Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปสาระคำคัญ สิบโท ระพีพัฒน์ วงษายา 6332426050 กลุ่ม 24/34 รัฐศาสตร์ …
สรุปสาระคำคัญ
สิบโท ระพีพัฒน์ วงษายา 6332426050
กลุ่ม 24/34 รัฐศาสตร์ เอกการเมืองการปกครอง
:
Global Warming
ชั้นบรรยากาศโลก 5 ชั้น
ชั้นมีโซสเฟียร์ (Mesosphere)
ความสูง 50-80 กม มีอากาศเบาบางมาก แต่ก็มากพอที่จะทำให้ดาวตกเกิดการเผาไหม้ และเป็นชั้นที่ช่วยดูดซับรังสี UV จากดวงอาทิตย์ อุณหภูมิในชั้นนี้จะลดลงมาอยู่ที่ -120 องศาเซลเซียส
ชั้นเทอร์โมสเฟียร์ (Thermosphere)
ความสูง 80-700 กม มีอากาศเบาบางมากกว่าชั้นมีโซสเฟียร์ แต่เป็นชั้นหลักที่ช่วยดูดซับรังสี UV จากดวงอาทิตย์ ทำให้มีอุณหภูมิในชั้นนี้มากถึง 2,000 องศาเซลเซียส ที่ระดับความสูง 700 กม. อนุภาคในชั้นนี้เป็นอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่เรียกว่า “อิออน” ที่เกิดจากการแตกตัว เมื่ออนุภาคในสภาวะปกติถูกกระตุ้นด้วยรังสี UV จากดวงอาทิตย์ อิออนเหล่านี้จะมีคุณสมบัติสะท้อนคลื่นวิทยุได้ จึงเป็นชั้นที่ใช้ส่งสัญญาณวิทยุสื่อสาร รวมถึงการเกิดแสงเหนือและแสงใต้ หรือ “ออโรรา”
ชั้นสตราโทสเฟียร์ (Stratosphere)
ความสูง 12-50 กม มีไอน้ำเล็กน้อย ไม่มีเมฆ อากาศมีการเคลื่อนตัวอย่าวช้าๆ จึงเหมาะกับการเดินทางทางอากาศ แก๊สสำคัญในชั้นนี้ คือ แก๊สโอโซน ซึ่งช่วยดูดซับรังสี UV จากดวงอาทิตย์ อุณหภูมิของชั้นนี้อยู่ระหว่าง -60 ถึง 10 องศาเซลเซียส โดยอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้น
ชั้นโทรโพสเฟียร์ (Troposphere)
ความสูง 0-12 กม มีไอน้ำมาก ก่อให้เกิดเมฆ หมอก พายุ และฝน
ชั้นเอกโซสเฟียร์ (Exsophere)
ความสูง 700-800 กม อากาศค่อยๆ เจือจางลง เมื่อความสูงเพิ่มขึ้น และเจือจางจนเข้าสู่อวกาศ
คือ
ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ย ของผิวโลกและผืนมหาสมุทรสูงขึ้น โดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เป็นตัวการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ไม่ให้ คายออกไปสู่บรรยากาศและก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นในบรรยากาศจึงเป็น สาเหตุให้รังสีความร้อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามา ถูกกักไว้ในโลกโดยไม่สามารถสะท้อนกลับออกไปได้
สาเหตุ
ภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect)
ภาวะที่ชั้นบรรยากาศของโลกกระทำตัวเสมือนกระจก ที่ยอมให้รังสีคลื่นสั้นผ่านลงมายังผิวโลกได้ แต่จะดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดที่แผ่ออกจากพื้นผิวโลกเอาไว้ จากนั้นก็จะคายพลังงานความร้อน ให้กระจายอยู่ภายใน ชั้นบรรยากาศและพื้นผิวโลก จึงเปรียบเสมือนกระจกที่ปกคลุมผิวโลกให้มีภาวะสมดุลทางอุณหภูมิ และเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตบนผิวโลก แต่ในปัจจุบันมีก๊าซบางชนิดสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศมากเกินสมดุล ซึ่งก๊าซเหล่านี้สามารถดูดกลืนรังสีคลื่นยาวช่วงอินฟราเรดและคายพลังงานความร้อนได้ดีพื้นผิวโลกและชั้นบรรยากาศ จึงมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของโลก และสิ่งมีชีวิตพื้นผิวโลกอย่างมากมาย
ภาวะเรือนกระจกที่สำคัญที่มีอยู่ในภาวะธรรมชาติ
Methane จากการย่อยพืช/สัตว์
Nitrous oxide การระเบิดของภูเขาไฟ
Carbon dioxide จากพืช และสัตว์
เมฆ/หมอก/ไอน้ำ
ผลกระทบ
ทะเลและมหาสมุทร
น้ำทะเลสูงขึ้น
อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น
ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งทั่วโลกละลาย
การเปลี่ยนสถานะของน้ำเป็นกรด
มนุษย์
เกิดการอพยพย้ายที่อยู่อาศัยเนื่องจากน้ำท่วม
เกิดโรคร้ายเพิ่มขึ้น
เกิดการขาดแคลนน้ำดื่ม
สภาพภูมิอากาศ
ความชื้นในอากาศเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการระเหยของน้ำมากขึ้น
ความไม่มั่นคงของอุณหภูมิ
สภาพอากาศแปรปรวนมากขึ้น
Acid Rain
ความหมาย
การลดลงของค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือค่า pH ของน้ำฝนในธรรมชาติ ซึ่งโดยปกติแล้ว น้ำฝนมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ โดยมีค่า pH อยู่ที่ราว 5.6 แต่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของมลพิษทางอากาศในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่า pH ของน้ำฝนลดต่ำลงกว่าปกติ และในบางพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง น้ำฝนอาจมีค่า pH อยู่ในช่วง 4.2 ถึง 4.4
แหล่งกำเนิด
ธรรมชาติ
ไฟป่า ภูเขาไฟ และการย่อยสลายของซากพืช ซากสัตว์
มนุษย์
โรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ต่างๆ
สาเหตุ
ปรากฏการณ์ฝนกรดเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของน้ำฝนและก๊าซออกไซด์ของโลหะบางชนิดในอากาศ ซึ่งในธรรมชาติ เมื่อเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ หรือ เกิดไฟป่า หรือการเน่าเปื่อยของซากพืช มักเป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide: SO2) ปริมาณมากเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทำให้ฝนที่ตกลงมาในช่วงเวลานั้นมีฤทธิ์เป็นกรดมากกว่าน้ำฝนปกติ
ผลกระทบ
ผลกระทบของการตกสะสมของกรดต่อวัสดุ
ผลกระทบของการตกสะสมของกรดต่อป่าไม้และธาตุอาหารพืช
ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง
ผลกระทบของการตกสะสมของกรดต่อดิน
เกิดการยืนตายของต้นไม้จากบนลงล่าง
ฝนกรดมีผลเสียหายโดยตรงต่อพืชและการสังเคราะห์แสง
ทำให้การดูดน้ำและการเจริญเติบโตของพืชลดลง และทำให้พืชอ่อนแอ
ผลกระทบของการตกสะสมของกรดต่อแหล่งน้ำ
มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของปลา
ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย
ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในด้านของระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก เช่น เป็นโรคหอบ หืด
จำแนกได้ 2 ชนิด
การตกสะสมของกรดแบบเปียก (Wet Deposition)
การรวมตัวกันของกรดซัลฟิวริกหรือกรดไนตริกกับเมฆบนท้องฟ้า ซึ่งส่งผลให้ฝนและหิมะที่ตกลงสู่พื้นดิน รวมไปถึงหมอกที่เกิดขึ้น มีฤทธิ์เป็นกรด
การตกสะสมของกรดแบบแห้ง (Dry Deposition)
การตกลงมาของอนุภาคหรือละออง ซึ่งไม่มีน้ำเป็นองค์ประกอบและมีฤทธิ์เป็นกรด เช่น อนุภาคซัลเฟต (Sulfate) และอนุภาคไนเตรต (Nitrate) ที่แขวนลอยอยู่ในอากาศ โดยอนุภาคเหล่านี้สามารถเคลื่อนที่ไปตามแรงลมได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนตกลงสู่พื้นดิน แหล่งน้ำ หรือสะสมอยู่ตามต้นไม้ อาคาร และสิ่งก่อสร้าง
กระบวนการทางเคมีของการเกิดปรากฏการณ์ฝนกรด
ฝนกรดเป็นผลมาจากการทำปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างไอน้ำ ออกซิเจน และสสารต่างๆในอากาศ กับก๊าซออกไซด์ของโลหะบางชนิด เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfur Dioxide: SO2) และไนโตรเจนออกไซด์ (Nitrogen Oxide: NOx) ซึ่งก่อให้เกิดกรดซัลฟิวริก (Sulfuric Acid: H2SO4) กรดไนตริก (Nitric Acid: HNO3) และสารพิษอื่นๆที่เข้ามาปนเปื้อนอยู่ในน้ำฝน หิมะ และหมอก