Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาปฏิชีวนะและยาต้านจุลชีพ - Coggle Diagram
ยาปฏิชีวนะและยาต้านจุลชีพ
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)
กลไกการออกฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะต่อแบคทีเรีย
ขัดขวางการสร้างผนังเซลล์ ์ เช่น Penicillins, Cephalosporins ยา
กลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ดีมากในระยะเวลาที่จุลชีพเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขัดขวางการทํางานของเยื่อหุ้มเซลล์ เช่น Polypeptide antibiotic, antifungal antibiotic ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ทันทีที่สัมผัสกับจุลชีพ
และจับติดแน่น กับเยื่อหุ้ม ไซโตพลาสอยู่นาน
3.ขัดขวางการสร้างโปรตีนในเซลล์ เช่น Macrolide antibiotic, Aminoglycoside,Tetracycline, Chloramphenical
ขัดขวางการสร้างกรดนิวคลีอิค เช่น Griseofulvin, Rifampicin
ทําให้ขบวนการสร้างโปรตีนของแบคทีเรียผิดปกติ เช่น Aminoglycosides
ยาต้านแบคทีเรีย
1.Penicillins
คุณสมบัติทั่วไป
ยาปฏิชีวนะ penicillins ได้มาจากเชื้อรา P. notatum
ยา penicillins แบ่งเป็น 4 กลุ่ม
Natural penicillins หรือ penicillins แบบดั้งเดิม ซึ่งมีขอบเขตการต้านแบคทีเรียแคบ
ยา penicillins ที่สามารถต้านเชื้อ Staphylococcus (antistaphylococcal penicillins)
ประโยชน์การนําไปใช้
มีขอบเขตการต้านแบคทีเรียแคบ
ควรใช้เฉพาะการรักษาการติดเชื้อ staphylococci ซึ่งสร้าง β-lactamase
ในกรณีที่ผลเพาะเชื้อพบว่าเชื้อ staphylococcus aureus ดื้อต่อ methicillin แสดงว่ายากลุ่มนี้ทั้งหมดใช้ไม่ได้ผล ทางเลือกคือใช้ vancomycin
ผลข้างเคียง
เหมือนกับ natural penicillins
Methicillin ทําให้เกิดไตอักเสบจึงเลิกใช้ยานี้ในคนแล้ว
Methicillin กับ Nafcillin อาจทําให้เม็ดเลือดขาวชนิด granulocytes
Oxacillin อาจทําให้ตับอักเสบ (hepatitis)
Penicillins ที่มีขอบเขตการต้านเชื้อขยายออกไป aminopenicillins
ประโยชน์การนําไปใช้
ใช้เป็นตัวเลือกแรก (first-line drug) ในการรักษาหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน
โรคแผลในกระเพาะอาหาร (peptic ulcer) ใช้ amoxicillin ร่วมกับ clarithromycin
การติดเชื้อในทางเดินปั สสาวะ (urinary tract infection, UTI)ที่เกิดจากเชื้อ proteu, E coli หรือ enterococci
Penicillins ที่สามารถต้านเชื้อ Pseudomonas
ผลข้างเคียง
เหมือนกับ penicillins
การใช้ ampicillin ในผู้ป่วยโรค mononucleosis อาจทําให้เกิดผื่น
Ampicillin อาจทําให้เกิดผนื่ pseudomembranous colitis
กลไกการออกฤทธิ์
ยา penicillins ผ่านผนังเซลล์แบคทีเรียแล้วไปจับกับ penicillin-binding proteins (PBP) ซึ่งอยู่บนcytoplasmic membrane
ยับยั้งเอนไซม์ transpeptidase ซึ่งเป็นเอนไซม์ PBP
ทําให้ยับยั้งการสร้างผนังเซลล์(cell wall) และทำให้เซลล์แบคทีเรียแตกสลาย (lysis)
กลไกการดื้อต่อ penicillins มี 3 กลไกหลัก
การสร้าง β-lactamase เพอื่ ทําลายยา การเปลี่ยนแปลง PBP ทําให้ยาจับได้น้อยลงและ การเปลี่ยนแปลง porins ทำให้ยาผ่านเข้าได้น้อยลง
ไม่มีผลต่อแบคทีเรียที่ไม่มีผนังกั้นเซลล์หรือแบคทีเรียที่อยู่ในระยะที่ไม่ได้เจริญเติบโต
โดยปกติยา penicilins จะไมเ่ข้าสมอง ยกเว้นเมื่อ เกิดการอักเสบ เช่น เยื่อห้มุสมองอักเสบ
ประโยชน์ในการใช้
Natural penicillins มีผลต่อแบคทีเรียแกรมบวกเป็นส่วนใหญ่ เชื้อที่ไวต่อยา
streptococci(streptococcus group A, B, C, G)
Pneumococci (streptococcus pneumoniae)
Meninggococci (Neisseria meningitides)
Clostridium เช่น โรค gas gangrene
spirochetes เช่น syphilis, leptospirosis
เภสัชจลนศาสตร์
การดูดซึมจากทางเดินอาหารไม่แน่นอน ขึ้นกับปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร
ยาจับกับโปรตีนในอาหารทําให้การดดู ซึมน้อยลง
การดูด ซึมยาจะน้อยลงเมื่อ รับประทานพร้อมอาหาร
ควรกินยาตอนท้องว่าง (1 ชั่วโมงก่อนอาหาร หรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร)
ผลข้างเคียง
ปฏิกิริยาแพ้ (hypersensitivity reactions) มีอาการผื่น ลมพิษ คัน
ชัก (seizure) อาจเกิดได้ในผู้ป่วยที่มีไตบกพร่อง และทารกแรกเกิด
เลือดจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก (hemolytic anemia)
