Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาสมุนไพรตามบัญชียาหลักแห่งชาติ - Coggle Diagram
ยาสมุนไพรตามบัญชียาหลักแห่งชาติ
บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2556
(National List of Essential Medicines)
ยาแผนไทยหรือยาแผนโบราณ
ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม)
ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร
ยาแก้ไข้
ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ
ยาบำรุงโลหิต
ยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก
ยาบำรุงธาตุ ปรับธาตุ
ยาพัฒนาจากสมุนไพร
ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินอาหาร
ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ
ยารักษากลุ่มอาการทางระบบผิวหนัง
ยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก
ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะ
ยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน
ยาถอนพิษเบื่อเมา
ยาลดความอยากบุหรี่
ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินอาหาร
ขมิ้นชัน (Tumeric)
สารสำคัญคือ curcuminoids และน้ำมันหอมระเหย
ข้อบ่งใช้/ ขนาดและวิธีใช้
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา: เพิ่มการสร้างและหลั่งน้ำดี เพิ่มการบีบ
ตัวของถุงน้ำดี ขับลม ย่อยอาหาร ลดการเกร็งในกระเพาะอาหารและลำไส้
อาการไม่พึงประสงค์: ผิวหนังอักเสบจากการแพ้ เช่น ผื่นลมพิษ บวม คันตามปากและลำคอ
ข้อห้ามใช้: ห้ามใช้กับผู้ป่วยท่อน้ำดีอุดตัน
ข้อควรระวัง: ระวังการใช่ในหญิงตั้งครรภ์ เด็ก ผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี
การเกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างสมุนไพรกับยายาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin และยาต้านเกล็ดเลือด เช่น aspirin เนื่องจากมีโอกาสเลือดออกง่ายและเลือดแข็งตัวช้า
ขิง (Ginger)
สารสำคัญคือ shogaols และ gingerolsฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา: กระตุ้นการทำงานและเพิ่มการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้, 5-HT3receptor antagonist , muscarinic antagonist
ข้อบ่งใช้/ ขนาดและวิธีใช้:ท้องอืด ขับลม แน่นจุกเสียด รับประทานวันละ 2-4 กรัมป้องกันและบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการเมารถรับประทานวันละ 1-2 กรัม ก่อนเดินทาง 30 นาที-1 ชม. หรือเมื่อมีอาการป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังการผ่าตัด รับประทานครั้งละ1 กรัม ก่อนการผ่าตัด 1 ชม.
อาการไม่พึ่งประสงค์: แสบร้อนบริเวณทางเดินอาหาร ระคายเคืองบริเวณปากและคอ
ข้อควรระวัง: ระวังการใช่ในผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดี
ยาธาตอบเชย
สูตรตำรับประกอบด้วย เปลือกอบเชยเทศ และสมุนไพรอื่นเช่น การบูร ลูกกระวาน ดอกกานพลู
ข้อบ่งใช้: ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ขนาดและวิธีใช้: รับประทานครั้งละ 15-30 ml วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร
ข้อควรระวัง: ระวังการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับ ไต เนื่องจากอาจเกิดการสะสมและเกิดพิษของการบูร
มะขามแขก Alexandrin Senna
สารสำคัญคือ anthraquinone glycosides
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา: เมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกายจะทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในลำไส้ ได้สารที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้เพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้และลดการดูดน้ำในลำไส้ ช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่ม
