Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ - Coggle Diagram
เด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
1.เด็กปัญญาเลิศและเด็กที่มีความสามารถพิเศษ
เด็กที่แสดงออกซึ่งความสามารถอันโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านในด้านสติปัญญาความคิดสร้างสรรค์การใช้ภาษาการเป็นผู้นำหรือหลายด้านในสติปัญญาความคิดสร้างสรรค์การใช้ภาษาการเป็นผู้นำการสร้างงานทางด้านทัศนศิลป์ศิลปะการแสดงความสามารถทางดนตรีความสามารถทางกีฬา
ลักษณะของเด็กปํญญาเลิศและเด็กที่มีควาามสามารถพิเศษ
1.ด้านภาษา
พูดเก่ง
ใช้ศัพท์สูง
มีทักษะสื่อความหมายอย่างยอดเยี่ยม
อ่านหนังสือได้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่ใช้เรียนในระดับชั้นของตนหรือหนังสือที่ใช้เรียนในชั้นสูงกว่า
2.ด้านความคิดรวบยอด
มองความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
เป็นคนช่างสังเกต
มีความจำเป็นเยี่ยม
เข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม
3.ด้านสังคม
เป็นกันเองกับทุกคน
ชอบคบค้าสมาคมกับคนอื่น
แสดงออกซึ่งความเป็นผู้นำ
เป็นคนใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
4.ด้านบุคลิกภาพ
มีพละกำลังมากมายทั้งในด้านร่างกาย ด้านพลังสมองและความคิด
มีแรงจูงใจและเป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นมาเอง
มีจุดมุ่งหมายในการทำงานและในชีวิต
2.เด็กที่มีลักษณะเบี่ยงเบนจากเกณฑ์ปกติของเด็กปกติไปในเชิงลบ
2.1 เด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น
เด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็นหมายถึงบุคคลที่สูญเสียการเห็นตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงตาบอดสนิทแบ่งได้ 2 ประเภทคือ
1) คนตาบอดหมายถึงคนที่สูญเสียการเห็นมากจนต้องสอนให้อ่านอักษรเบลล์หรือใช้วิธีการฟังเทปหรือแผ่นเสียง
2) คนเห็นเลือนลางหมายถึงคนที่สูญเสียการเห็น แต่ยังสามารถอ่านอักษรตัวพิมพ์ที่ขยายใหญ่ได้หรือต้องใช้แว่นขยายอ่าน
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเห็น
2) ไม่สนใจสิ่งที่ต้องใช้สายตาเช่นการเล่นซ่อนหา
3) มองเห็นสีผิดไปจากปกติ
1) เดินงุ่มง่ามชนและสะดุดวัตถุ
4) มักบ่นปวดศีรษะคลื่นไส้ตาลายคันตามองเห็นเลือนราง
2.2 เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหมายถึงบุคคลที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับรุนแรงจนถึงระดับน้อยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1) คนหูหนวก หมายถึง คนที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถรับข้อมูลผ่านทางการได้ยินไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่เครื่องช่วยฟังก็ตาม
2) คนหูตึง หมายถึง คนที่มีการได้ยินเหลืออยู่พอเพียงที่จะรับข้อมูลผ่านทางการได้ยินโดยทั่วไปจะใส่เครื่องช่วยฟัง
ลักษณะของของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
1) ไม่ตอบสนองเมื่อเรียก
2) มิกตะแคงหูฟัง
3) ไม่พูดมักแสดงท่าทาง
4) พูดไม่ชัดเสียงผิดปกติ
5) พูดไม่ถูกหลักไวยากรณ์
2.3 เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา
เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาหมายถึงบุคคลที่มีพัฒนาการช้ากว่าคนปกติทั่วไปเมื่อวัดสติปัญญาโดยใช้แบบทดสอบมาตรฐานแล้วมีสติปัญญาต่ำกว่าบุคคลปกติและความสามารถในการ-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
แบ่งความบกพร่องทางสติปัญญาได้ 4 ระดับดังนี้
1) บกพร่องระดับเล็กน้อย ระดับเชาวน์ปัญญา 55-70
2) บกพร่องระดับปานกลาง ระดับเชาวน์ปัญญา 35-55
3) บกพร่องระดับรุนแรง ระดับเชาวน์ปัญญา 25-35
4) บกพร่องระดับรุนแรงมาก ระดับเชาวน์ปัญญา 20-25
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา
