Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการท่องเที่ยว,…
สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการท่องเที่ยว
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( Information Communication Technology :ICT) ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ
องค์ประกอบของ ICT
ฮาร์ดเเเวร์
บริหารการจัดการ
ซอร์ฟเเวร์
เครือข่าย
peopleware
รูปแบบการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร
การพิมเอกสาร
การคำนวณ
การนำเสนอข้อมูล
การทำงาน Graphic
การสร้างเว็บไซต์
การทำงานมัลติมีเดีย
การทำฐานข้อมูล
เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
ประเภทและลักษณะสารสนเทศทางการท่องเที่ยว
สารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ สารสนเทศเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอํานวยความสะดวก ประเภทและราคาสินค้า และบริการที่มีไว้บริการ
สารสนเทศสำหรับผู้ผลิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ได้แก่สารสนเทศของธุรกิจ ข้อมูล และประวัติลูกค้า ข้อมูลตัวแทนจําหน่าย
สารสนเทศสำหรับตัวแทนจำหน่าย ได้แก่แนวโน้มของความต้องการของลูกค้า แหล่งท่องเที่ยว สิ่ง อํานวยความสะดวก รายการนําเที่ยว ประเภทและราคาสินค้าบริการที่มีไว้บริการ
สารสนเทศสำหรับหน่วยงานวางแผนการท่องเที่ยว ได้แก่ จํานวนนักท่องเที่ยว รายได้จากการ ท่องเที่ยว นโยบายการท่องเที่ยว
ความสัมพันธ์ระหว่างท่องเที่ยวและการบริการโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีสารสนเทศเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีข้อมูลหลายประเภท ผู้ประกอบการจึงต้องมีการจัดการสารสนเทศที่ดีและมีวิธีการเผยแพร่สารสนเทศที่เหมาะสม
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นอุตสาหกรรมที่มีการติดต่อสื่อสารทั่วโลก ทั้งระหว่าง ผู้ประกอบการและระหว่างผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมมีการนำระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยการดำเนินการเป็น จำนวนมาก โดยเฉพาะการใช้งานบนเครือข่าย คอมพิวเตอร์
ความสัมพันธ์ระหว่างท่องเที่ยวและการบริการโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรมสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและ มีความยืดหยุ่นในการให้บริการ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาบริการ
เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานและการ ติดต่อสื่อสารในธุรกิจท่องเที่ยวและ การโรงแรม
การเติบโตของเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น กลายเป็น เครื่องมือสําคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
รัฐบาล
เป็นผู้กําหนดความสําคัญในการวางแผนพัฒนา ควบคุม และส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงได้นําเทคโนโลยีสารสนเทศมา ช่วยสนับสนุนการทํางานของภาครัฐ เช่น การรวบรวมสถิติเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
1.1 ระบบการจัดการแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทาง (Destination Management System: DMS)
ซึ่งสามารถให้บริการได้ใน 2 ระดับคือ
1) เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอํานวยความสะดวกในบริเวณ แหล่งท่องเที่ยวใน รูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2) เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและสํารองสินค้าและบริการ และระบบการให้บริการสํารองสินค้าและบริการ
รัฐบาล