ข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการท้องผูก
อาการไม่พึ่งประสงค์ ปวดมวนท้อง ผื่นคัน
ข้อห้ามใช้ ผู้ป่วยที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน หรือปวดท้องโดยไม่ทราบสาตุ
ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ
ฟ้าทะลายโจร (Andrographis)
สารสำคัญคือ andrographolide
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา:ลดอาการของโรคหวัด โดยลดอาการเจ็บคอ อ่อนเพลียนอนไม่หลับ น้ำมูกไหลลดการอักเสบเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายยับยั้งเชื้อแบคทีเรียบางชนิดต้านไวรัสหลายชนิด ลดไข้
ข้อบ่งใช้: บรรเทาอาการเจ็บคอ บรรเทาอาการของโรคหวัดเช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อกระทรวงสาธารณสุขให้สั่งใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นลำดับแรก(first line drug) สำหรับบรรเทาหวัดให้ใช้ฟ้าทะลายโจรแทนการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นสำหรับบรรเทาอาการเจ็บคอและไข้หวัด ตามนโยบายการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
ข้อห้ามใช้: 'หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตรห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอในกรณีดังนี้ ติดเชื้อ Streptococcus group A โรคไตอักเสบ เนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติก ติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ตุ่มหนองในคอ
อาการไม่พึงประสงค์: อาจทำให้เกิดความผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร วิงเวียนในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดอาการแพ้ เช่น ผื่น ลมพิษ หน้าบวมหยุดยาและห้ามใช้อีก
ตรีผลา
ข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ
อาการไม่พึ่งประสงค์ ท้องเสีย
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา:มะขามป้อม - กระตุ้นการหลั่งเมือกในทางเดินหายใจ ลดการกระตุ้นที่ cough receptor ยาระบายอ่อนๆสมอพิเภกㆍ ช่วยให้หลอดลมคลายตัวสมอไทยยาระบายอ่อนๆต้านอนุมูลอิสระ
ยาแก้ไอผสมมะขามป้อม
ข้อบ่งใช้: บรรเทาอาการไอ ลดอาการระคายคอ ขับเสมหะ
ㆍข้อควรระวัง: ผู้ป่วยที่ท้องเสียง่าย เนื่องจากมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นยาระบาย
ㆍการเกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างสมุนไพรกับยา :Warfarin, aspirin - มีโอกาสเลือดออกง่ายและแข็งตัวช้า
ยาประสะมะแว้ง
ข้อบ่งใช้: บรรเทาอาการไอมีเสมหะ ทำให้ชุ่มค
การเกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างสมุนไพรกับยา :
Warfarin, aspirin มีโอกาสเลือดออกง่ายและแข็งตัวช้า
ยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก
ยาสหัศธารา
ข้อบ่งใช้: ขับลมในเส้น โรคลมกองหยาบโรคลมในเส้น มือชา เท้าชา
อาการไม่พึงประสงค์:ร้อนท้อง แสบท้องคลื่นไส้ คอแห้ง ผื่นคัน
ข้อห้ามใช้: สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีไข้
ข้อควรระวัง ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคแผลในกระเพาะ อาการ โรคกรดไหลย้อน
ไพล (Cassumunar Ginger)
สารสำคัญมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ cyclooxygenase (COX) และ lipoxygenase (LOX)
ข้อบ่งใช้: บรรเทาอาการบวม เคล็ดยอก ฟกช้ำ
วิธีการใช้: ทาและนวดเบาๆ บริเวณที่มีอาการวันละ 2-3 ครั้ง
พริก (Chili pepper)
สารสำคัญคือ capsaicin
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา: กระตุ้ตัวรับบริเวณปลายประสาทรับความรู้สึก ส่งผลให้มีการหลั่งของสารสื่อประสาทจากปลายประสาทรับความรู้สึก ในช่วงแรกของการทาจึงเกิดความรู้สึกแสบปวดร้อนจากนั้นสารสื่อประสาทลดลง ทำให้อาการแสบปวดร้อนลดลง พร้อมกับสามารถลดอาการปวดบริเวณนั้นได้