การพยาบาล
ก่อนเริ่ม dose แรก ควรถามประวัติการแพ้ยาก่อน
ตรวจสอบวิธีการใช้ยา วิถีทาง ให้ชัดเจน
การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ควรเลือกกล้ามเนื้อที่ใหญ่และหนา
เตรียมเครื่องใช้สําหรับการช่วยเหลือฉุกเฉินให้พร้อมเสมอ
2.Cephalosporins
คุณสมบัติทั่วไป
เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่ม β-lactams โครงสร้างประกอบด้วยวงแหวน lactam
สกัดจากเชื้อรา cephalosporium acremonium
มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย (bacteriacidal activity)
กลไกการออกฤทธิ์
จับกับ peniciilin binding protein (PBP)
แล้วยับยั้ง transpeptidase ใน PBP
กระตุ้นเอนไซม์ autolysin ทําให้แบคทีเรียย่อยสลายตัวเองมากขึ้น
ผลข้างเคียง
การแพ้ยา (hypersensitivity reactions) พบประมาณ 10-15% ของผู้ป่วยที่แพ้penicillins
พิษต่อไต (nephrotoxicity) จึงต้องลดขนาดยา (dose) ในผู้ป่วยโรคไต
Disulfiram-like reactions ถ้าได้รับแอลกอฮอล์ร่วมอาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ
Coombs’test ให้ผลบวก แต่มักไม่พบว่าเกิดภาวะซีดจากเม็ดเลือดแดงแตก (hemolytic anemia)
ประโยชน์การนําไปใช้
รักษาการติดเชื้อ pneumococci ที่ดื้อต่อ penicillins
ใช้ Imipenem หรือ meropenem ร่วมกับ tobramycin
รักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะที่เกิดจาก Enterobacter
การพยาบาล
ซักประวัติการแพ้ยา
ถ้าฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะปวดมาก หากจําเป็นต้องฉีดควรฉีดให้ลึกที่กล้ามเนื้อใหญ่
Cycloserine
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้งการสังเคราะห์ peptidoglycan
ยามีผลต่อเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกและแกรมลบ แต่นิยมใช้รักษาวัณโรคซึ่งเกิดจาก เชื้อ Mycobacterium tuberculosis
ผลข้างเคียง
พิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง
อาจทําให้เกิดสั่น (tremors)
ชัก (seizures)
สับสน (confusion)
ปวดศีรษะ
มีอาการโรคจิต (psychosis)
Fosfomycin
กลไกการออกฤทธิ์
เป็นยากิน
ยับยั้ง enol pyruvate trnasferase ในแบคทีเรีย แต่ไม่มีผลต่อเอนไซม์นี้ในคน
มีผลต่อแบคทีเรียแกรมลบ เช่น E. coli, Klebsiella และ Serratia
ยามีผลน้อยมากต่อแบคทีเรียแกรมบวก
ผลข้างเคียง : พบน้อย ได้แก่ ปวดศีรษะ อาเจียน อุจจาระร่วง
ยายับยั้ง β-lactamase (β-lactamase inhibitors)
กลไกการออกฤทธิ์
ยับยั้ง β-lactamase ชนิด (class ) A
ไม่มีผลต่อ β-lactamase ชนิด B, C และ D
เมื่อให้ยาเหล่านี้อย่างเดียวจะไม่มีผลต่อแบคทีเรียแต่ต้องใช้ร่วมกับ β-lactams
ยายับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนในแบคทีเรีย
กลไกการออกฤทธิ์
-ทําให้มกีารยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนในระยะเริ่มต้น (initiation step)
-ทําให้เกิดความผิดพลาดในการอ่าน mRNA (mRNA misreading)
-aminoglycoside มฤีทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย (bacteriacidal)
เภสัชจลนศาสตร์
ขั้วมากเพราะมีประจุบวกมากในโมเลกุลเป็นเบส และละลายในน้ำทำ ให้ไม่ถูกดูดซึมจาก
ทางเดินอาหาร จึงนิยมให้ทางหลอดเลือดดํา
ยากระจายตัวได้ดีในร่างกายแต่ไม่เข้าสมองและไม่สะสมในไขมันยาสะสมอย่างมากในไตและ endolymphในหูชั้นใน ทำให้ยามีพิษต่อไตและหู
ยาถูกขับออกจากร่างกายในรปูไม่เปลี่ยนแปลงทางปัสสาวะ ต้องปรับลดขนาดยาในผู้ป่วยที่มีความบกพร่องของไต
ประโยชน์ทางการใช้
ใช้รักษาการติดเชื้อแกรมลบที่มาจากทางเดินอาหาร เช่น Escherichia
เชื้อแกรมลบที่ดื้อต่อ gentamicin อาจตอบสนองต่อ amikacin
ยา aminoglycoside ไม่มีผลต่อ Burkholderia pseudomallei
ฤทธิ์ต้านแบคทีเรียขึ้นกับความเข้มข้นของยาในเลือด ไม่ขึ้นกับเวลา และยามีpostantibiotic effect
ผลข้างเคียง
พิษต่อไต (nephrotoxicity) พบบ่อยใน gentamicin และ tobramycin
พิษต่อหู (ototoxicity) พบบ่อยใน amikacin และเกิดถาวร
ปิดกั้น neuromuscular junction ทําให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงคล้ายอัมพาต (paralysis)
ใช้ยาในหญิงมีครรภ์อาจทําให้เกิดพิษต่อ cranial nerve VIII
ยา aminoglycosides มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงโดยเฉพาะต่อหูและไต