1.2 การเผยแพร่ข้อมูลในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต องค์กรในภาครัฐได้พัฒนา DMS สู่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวและตัวแทนจําหน่าย ซึ่ง อาจจัดทําเป็น เว็บไซต์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว
1.3 การตลาดและการส่งเสริมการตลาดทางการท่องเที่ยว - จัดทําฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว - จัดทําฐานข้อมูลตลาดนักท่องเที่ยว
1.4 การวิจัยการตลาด
โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
ผู้ผลิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวและการ
บริการ
โดยทั่วไปผู้ผลิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจะ
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการสํานักงาน
อัตโนมัติและเป็นช่องทางการจัดจําหน่ายไปสู่ลูกค้าใน
ท้องตลาด
ผู้ให้บริการระบบเครือข่าย3.1 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีสินค้าและบริการเผยแพร่ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตจํานวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถจัดรายการท่องเที่ยวได้ด้วยตนเองโดยใช้ข้อมูลหรือสารสนเทศที่เผยแพร่ผ่านทาง อินเทอร์เน็ต ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตในหลาย ลักษณะ
1) เผยแพร่ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการ
2) สื่อสารระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
3) สํารองและจัดทํารายการซื้อขายระหว่างผู้ผลิตและลูกค้าหรือที่เรียกว่าพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์
4) เป็นช่องทางการจําหน่ายบริการอิเล็กทรอนิกส์
ผู้ให้บริการระบบเครือข่าย
3.2 รูปแบบของเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ประสบความสําเร็จต้อง
มีความเรียบง่าย มีเนื้อหาที่ เหมาะสมหมายถึงข้อมูลรายละเอียดสินค้าและข้อเสนอขาย เนื้อหาที่ดีควรเริ่มต้นจากการตั้งชื่อ เว็บไซต์ให้จําได้ง่ายจัดลําดับข้อมูลที่นําเสนอให้เข้าใจง่าย ควรเน้นสิ่งที่ต้องการนําเสนอ และ ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท/ธุรกิจ เป็นต้น
ผู้ให้บริการระบบเครือข่าย
3.3 หลักสําคัญในการจัดทําเว็บไซต์ท่องเที่ยว คือ การให้ความสะดวกสบายในการใช้บริการของ ลูกค้ามากที่สุด การเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า การจัดแบ่งประเภทข้อมูลในเว็บไซต์และการสร้าง ชุมชนทางอินเทอร์เน็ต
ผู้ให้บริการระบบเครือข่าย
3.4 เว็บไซต์ท่องเที่ยวสามารถแบ่งตามประเภทของธุรกิจ ได้ดังนี้
1) เว็บไซต์ขององค์การที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
2) เว็บไซต์ของที่พักแรม
3) เว็บไซต์เกี่ยวกับการเดินทาง
4) เว็บไซต์เกี่ยวกับการบริการข้อมูลและการท่องเที่ยว
5) เว็บไซต์เกี่ยวกับกิจกรรมการท่องเที่ยว
6) เว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์ในการท่องเที่ยว
ฯลฯ
โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
ผู้ผลิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว
และการบริการ
2.1 สายการบิน รถไฟ เรือสำราญ
และรถเช่า ในการให้บริการของสายการบินได้
ทําระบบสํารองที่นั่งด้วยคอมพิวเตอร์
(Computerized Reservation System: CRS)
และได้พัฒนาเป็นระบบการจัดจําหน่ายแบบ
เบ็ดเสร็จ (Global Distribution System:
GDS)
โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
ผู้ผลิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวและการ
บริการ2.2 โรงแรม ธุรกิจโรงแรมมีความแตกต่าง
จากธุรกิจการบิน เนื่องจากธุรกิจโรงแรมประกอบด้วย
โรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นจํานวนมาก
ยกเว้นกลุ่มโรงแรมในเครือ เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้
