Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงสรีรวิทยา มารดาหลังคลอด, นางสาวโสรญา แก้วศรี เลขที่ 88…
การเปลี่ยนแปลงสรีรวิทยา
มารดาหลังคลอด
การกลับคืนสู่สภาพเดิมของ
อวัยวะต่าง ๆ
มดลูก (Uterus)
1.Autolysis or self digestion : estrogen และ progesterone ลดลง collagenase เพิ่มขึ้น proteolytic enzyme สลายโปรตีนในเยื่อบุโพรงมดลูก ดูดซึมเข้าหลอดลือด ขับออกทาง Urine
2.Ischemia : Oxytocin หลั่ง กดเส้นเลือดที่มาเลี้ยง Uterus เลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อยลง มดลูกมีขนาดเล็กลง
มดลูกเข้าอู่ (Involution) : Afterpains อาการปวดมดลูกมักเกิดกับ
1.มารดาครรภ์ที่ 2 ขึ้นไป
2.มารดาที่มีการยืดขนาดของมดลูกมาก
3.มารดาที่เลี้ยงบุตรด้วยนมตนเอง จะมีการหลั่ง HM. Oxytocin
มักทำให้มารดาไม่สุขสบายโดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก
เยื่อบุมดลูก
Decidua basalis (ชั้นใน) : เป็นชั้นที่เป็นฐานรองรับการเกิดใหม่ของเยื่อบุมดลูก ทำให้เกิดเยื่อบุมดลูกขึ้นมาใหม่ เรียกกระบวนการนี้ว่า Exfoliation ใช้เวลาประมาณ 6 wks. ร่องรอยเดิมจึงจะหายสนิท
Decidual spongiosa (ชั้นนอก) : จะมีการเปื่อยและย่อยสลายเรียกว่า "น้ำคาวปลา" (Lochia)
ปากมดลูก (Cervix)
Internal os และ External os บอบช้ำ อ่อนนุ่ม มีการฉีดขาด 1 wk. ปาดมดลูกจะหดรัดตัว ตีบลงเหลือขนาด 1-2 cm. เกิดมีช่องทางปากมดลูก cervical canal ขึ้นใหม่
External os จะไม่กลมเหมือนระยะก่อนคลอด แต่จะเหมือนรอยตะเข็บ/รอยแยก (Silt like or Stellate or Star-Shaped )
ช่องคลอด (Vagina)
รอยย่น (Rugae) น้อยลงจากการลดลงของ HM. estrogen และเริ่มสร้างใหม่ในสัปดาห์ที่ 3
เยื่อพรหมจารีย์ (Hymen) ฉีดขาดอย่างถาวร กระรุงกระริ่ง เรียกว่า Carunculae myrtiformes
กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน : เอ็นต่าง ๆ ที่ยึดติดอวัยวะในอุ่งเชิงกราน เช่น มดลูก ช่องคลอด ยืดขยายมาก
Procidentia uteri : อวัยวะในอุ้งเชิงกรายหย่อนลงไปในช่องทางคลอด
Cystocele : กระเพาะปัสสาวะหย่อน
rectocele : ลำไส้ตรงหย่อน
ผนังหน้าท้อง (Abdominal wall) : Diastasis Rectiabdominis กล้ามเนื้อที่บริเวณหน้าท้องแยกตัวออกจากกัน ทำให้ช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อด้านซ้ายและด้านขวาของช่องท้องกว้างขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ๆ (Systemic Change)
โครงกระดูก : Relaxin H. ลดลง แต่มารดาหลังคลอดยังเจ็บบริเวณสะโพกและข้อต่อกระดูกสันหลังและกระดูกหัวหน่าว
ระบบประสาท : อาการบวม เจ็บปวดตามข้อนิ้วมือ จะหายไป
ผิวหนัง (Intehument) : estrogen และ progesterone ลดลง
Chloasma และ Linea Nigra จะจางลงเรื่อย ๆ จนเป็นปกติ ภายใน 6 wks. หลังคลอด
เส้นผมร่วงเป็นหย่อม ๆ (alopecia) ในช่วง 4-20 wks.
