนรู้ (Material & Media)
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment)
รูปแบบของแผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหน่วยงานต้นสังกัดสถานศึกษาหรือครูผู้สอน ที่จะเลือกใช้รูปแบบ ที่คิดว่ามีความเหมาะสมและสะดวกต่อการนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้
แผนการจัดการเรียนรู้แบบบรรยายหรือแบบเรียงหัวข้อ
แผนการจัดการเรียนรู้ชนิดนี้ จะเป็นรายละเอียดขององค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ตามลำดับโดยใช้ความเรียงเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยม แต่มีข้อจำกัด ในกรณีที่รายละเอียดอยู่คนละหน้ากันจึงยากต่อการมองเห็นความสัมพันธ์ของแต่ละองค์ประกอบ
แผนการจัดการเรียนรู้แบบตาราง
แผนการจัดการเรียนรู้ชนิดนี้ เป็นการนำรายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้มาเขียนลงในตารางภายในหน้าเดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นความสัมพันธ์ของแต่ละองค์ประกอบ แต่มีข้อจำกัดในด้านพื้นที่ในการเขียนและภาระในการตีตาราง
นอกจากแผนการจัดการเรียนรู้ทั้งสองรูปแบบที่กล่าวมาแล้ว กรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอตัวอย่างรูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้ไว้เป็นกรอบ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติซึ่ง ผู้ใช้สามารถนำไปปรับได้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม
ลักษณะของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดี
กิจกรรมกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบและสร้างความรู้ด้วยตนเอง
กิจกรรมที่เน้นกระบวนการมุ่งให้ผู้เรียนรับรู้และนำกระบวนการไปใช้จริง
กิจกรรมให้ผู้เรียนคิดและลงมือปฏิบัติให้มากที่สุด
กิจกรรมที่บูรณาการทั้งด้านความรู้ (K) คุณธรรมจริยธรรมสร้างจิตสำนึกต่อสังคม (A) และทักษะกระบวนการ (P)
กิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการใช้สื่อการเรียนรู้อย่างหลากหลายทั้งนี้รวมถึงแหล่งเรียนรู้ที่สามารถจัดหาได้ในท้องถิ่น
กิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนทำงานร่วมกับผู้อื่น
กิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนสร้างผลงานจากการปฏิบัติ
กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
กิจกรรมที่พัฒนาความสามารถเฉพาะบุคคล
กิจกรรมที่พัฒนาทักษะในการใช้ภาษา
บทที่ 7 การเขียนรายละเอียดในองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพนั้น นอกจากต้องอาศัยความเข้าใจ รูปแบบและองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ดังที่กล่าวมาแล้ว ยังต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการเขียนรายละเอียดภายในองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ที่เขียนขึ้น จึงเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพในการนำไปใช้ ดังที่จะเสนอต่อไปนี้
การเขียนเนื้อหา (Content)
เนื้อหา เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ครูผู้สอนเห็นภาพของสิ่ง ที่จะต้องสอนโดยรวมประกอบด้วย ทฤษฎี หลักการ วิธีการ ขั้นตอน หรือแนวปฏิบัติ การระบุเนื้อหาในแผนการจัดการเรียนรู้
มีแนวการเขียนดังต่อไปนี้
กำหนดเนื้อหาของการจัดการเรียนรู้แต่ละครั้งให้เหมาะสมกับระยะเวลาวัย และความสามารถของผู้เรียน
เขียนเนื้อหาแบบย่อโดยสรุปเป็นหัวข้อ หรือเป็นประเด็นหากมีเนื้อหามากให้ทําเป็นใบความรู้ระบุไว้ในภาคผนวกท้ายแผนการจัดการเรียนรู้
เขียนให้สอดคล้องกับสาระสำคัญและจุดประสงค์การเรียนรู้
เขียนเนื้อหาที่จะให้ผู้เรียนเรียนรู้ไว้ตามลำดับ หากแบ่งเป็นหัวข้อย่อยได้ควรแบ่งเพื่อความชัดเจน