ในธุรกิจโรงแรมจึงมีความแตกต่างกันตามขนาดและ
ประเภทของโรงแรม
2.3 บริษัทนำเที่ยว (Tour Operator)เป็นธุรกิจที่ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ผลิตทางการ ท่องเที่ยว แล้วนํามาประกอบเป็นรายการนําเที่ยว
เสนอขายแก่นักท่องเที่ยว โดยจําหน่ายผ่านตัวแทนหรืออาจติดต่อกับลูกค้าโดยตรง
โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
โดยโรงแรมสามารถจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ได้ใน 3
ลักษณะ คือ
1) การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
ของตัวเอง (In-house System)
2) การซื้อโปรแกรมสําเร็จรูป (Pre
packaged System)
3) การว่าจ้างบริษัทคอมพิวเตอร์จาก
ภายนอก (Outsourced System)
โครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ
เป็นระบบที่ทําหน้าที่เก็บ รวบรวมและประมวลผลข้อมูลที่เป็นรายละเอียดต่างๆ ของโรงแรม โดยระบบ PMS ประกอบด้วย
1) ระบบบริการส่วนหน้า (Front Office System)
2) ระบบสํานักงานส่วนหลัง (Back Office System)
3) ระบบการขาย ณ จุดขาย (Point-of-Sale System: POS)
4) ระบบการจัดการอาหารและเครื่องดื่ม (Food
and Beverage System) 5) ระบบการขายและการตลาด (Sales and Marketing System)
ช่องทางการสื่อสารช่องทางการสื่อสาร หรือ สื่อ คืออะไรช่องทางการสื่อสาร (Channel) หรือ สื่อ (Media) คือตัวกลางให้สื่อวิ่งจากผู้ส่งสารไปถึงผู้รับสารโดยปกติผู้รับสารจะรับสารผ่านเข้าไปสู่ช่องทาง (Channel)การรับรู้ของมนุษย์ โดยผ่านประสาทสัมผัส ได้แก่ มองเห็น
ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สัมผัส และได้ลิ้มรส ซึ่งต้องอยู่ต่อหน้ากันแต่ถ้าอยู่ห่างไกลกันก็ต้องใช้สื่อ (Media)ที่สร้างขึ้นเป็นเครื่องช่วยในการติดต่อสื่อสาร โดย "ช่องทาง"หมายถึง ทางซึ่งทําให้ผู้ส่งสารกับผู้รับสารติดต่อกันได้ อันได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กายส่วน "สื่อ" หมายถึง สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้แก่ อากาศ แสง เสียง อุปกรณ์ เครื่องมือที่มนุษย์คิดขึ้นหรือ เครือข่ายสังคม อย่าง facebook.com หรือ line
การแบ่งสื่อตามลักษณะของสื่อ แบ่งได้ 5 ประเภท
สื่อธรรมชาติ ได้แก่ บรรยากาศที่อยู่รอบตัวมนุษย์อันมีอยู่ตามธรรมชาติ
สื่อมนุษย์ ได้แก่ บุคคลที่ทําหน้าที่เป็นสื่อนําสารไปสู่ผู้รับ เช่น คนนําสาร นักเล่านิทาน โฆษก ล่าม
สื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ สื่อทุกชนิดที่อาศัยเทคนิคการพิมพ์ เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ สื่อที่พัฒนาโดยใช้ระบบเครื่องกลไกไฟฟ้า เช่น วิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต
สื่อระคน ได้แก่ สื่อที่ทําหน้าที่นําสาร แต่ไม่อาจจัดไว้ใน 4 ประเภทข้างต้น เช่น วัตถุจารึก สื่อ พื้นบ้าน
ประเภทของสื่อที่ใช้ในงานประชาสัมพันธ์
สื่อบุคคล (Personal media) คําพูด/วาจา (spoken words)
สื่อมวลชน (Mass media) 1. วิทยุกระจายเสียง (Radio) 2. หนังสือพิมพ์ (Newspaper) 3. โทรทัศน์ (Television)
ภาพยนตร์ (Movie)
วารสาร (Journal)
นิตยสาร (Magazine)
โปสเตอร์ (Poster)
เหตุการณ์พิเศษ (Special Event) 9. เว็บไซต์ (Website)
ฯลฯ
ประเภทของสื่อใหม่ (New media)
สื่อที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์
เว็บไซต์/เว็บเพจ ในยุคเว็บ 2.0 ขึ้นไป - blog, e-mail - เครือข่ายสังคม - facebook, twitter, line - แอพพลิเคชั่น - google form, isnap, game - โมบาย - Responsive website
เครื่องมือสื่อสาร Online ที่ช่วยเพิ่มช่องทางการ สื่อสารทางธุรกิจ
เว็บไซต์