สัญญาณชีพ
อุณหภูมิ (Temperature)
อาจะสูงขึ้นเล็กน้อยไม่เกิน 38 °C และจะปกติภายใน 24 hrs. เรียกว่า Reactionary Fever สาเหตุมาจาก 1.การขาดน้ำ (Dehydration) 2. เสียพลังงานในการคลอด
ชีพจร (Pulse rate)
อาจช้าลง เนื่องจากปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงรกหยุดชะงักลงทันที เลือดที่ไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษา cardiac output ให้คงเดิม HR.จึงลดลง Pulse rate จะกลับสู้สภาพเดิมเมื่อสิ้นสุดสัปดาห์แรก
ความดันโลหิต (Blood pressure) มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
ถ้าสูงกว่า 140/90 mmHg อาจเป็นอันตราย หรือ Cerebrovascular accident
ถ้าต่ำกว่า 90/60 mmHg ประกอบกับ PR.เบาเร็ว หน้าซีด ใจสั่น มือเท้าเย็น อาจช็อคหรือเสียเลือด
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory Change)
blood volume หลังคลอดทันทีจะเพิ่มมากขึ้นอย่างกระทันหัน
ใน 3 วันแรกค่า Hct อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจาก plasma มากกว่า RBC Hct ควรมากกว่า 30 mg%
WBC จะเพิ่มสูง อาจสูงถึง 30,000 cell/mm³ เนื่องจากร่างกายร้างกลไกป้องกันการติดเชื้อ
ระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary System)
ระหว่างคลอดศีรษะทารกกดท่อและกระเพาะปัสสาวะทำให้มีอาการบวม ความจุมากขึ้น แต่ความไวต่อแรงกดในกระเพาะปัสสาวะลดลง จึงเกิดกระเพาะปัสสาวะโป่งพองและปัสสาวะได้ไม่หมด จะคืนสู่ปกติ 5-7 วัน
ระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal Change) : อาการท้องผูกในระยะหลังคลอด มักมีสาเหตุจากการเคลื่อนไหวของลำไส้ลดน้อยลง ผลจาก HM. progesterone
HM. จากต่อมใต้สมอง
1.FSH และ LH จะต่ำใน 10-12 วัน ไม่ว่าจะให้ทารกดูดนมหรือไม่ก็จา แล้วจะเพิ่มขึ้นจนทำให้ตกไข่ได้
2.Prolactin มารดาที่ไม่ได้ให้นมบุตรจะลดลงภายใน 2 wks. แต่ถ้าให้นมบุตรจะมี prolactin หลั่งมากขึ้น ทำให้นมคัดละน้ำนมไหล
การเปลี่ยนแปลงในทางสร้างเสริม (Progressive Change)
การหลั่งน้ำนม (Lactation)
Estrogen
ทำให้หัวนม ลานนมขยายและมีสีเข้มขึ้น
ต่อมไขมันบริเวณลานหัวนม หลอดน้ำเหลืองและหลอดเลือดขยายใหญ่ขึ้น ท่อน้ำนมเจริญเต็มที่
Progesterone ทำให้ถุงผลิตน้ำนม (Alveoli) และเซลล์ผลิตน้ำนม (Acini cells) เจริญเต็มที่ เตรียมสร้างน้ำนม
การมีประจำเดือน
ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ประจำเดือนจะมาใหม่ภายใน 7-9 wks.
ถ้าเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ประจำเดือนจะมาใหม่ภายในเดือนที่ 9
ทารกดูดนม กระตุ้น Hypothalamus ผ่านทางประสาทและสมอง กดไมให้มีการหลั่ง FSH และ LH ทำให้ไม่มีการตกไข่ ไม่มีประจำเดือน
นางสาวโสรญา แก้วศรี เลขที่ 88 ชั้นปีที่ 4 ห้อง A
รหัสนักศึกษา 61123301185