1) พัฒนาการทางร่างกาย
2) ไม่พูดหรือพูดได้ไม่สมวัย
3) ช่วงความสนใจสันวอกแวก
4) ขาดความสนใจในสิ่งที่เฉพาะเจาะจง
6) อดทนต่อการรอคอยน้อย
5) ความคิดและอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
2.4 เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือสุขภาพ
เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือสุขภาพหมายถึงบุคคลที่มีอวัยวะไม่สมส่วนอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายส่วนขาดหายไปกระดูกและกล้ามเนื้อพิการเจ็บป่วยเรื้อรังรุนแรงมีความพิการของระบบประสาท
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือสุขภาพ
1) การขาดหายของแขนขาหมายถึงการสูญเสียแขนขาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของแขนขาอาจเป็นมา แต่กำเนิดหรือเป็นขึ้นภายหลังเนื่องจากอุบัติเหตุ
2) ความผิดปกติของรูปร่างของร่างกายพบได้ทั่วไปบริเวณส่วนแขนขาหรือลำตัวมีสาเหตุเป็นมา แต่กำเนิดหรือเกิดจากการอ่อนแรงหรือแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อมีผลทำให้ร่างกายผิดปกตินอกจากนี้การเคลื่อนไหวหรือการใช้แขนขาไม่ถูกต้องจะมีผลให้เกิดความผิดปกติในรูปร่างของร่างกายยิ่งขึ้น
3) ความผิดปกติของรูปร่างของร่างกายจากระบบประสาทจะทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายลำบากเพราะกล้ามเนื้อไม่แข็งแรงจะมีอาการตัวแอ่นแขนขาเกร็งเคลื่อนไหวไม่ได้
4) เด็กที่แม่ได้รับสารพิษหรือออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ทันหรือโรคสมองอักเสบเยื่อสมองอักเสบโดยทั่วไปเด็กจะมีความพิการซ้อนหลายอย่าง
2.5 เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้
เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้หมายถึงบุคคลที่มีความบกพร่องในกระบวนการพื้นฐานทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับความเข้าใจหรือการใช้ภาษาอาจเป็นภาษาพูดภาษาเขียนซึ่งจะมีผลทำให้มีปัญหาในการฟังการพูดการคิดการอ่านการเขียนการสะกดหรือการคิดคำนวณรวมทั้งสภาพความบกพร่องในการรับรู้
ลักษณะของเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้
1) มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงปกติ
3) การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ไม่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดเล็ก
4) ถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่ายสนใจระยะสั้นบางคนสนใจเกินปกติ
2) สติปัญญาปกติ
2.6 เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
ภาษาเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษาหมายถึงบุคคลที่มีความบกพร่องในเรื่องของการออกเสียงพูดเช่นเสียงผิดปกติอัตราความเร็วและจังหวะการพูดผิดปกติหรือคนที่มีความบกพร่องในเรื่องความเข้าใจและหรือการใช้ภาษาพูดการเขียนและหรือระบบสัญลักษณ์อื่นที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งอาจเกี่ยวกับรูปแบบของภาษาเนื้อหาของภาษาและหน้าที่ของภาษา
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา
1) พูดออกเสียงเพี้ยน
2) พูดออกเสียงไม่ชัดเจน
3) อ่านสลับเสียงพยัญชนะ
4) พูดติดอ่าง
5) พูดเสียงแตกพร่าแหบแห้งแปร่งเสียงขึ้นจมูก
2.7 เด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรม อารมณ์ หรือสมาธิสั้น
1) เด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมหมายถึงเด็กที่แสดงพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนไปจากเด็กทั่วไปและพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนนี้ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเด็กและผู้อื่นเป็นผลมาจากความขัดแย้งของเด็กกับสภาพแวดล้อมหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตัวเด็กเองไม่สามารถเรียนรู้ขาดสัมพันธภาพกับเพื่อนหรือผู้เกี่ยวข้อง