เว็บไซต์ (Website) หมายถึง หน้าเว็บเพจที่จัดทําขึ้น เพื่อนําเสนอข้อมูลต่างๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์และ อินเทอร์เน็ต
Social Media
สามารถสื่อสารกับลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่ ต้องการได้อย่างดีเยี่ยม อาศัยการตลาดและการ วางแผนที่สามารถเชื่อมต่อทุกช่องทาง และปรับให้ เข้ากับธุรกิจของเรา วางแผนสื่อ Media และ Content ผ่านช่องทางต่างๆ
2.1 Facebook 2.2 Line 2.3 Instagram: IG 2.4 Twitter
G Suite for Business
โซลูชั่นที่รองรับระบบการทํางาน ที่ช่วยพัฒนาการ
สื่อสารให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเปิดใช้งานการสื่อสารบน ระบบคลาวด์ ทําให้ทุกคนในทีมสามารถค้นหาจัดเก็บเอกสาร นําเสนอ และประชุมงานร่วมกันได้ อย่างไม่มีข้อจํากัด
Google Analytics
เป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วสามารถวัดผลได้ ครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามา( Audience), ช่ อ ง ท า ง ที่ ลู ก ค้ า ม า ห า เ ร า (Acquisition), พฤติกรรมลูกค้า (Behavior) รวมถึง วัดผลการขาย (Conversion) จะช่วยให้คุณวางแผน วิเคราะห์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า และสามารถจัดการ
โฆษณาได้ในงบประมาณที่เหมาะสม
4.1 Google Ad words คือโฆษณาที่อยู่บนหน้า Search Engine ของ Google ทีทําให้คุณมีโอกาสได้เจอผู้ที่มีโอกาสเป็น ลูกค้า หรือผู้ที่กําลังค้นหาสินค้าหรือบริการของ
4.2 Google Display คือการนำรูปภาพ ข้อความ โฆษณากระจายตามเว็บไซต์ที่ เป็นพันธมิตร เช่น YouTube, mthai.com, sanook.com และเว็บอื่นๆ อีกมากมาย
4.3 Google Re-Marketing
Mail Chimp
เป็นการทําการตลาดโดยใช้อีเมลเป็นสื่อกลาง ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ อัพเดทข่าวสาร โปรโมชั่น หรือส่วนลด พิเศษประจําเดือน ให้สมาชิกหรือลูกค้าของบริษัทได้ทราบข้อมูล อย่างรวดเร็ว
Influencer Marketing กลุ่มคนที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์
Influencer Marketing มีผลดีต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไรบ้าง?
ด้วยจํานวนช่องทาง Social Media มากกว่าหนึ่งและจํานวน ผู้ติดตามที่ Influencer มีอยู่กับความสามารถในการโน้มน้าวใจคน ส่งผล ให้แฟนๆ พร้อมจะรับฟังความคิดเห็นของเขาหรือเธออย่างสมัครใจซึ่ง นี่เองที่จะมีผลกระทบต่อพฤติกรรม ความรู้สึกนึกคิด หรือการตัดสินใจของ กลุ่มเป้าหมายในการเลือกซื้อสินค้า-บริการ
การทํา Influencer Marketing เป็นอีกระดับของการทํา การตลาดออนไลน์ที่ผลการแสดงตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เนื่องจากหาก กลุ่มเป้าหมายติดตาม Influencer ที่คุณเลือกมาก็ถือเป็นการง่าย ที่จะทําให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านั้นเกิดความสนใจที่จะซื้อสินค้าและ บริการมากขึ้น
Content ที่ Influencer สร้าง ไม่ว่าในรูปแบบข้อความ รูปภาพ หรือคลิป มีแนวโน้มถูก Share ได้ง่ายและรวดเร็ว ทําให้สินค้าหรือบริการ ของคุณจะถูกประชาสัมพันธ์บอกต่อไปในวงกว้างได้ภายในเวลาอันสั้น
ช่วยลดค่าใช้จ่ายการทําการตลาดออนไลน์ในส่วนของ SEO (Search Engine Optimization) เพราะ Influencer จะเป็นตัวช่วย สนับสนุนให้ลูกค้าทําการค้นหาข้อมูลของสินค้า (เว็บไซต์) บน Search Engine ต่าง ๆ เช่น Google, Yahoo, Bing มากขึ้น
หลักสำคัญของการติดต่อสื่อสาร
ความน่าเชื่อถือ (Credibility)
ความเหมาะสมกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม (Context)
เนื้อหาสาระ (Content)
ความชัดเจน (Clarity)
ความต่อเนื่อง และสม่ าเสมอ (Continuity and Consistency)
ช่องทางในการสื่อสาร (Channels)
ขีดความสามารถของผู้รับ (Capability of audience)