การเขียนกิจกรรมการเรียนรู้ (Activities)
คุณลักษณะของกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล
เหมาะสมกับธรรมชาติและวัยของผู้เรียน
ผู้เรียน คือหัวใจสำคัญของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพราะหากไม่มีผู้เรียนแล้วการจัดการเรียนรู้จะไม่เกิดขึ้น ครูผู้สอนจึงจำเป็นต้องรู้พื้นฐานของผู้เรียนที่ตนจะสอนก่อนว่าเป็นอย่างไร เมื่อคัดเลือกกิจกรรมการเรียนรู้จึงจำเป็นต้องคำนึงว่าจะจัดอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับธรรมชาติ วัย ความสามารถ และความสนใจของผู้เรียนเป็นส่วนรวม
เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในโรงเรียนและชีวิตจริง
สภาพแวดล้อมในที่นี้ หมายถึง ทั้งในและนอกห้องเรียน ในโรงเรียนและในชุมชน ครูผู้สอนต้องมีข้อมูลว่า มีวิทยากรท้องถิ่นหรือแหล่งวิทยาการใดบ้างที่จะใช้ได้ เพราะอาจมีกิจกรรมบางอย่างที่ครูผู้สอนต้องการนำมาใช้ ผู้สอนควรออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสภาพของห้องเรียนโรงเรียนและชุมชน
ฝึกกระบวนการที่สำคัญให้กับผู้เรียน
กิจกรรมการเรียนรู้ควรเป็นกิจกรรมที่ฝึกให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะกระบวนการที่สำคัญซึ่ง กระบวนการในที่นี้หมายถึง
การมีขั้นตอนต่าง ๆ ให้ผู้เรียนได้แสดงออก หรือฝึกปฏิบัติโดยใช้ร่างกายความคิดการพูดในการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดผลการเรียนรู้คือได้ความรู้ความเข้าใจ และเจตคติหลังจากทำกิจกรรม
การปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความสามารถ ในการปฏิบัติเป็นขั้นตอนติดตัวไปใช้ในชีวิตจริง
กิจกรรมการเรียนรู้โดยทั่่วไป คือ การจัดให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์อย่างมีจุดมุ่งหมายผ่านทางประสาทสัมผัส และช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ
เป้าหมาของกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการ คือ การสอนที่ครูผู้สอนหลีกเลี่ยงการเป็นผู้บอกความรู้แก่ผู้เรียนโดยตรง แต่จะจัดให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างเหมาะสมกับจุดประสงค์การเรียนรู้ธรรมชาติ และวัยของผู้เรียนลักษณะของเนื้อหาวิชาและสภาพสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชีวิตจริง
กระบวนการที่ครูสามารถนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมประกอบด้วย
2) กระบวนการของศาสตร์ต่างๆ เช่น กระบวนการเรียนภาษา กระบวนการเรียนคณิตศาสตร์ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการทางวิชาชีพ กระบวนการทางศิลปะดนตรีนาฏศิลป์ พลศึกษา เป็นต้น
3) ทักษะกระบวนการ 9 ขั้น ซึ่งจะพัฒนาคุณลักษณะผู้เรียน ในด้านการคิดการแก้ปัญหาการปฏิบัติ และการมีเจตคติที่ดีต่อการคิด และการปฏิบัติ
1) กระบวนการเรียนรู้ตามหลักจิตวิทยา เช่น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอดกระบวนการเรียนรู้ความคิดของ Bloom
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้การที่ผู้เรียนมีบทบาทเป็นผู้กระทําในการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมและกระตือรือร้นที่จะเรียนอย่างมีชีวิตชีวา
กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ คือกิจกรรมที่มีลักษณะดังนี้
2) ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดทำและแสดงออก
3) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อหรือกลุ่ม
4) ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้และปฏิบัติอย่างมีขั้นตอนหรือเป็นกระบวนการ
1) ส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นพบและสร้างความรู้ด้าด้วยตนเอง
5) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีผลงานจากการปฏิบัติ
6) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการประเมินตนเองและเพื่อน
7) ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหา
กิจกรรมการเรียนรู้จะต้องสะท้อนจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดทุกข้อ โดยนอกจากจะต้องสร้างเสริมพฤติกรรมและทักษะที่มุ่งเน้นทุกด้านตามจุดประสงค์การเรียนรู้แล้วจะต้องสร้างมโนทัศน์
แนวการเขียนกิจกรรมการเรียนรู้
แนวการเขียนดังต่อไปนี้
เขียนเป็นข้อตามลำดับขั้นตอนของการจัดการเรียนรู้
เขียนโดยระบุให้รู้ว่ากิจกรรมการเรียนรู้แต่ละขั้นใครเป็นผู้มีบทบาท ผู้เรียน ครูผู้สอน หรือทั้งผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันกระทำ เป็นต้น
เขียนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหาวิธีการและการปฏิบัติ
ไม่ควรระบุรายละเอียดของคำพูดทั้งคำพูดของของผู้สอนและผู้เรียน
กิจกรรมการเรียนรู้ควรมีลักษณะดังนี้
ฝึกกระบวนการที่สําคัญ
เหมาะสมกับธรรมชาติและวัยของผู้เรียน
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ในห้องเรียน โรงเรียน และชีวิตจริง
สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหา
กิจกรรมการเรียนรู้ คือ สภาพการเรียนรู้ที่กำหนดขึ้นเพื่อนำผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย หรือจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนด การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา และสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ จึงเป็นความสามารถและทักษะของครูผู้สอนมืออาชีพ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล
การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ (Objective)
จุดประสงค์หรือวัตถุประสงค์ คือ ข้อความที่ระบุลักษณะด้านเนื้อหาความรู้ ด้านคุณธรรมจริยธรรมหรือเจตคติ และด้านทักษะกระบวนการ ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนหลังจากที่ได้เรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Objective)
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม คือ จุดประสงค์ที่บ่งชี้ถึงพฤติกรรมที่ผู้เรียนสามารถแสดงออกหลังจากที่ได้เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครูกำหนดไว้ ต้องเป็นพฤติกรรมที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สมบูรณ์ควรจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ สถานการณ์หรือเงื่อนไขที่ครูคนนตั้งขึ้น (Condition) พฤติกรรมของผู้เรียนที่คาดหวังให้แสดงออก (Terminal Behavior) และเกณฑ์บ่งชี้ความสามารถของนักเรียนที่แสดงพฤติกรรม (Criteria)
1.1 สถานการณ์ที่ครูตั้งขึ้น
มักจะใช้คำว่า: หลังจากทีเมื่อนำ .., เมื่อกําหนด .., เมื่อนำ.., เมื่อ.. ฯลฯ
1.2 พฤติกรรมของนักเรียนที่ครูคาดหวังให้แสดงออกมา
มักจะใช้คำว่า : อธิบาย, บรรยาย, บอก, เขียน, วาด, ชี้, คำนวณ, ตอบ, ท่อง, เปรียบเทียบ, สร้าง, ทดลอง, วิเคราะห์ยกตัวอย่าง, สาธิต ฯลฯ
คำที่ไม่ควรนำมาใช้ : รู้, เข้าใจ, ซาบซึ้ง, ตระหนัก, จินตนาการ ฯลฯ
1.3 เกณฑ์ของระดับความสามารถของพฤติกรรมที่นักเรียนแสดงออก
มักจะใช้คำว่า: ได้ถูกต้อง, ได้ทุกข้อ, ได้ 8 ข้อใน 10 ข้ออย่างน้อย 5 ชื่อ, ภายใน 10 นาที ฯลฯ
จุดประสงค์ปลายทางและจุดประสงค์นำทาง
จุดประสงค์ปลายทาง
คือ ข้อความที่ระบุถึงสิ่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนหลังจากที่ได้เรียนรู้ ในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้
จุดประสงค์นำทาง