ซึ่งเด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมมีลักษณะดังนี้
1.1) กลุ่มความประพฤติผิดปกติมีลักษณะก้าวร้าวชอบทะเลาะ ทำร้ายผู้อื่น
1.2) กลุ่มบุคลิกผิดปกติเป็นกลุ่มที่มีบุคลิกภาพเก็บตัวแยกตัวจากสังคม วิตกกังวล ร้องไห้
1.3) กลุ่มขาดวุฒิภาวะเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับวัย ไม่มีความกระตือรือร้น ฝันกลางวัน
1.4) กลุ่มที่มีปัญหาทางสังคม ลักษณะที่พบคือ คบเพื่อนไม่ดี ชอบหนีโรงเรียนการลักขโมย
2) เด็กสมาธิสั้นหมายถึงเด็กที่มีภาวะสมาธิบกพร่องและมีพฤติกรรมอยู่ไม่สุขเด็กที่มีความผิดปกติทางพฤติกรรมแสดงออก ๆ เป็นลักษณะเฉพาะตัวของเด็กมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับอายุหรือระดับพัฒนาการในเรื่องการขาดสมาธิ
2.1) สมาธิบกพร่องเสียสมาธิง่ายให้ความสนใจกิจกรรมได้ไม่นานวอกแวกง่ายจึงทำงานไม่เสร็จต้องคอยกระตุ้นควบคุมจึงทำได้ตามเวลาที่ต้องการมีปัญหาในการปฏิบัติตามคำสั่งที่ซ้ำซ้อน
2.2) ความผลีผลามเสียสมาธิง่ายให้ความสนใจกิจกรรมได้ไม่แน่นอนมีความว่องไวผิดปกติขาดความระมัดระวัง
2.3) พฤติกรรมอยู่ไม่สุขนั่งนิ่ง ๆ นานไม่ได้จะขยุกขยิกตลอดเวลาลุกออกจากที่ไม่สนใจเวลาครูสอนเพราะอย่างอื่นไปด้วย แต่เมื่อถูกซักถามอาจพบว่าเด็กฟังและเข้าใจเล่นเงียบ ๆ
2.8 เด็กออทิสติก
เด็กออทิสติก หมายถึงบุคคลที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการทางสังคมภาษาและการสื่อความหมายพฤติกรรมอารมณ์และจินตนาการซึ่งมีสาเหตุเนื่องจากการทำงานในหน้าที่บางส่วนของสมองที่ผิดปกติไปและความผิดปกตินี้พบได้ก่อนวัย 30 เดือน
ลักษณะของเด็กออทิสติก
1) มีความบกพร่องทางปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเช่นไม่มองสบตาบุคคลอื่นไม่มีการแสดงออกทางสีหน้ากิริยาหรือท่าทาง
2) มีความบกพร่องด้านการสื่อสารทั้งด้านการใช้ภาษาพูดความเข้าใจภาษาการแสดงกิริยาสื่อความหมายซึ่งมีความบกพร่องหลายระดับตั้งแต่ไม่สามารถพูดจาสื่อความหมายได้เลย
3) มีความบกพร่องด้านพฤติกรรมบางคนมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ ผิดปกติเช่นเล่นมือโบกมือไปมาหรือหมุนตัวไปรอบ ๆ
4) มีความบกพร่องด้านอารมณ์บางคนมีการแสดงทางอารมณ์ไม่เหมาะสมกับวัยควบคุมอารมณ์หรือความรู้สึกได้ไม่เหมาะสม
5) มีความบกพร่องด้านรับรู้ทางประสาทสัมผัสบางคนชอบมองแสงบางคนตอบสนองต่อเสียงผิดปกติรับเสียงบางเสียงไม่ได้ด้านการรับสัมผัสกลิ่นและรสบางคนตอบสนองช้าหรือไวหรือแปลกกว่าปกติเช่นดมของเล่น
6) มีความบกพร่องด้านการใช้อวัยวะต่าง ๆ อย่างไม่ประสานสัมพันธ์การใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรวมถึงการประสานสัมพันธ์ของกลไกกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็กมีความบกพร่อง
7) มีความบกพร่องด้านการจินตนาการไม่สามารถแยกเรื่องจริงเรื่องสมมติหรือประยุกต์วิธีการจากเหตุการณ์หนึ่งไปยังอีกเหตุการณ์หนึ่งได้
8) มีความบกพร่องด้านสมาธิมีความสนใจที่สั้นวอกแวกง่าย
2.9 เด็กพิการซ้อน
เด็กพิการซ้อน หมายถึง บุคคลที่มีสภาพความบกพร่องหรือความพิการมากกว่าหนึ่งประเภทในบุคคลเดียวกันเช่นคนปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยินเป็นต้น
ลักษณะของเด็กพิการซ้อน
1) ตาบอดจะต้องเป็นไปตามนิยามของเด็กตาบอดที่กำหนดขึ้นโดยจักษุแพทย์สมาคม
2) หูหนวกจะต้องเป็นไปตามนิยามของเด็กหูหนวกที่กำหนดขึ้นโดยสมาคมแพทย์โสตศอนาสิก
3) เด็กจะไม่ได้รับประโยชน์จากโปรแกรมการศึกษาที่จัดให้สำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือเด็กที่มีความบกพร่องทางสายตาโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งโดยเฉพาะ