สรุปเนื้อหาเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ชนิดของข้อมูล
ข้อมูลเฉพาะ
ข้อความ
เสียง
รูปภาพ
โครงสร้างของข้อมูล
ตัวอักขระ (Character)
เขตข้อมูล (Field)
ระเบียน (Record)
คือ กลุ่มของฟิลด์ที่สัมพันธ์กันหรืออาจเรียกอีกอย่างว่า เรคคอร์ด (Record)
เเฟ้ม (File)
กลุ่มของรายการข้อมูลที่สัมพันธ์หรือเหมือนกัน เช่น เเฟ้มข้อมูล ทะเบียนประวัตินักศึกษา เเฟ้มเก็บรายชื่อ สินค้าในสต็อก หรืออาจเรียกอีกอยางว่า (File)
บิต (Bit) เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูลที่จัดเก็บในระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยเลขฐานสองซึ่งมีสถานะเป็น 0กับ1
ไบต์ (Byte) ประกอบด้วยบิตหลายๆบิตมาเรียงต่อกัน เช่นนำ 8 บิตมาเรียงต่อกันเป็น 1 ไบต์ทำไห้สร้างรหัสเเทนข้อมูลเพื่อใช้เเทนอักขระ
เขตข้อมูล คือการนำเอาอักขระหลายๆตัวรวมกันโดยมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า ฟิลด์ (Field)
การจัดเก็บข้อมูล
ขนาดความจุ ของหน่วยบันทึกข้อมูล ตามมาตรฐาน ISO
1024 3ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 กิโลไบต์ (Kiobyte)
1024 6 ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 เมกะไบต์ (Megabyte)
1024 9 ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 กิกะไบต์ (Gigabyte)
1024 12ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 เทราไบต์ (Terabyte)
1024 15 ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 เพ็ดทาไบต์ (Petabyte)
1024 18 ไบต์ (ตัวอักษร) = 1เอ็กซาไบต์ (Exabyte)
1024 21 ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 เซ็ตทาไบต์ (Zettabyte)
102424 ไบต์ (ตัวอักษร) = 1 ยอททราไบต์ (Yottabyte)
1 เทราไบต์ ความจุเทียบเท่ากับหนังสือประมาณ 500 ล้านหน้า
ฐานข้อมูล
ฐานข้อมูล หมาย ถึง กลุ่ม แฟ้มข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวม ไว้ด้วยกันเพื่อการใช้งาน โดยมี ความสัมพันธ์ซึ่งกัน
ระบบการจัดการฐานข้อมูล
(Database Management System: DBMS)
ประโยชน์ของการใช้ฐานข้อมูล
ตอบสนองต่อการต้องการใช้ข้อมูลได้หลายรูปแบบ
หลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาความขัดแย้งของข้อมูล
กำหนดความเป็นมาตรฐานเดียวกันได้
สามารถสร้างระบบความปลอดภัยให้กับฐานข้อมูล
สามารถควบคุมการใช้งาน การเข้าถึง พร้อมกันจากผู้ใช้หลายคน
ความสัมพันธ์ของฐานข้อมูล
ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง One to One
สัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม One to Many
ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม Many to Many
การประยุกต์ใช้ฐานข้อมูล
คลังข้อมูล (Data Warehouse)
คลังข้อมูล (Data Warehouse) คือฐานข้อมูลที่
ได้มีกระบวนการสกัดข้อมูลจากฐานข้อมูลอื่น ที่มี
โครงสร้างหรือระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน เพื่อ
น าข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการคิดวิเคราะห์และ
ตัดสินใจ
การประยุกต์ใช้ฐานข้อมูล
ดาต้ามาร์ท (Data Mart) คือ การจัดเก็บข้อมูลและแบ่งส่วนจัดเก็บเป็นส่วนย่อยๆจากการดูหน้าที่หน่วยงานย่อยขององค์กร
ฐานข้อมูลแบบกระจาย (Distributed Database System) คือ การทำงานระบบการจัดการข้อมูล ซึ่งจะออกแบบระบบฐานข้อมูลโดยอาศัยพื้นฐานการทำงานขององค์กร
เหมืองข้อมูล (Data Mining) คือเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์สนับสนุนการตัดสินใจของการบริหารในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแยกประเภทจำแนกรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือ คลังข้อมูล