ข้อบ่งใช้: บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ
วิธีการใช้: ทาและนวดเบาๆ บริเวณที่มีอาการวันละ 3-4 ครั้ง
อาการไม่พึงประสงค์: ผิวหนังแดง ปวด และแสบร้อน
ยารักษากลุ่มอาการทางระบบผิวหนัง
พญายอ
ยารักษาโรคเริมและงสวัด
ฤทธิ์ต้านไวรัส Herpes simplex virus type 1 และ type 2โดยสาสำคัญในพญายอมีฤทธิ์ทำให้ไวรัสไม่สามารถเข้าสู่เซลล์ของร่างกายและไม่สามารถแพร่กระจายต่อไปได้
ข้อบ่งใช้ ยาครีม บรรเทาอาการของเริมและงูสวัดสารละลาย (สำหรับป้ายปาก) รักษาแผลในปาก แผลจากการฉายรังสีและเคมีบำบัดยาโลชั่น บรรเทาอาการผดผื่นคัน ลมพิษ ตุ่มคันยาขี้ผึ้ง บรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมจากแมลงกัดต่อยทิ้งเจอร์ บรรเทาอาการของเริมและงูสวัด
· ขนาดและวิธีใช้: ทาบริเวณที่มีอาการ วันละ 5 ครั้ง
ยารักษาแผงไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ว่านหาจระเข้
ข้อบ่งใช้ ทาบริเวณที่มีอาการวันละ 3-4 ครั้ง
อาการไม่พึงระสงค์ อาจมีอาการคัน ผื่นแดง หรือผื่นแพ้สัมผัส
ยาครีมบัวบก
ยาสมานแผล
ข้อบ่งใช้: สมานแผล
วิธีการใช้: ทำความสะอาดแผลด้วยยาฆ่า ซื้อก่อนทายา ใช้ทาบริวณที่ปิ่นแผลวันละ 1 - 3 ครั้ง หรือตามแพทย์สั่ง
·ข้อห้ามใช้:ห้ามใช้ในแผล เปิดห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติ เป็นโรคมะริ่งผิวหนังห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยี่หร่า ผักชี
อาการไม่พึงประสงค์: อาจทำให้โกิดผื่นแพ้สัมผัส
ยารักษาอาการอื่นๆ
หญ้าดอกขาว
อาการไม่พึงประสงค์: ปากแห้ง คอแห้ง
ข้อควรระวัง: ระวังการใช่ในผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคไต เนื่องจากหญ้าดอกขาวมี potassium สูง
ยารางจืด
ยาถอนพิษเบื่อเมา
ㆍข้อบ่งใช้: ถอนพิษไข้ แก่ร้อนใน ถอนพิษเบื่อเมา
ㆍขนาดและวิธีใช้: รับประทานครั้งละ 2 - 3 กรัม ชงน้ำร้อนประมาณ120 - 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร หรือเมื่อมีอาการ
ㆍข้อควรระวัง:ควรระวังการใช่ในผู้ป่วยเบาหวาน เพราะอาจเกิดภาวะควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาต่อเนื่อง เพราะยารางจืดน้ำตาลในเลือดต่ำอาจเร่งการขับยาเหล่านั้นออกจากร่างกาย ทำให้ประสิทธิผลของยาเหล่านั้นลดลง
กัญชา
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cannabis sativa สารสำคัญในกัญชา:- 9-tetrahydrocannabinol (THC) ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท - Cannabidiol (CBD) ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
โรคและภาวะที่ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์
กลุ่มได้ประโยชน์ เนื่องจากมีหลักฐานทางวิชาการที่มีคุณภาพสนับสนุนชัดเจน
1.ภาวะคลื่นไส้อาเจี่ยนจากเคมีบำบัด (chemotherapy induced nausea and vomiting)s. e
แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อรักษาภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัดภายใต้ข้อพิจารณา
ㆍ ไม่แนะนำใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นการรักษาเริ่มต้น
ㆍแนะนำให้ปรึกษากับผู้ป่วยถึงประโยชน์และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์กัญชาก่อนใช้
ㆍใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อรักษาอาการคลื่นไส้จากเคมีบำบัดที่รักษาด้วยวิธีต่างๆ แล้วไม่ได้ผล
ㆍไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีของภาวะคลื่นไส้อาเจียนทั่วไป?7)
ㆍ ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีของภาวะคลื่นไส้อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์ หรือมีอาการแพ้ท้องรุนแรง?
ㆍแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นการรักษาเสริมหรือควบรวมกับการรักษาตามมาตรฐาน
โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา (intractable epilepsy)ผู้สั่งใช้ควรเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท และได้รับการอบรมการใช้สารสกัดจากกัญชา โรคลมซักที่ดื้อต่อยารักษาตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่มี cannabidiol (CBD) สูง แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคลมซักที่เข้าเกณฑ์โรคลมชักที่รักษายาก ควรส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานบริการสุขภาพระดับตติยภูมิเพื่อพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระบบประสาท เพื่อประเมินและให้การรักษาต่อไป ในกรณี
ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (spasticity) ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis)")แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณข์กัญชาในกรณีที่ รักษาภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งที่ดื้อต่อรักษาภายให้ข้อพิจารณาต่อไปนี้ไม่แนะนำให้ใช้เป็นผลิตภัณฑ์กัญขาเป็นการรักษาเริ่มต้นแนะนำให้ปรึกษากับผู้ป่วยถึงประโยชน์และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์กัญชาก่อนใช้แนะนำให้ใช้ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานอย่างเหมาะสม (รวมถึงวิธีที่ไม่ใช้ยา) แล้วไม่ได้ผล
ภาวะปวดประสาท (neuropathic pain) แพทย์สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาในกรณีที่รักษาภาวะปวดประสาทที่ดื้อต่อการรักษาภายใต้ข้อพิจารณาต่อไปนี้ไม่แนะนำให้ใช้เป็นผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นการรักษาเริ่มต้นแนะนำให้ปรึกษากับผู้ป่วยถึงประโยชน์และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์กัญชาที่ใช้แนะนำให้ใช้ในกรณีที่ทตลองใช้ยาบรรเทาอาการปวดอย่างสมเหตุผลแล้ว แต่ผู้ป่วยยังคงมีอาการปวด แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นการรักษาเสริมหรือควบรวมกับวิธีมาตรฐาน
อาจได้ประโยชน์ (ในอนาคต)
กัญชา: ข้อห้ามใช้
ผู้ที่มีประวัติแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใต้จากการสกัดกัญชา ซึ่งอาจเกิดจากส่วนประกอบอื่นๆ และ/ หรือสารที่เป็นตัวทำละลาย (solvent) ที่ใช้ในการสกัด
ผู้ที่มีอาการรุนแรงของ unstable cardio-pulmonary disease (angina, peripheral vasculardisease, cerebrovascular disease และ arrhythmia) หรือ มีปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
ผู้ที่เป็นโรคจิตมาก่อน หรือ มีอาการของโรคอารมณ์แปรปรวน (concurrent active mooddisorder) หรือ โรควิตกกังวล (anxiety disorder)
หลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร รวมถึงสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่ได้คุมกำเนิด หรือสตรีที่วางแผนจะตั้งครรภ์เนื่องจากมีรายงานการศึกษาพบว่ามีทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักตัวน้อย รวมถึงพบcannabinoids ในน้ำนมแม่ได้
โรคมะเร็ง (Cancer)หลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนว่ากัญชามีประโยชน์ในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ยังมีไม่เพียงพอ แต่สมควรได้รับการศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียดผู้ป่วยโรคมะเร็งควรได้รับการรักษาตามวิธีมาตรฐานทางการแพทย์ในปัจจุบัน
กัญชา: ข้อควรระวัง
การสั่งใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่มี THC เป็นส่วนประกอบในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี เนื่องจากผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นส่งผลต่อสมองที่กำลังพัฒนาได้ ดังนั้น ผู้สั่งใช้ควรวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนการสังใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชา
ผู้ที่เป็นโรคตับ
ผู้ป่วยที่ติดสารเสพติด รวมถึงนิโคติน หรือเป็นผู้ดื่มสุราอย่างหนัก
ผู้ใช้ยาอื่นๆ โดยเฉพาะยากลุ่ม opioids และยากล่อมประสาท อาทิ benzodiazepines
ผู้ป่วยเด็กและผู้ป่วยสูงอายุ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการมากเพียงพอในสองกลุ่มนี้ กระบวนการmetabolism ของผู้สูงอายุจะช้ากว่า จึงดูเหมือนว่ามีการตอบสนองต่อกัญชาได้สูงกว่า ดังนั้นการใช้จึงควรเริ่มต้นในปริมาณที่น้อยและปรับเพิ่มขึ้นช้าๆ