คือ จุดประสงค์ย่อยที่แตกออกจากจุดประสงค์ปลายทาง เพื่อแสดงให้เห็นพฤติกรรมที่คาดหวัง ให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนเมื่อผู้เรียนแสดงพฤติกรรมได้ตามที่กำหนดไว้ ก็จะบรรลุเป้าหมายของจุดประสงค์ปลายทาง จุดประสงค์นำทาง นิยมเขียนในรูปแบบของจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
แนวทางการเขียนจุดประสงค์
เขียนให้เห็นรายละเอียดของพฤติกรรมที่สามารถวัดและสังเกตได้
เขียนด้วยภาษาที่รัดกุมชัดเจนและสื่อความได้ดี
เขียนให้ครอบคลุมทั้งด้านเนื้อหาความรู้ (K) ด้านคุณธรรมจริยธรรมหรือเจตคติ (A) ด้านทักษะกระบวนการ (P)
หากมีจุดประสงค์ข้อเดียวไม่ต้องใส่ลำดับเลขหัวข้อ
เขียนให้สัมพันธ์กับสาระสำคัญ
การสื่อการเรียนรู้ (Material & Media)
สื่อการเรียนรู้ คือ สิ่งที่เป็นตัวกลางที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีแนวการเขียนดังต่อไปนี้
ระบุเฉพาะสื่อที่ใช้จริงในการจัดการเรียนรู้
ระบุชนิดและรายละเอียดของสื่อการเรียนรู้ เช่น รูปภาพยุงลาย แผนภูมิเพลง คุณธรรมสี่ประการ แถบบันทึกภาพและเสียงเรื่องชีวิตในบ้าน เป็นต้น
กรณีที่เป็นสื่อที่ใช้เพื่อทำกิจกรรมเป็นรายกลุ่มหรือรายบุคคล ให้ระบุจำนวนชิ้นต่อกลุ่มหรือต่อรายบุคคล
ไม่ควรระบุสิ่งที่มีอยู่แล้วอย่างถาวรในห้องเรียนว่าเป็นสื่อการเรียนรู้ เช่นกระดานดำ ชอล์ก ดินสอ ปากกา เป็นต้น
ระบุสื่อที่สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้
2.การเขียนสาระสำคัญ (Concept)
สาระสำคัญ คือข้อความที่เขียนเพื่อระบุให้เห็นแก่น หรือข้อสรุปที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน หลังจากการเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทั้งด้านเนื้อหาความรู้ ด้านทักษะ หรือด้านเจตคติ ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะเหมาะของเรื่องที่นำเสนอ
มีแนวในการเขียนดังนี้
เขียนในลักษณะของการสรุปเนื้อหาความรู้ทักษะหรือเจตคติที่เป็นเป้าหมายด้วยภาษาที่รัดกุมและชัดเจน
เขียนในลักษณะความเรียงหรือเขียนเป็นข้อในกรณีที่จัดการเรียนรู้ครั้งนั้นมีมากกว่า 1 สาระสำคัญ
การจัดการเรียนรู้ในระดับชั้นต้น ๆ ควรมีสาระสำคัญเดียวในการเรียนรู้ครั้งหนึ่ง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment)
การวัดเป็นการรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การสอบถาม การตรวจผลงาน และการทดสอบเป็นต้น
ส่วนการประเมินผล เป็นการกำหนดค่า หรือตัดสินสิ่งที่วัด เช่น ผ่าน-ไม่ผ่านดี-ปานกลาง-อ่อน หรือ กำหนดค่าเป็นระดับ 4 3 2 1 0 เป็นต้น
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นการกระทำเพื่อตรวจสอบว่า ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้หรือไม่
มีแนวการเขียนดังต่อไปนี้
ระบุวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
ระบุวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ว่าจะใช้วิธีการใดบ้าง
ระบุเนื้อหาที่ต้องการวัดและประเมินผล
ตัวอย่างการเขียนวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
สอบถามวิธีการดูแลรักษาเครื่องมือการเกษตร
สอบถามความหมายของคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอวัยวะ
สังเกตการออกเสียงคำควบกล้ำ
ตรวจแบบฝึกหัดเรื่องการบวก
สังเกตความสนใจในการเรียน
ตรวจการเขียนบรรยายภาพ
การเขียนส่วนหัวเรื่อง (Heading)
ส่วนหัวเรื่องเป็นส่วนแรกของแผนการจัดการเรียนรู้เป็นส่วนที่บอกรายละเอียดเบื้องต้น ของแผนการจัดการเรียนรู้ มีแนวการเขียนดังต่อไปนี้
ระบุลำดับที่ของแผนการจัดการเรียนรู้
ระบุหัวข้อเรื่อง
ระบุกลุ่มสาระการเรียนรู้
ระบุเวลาที่ใช้จัดการเรียนรู้
ระบุระดับชั้นที่สอน
ระบุวันที่ เดือน ปี และช่วงเวลาในการจัดการเรียนรู้