ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิตอล และ New normal

ผู้นำจะต้องสื่อสารกับพนักงานให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งให้ทราบถึงแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ การติดตามความก้าวหน้าของงาน การระดมความคิดหายุทธวิธี การแจ้งสถานการณ์และมาตรการเกี่ยวกับสุขอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน รวมถึงการแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ความเป็นไปขององค์กร ในทุกวิกฤตความกังวลและคำถามย่อมเกิดขึ้น ผู้นำจะต้องสามารถประเมินความกังวลและตอบข้อคำถาม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานในองค์กร นอกจากนี้ การสื่อสารคือวิธีการหนึ่งที่ช่วยเชื่อมโยงยึดเหนี่ยวผู้นำองค์กรและพนักงานไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ต่างฝ่ายต่างทำงานคนละสถานที่

ปรับตัวพัฒนาทันเหตุการณ์

มีภาวะผู้นำ

กล้าตัดสินใจ

รอบรู้ แม่นยำในข้อมูลสารสนเทศ

ความสุจริตโปร่งใส และเที่ยงธรรม

เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ทุกรูปแบบ

เป็นได้ทั้งผู้นำและผู้ตาม

ทักษะในการสร้างทีมงานทักษะในการแก้ไขปัญหา

สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างอนาคต
Inspiration for the Future

ความมั่นคงไม่หวั่นไหว Stability

มองเห็นสถานการณ์ในระยะยาวได้ไกลกว่า

มีความสุขุมรอบคอบ

รับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเป็นระบบระเบียบน่าเชื่อถือ

วิเคราะห์และแยกแยะได้ถูกต้องแม่นยำ

เข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้องสมบูรณ์ เชื่อถือได้

หมั่นศึกษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

มีความเชื่อมั่นในตนเอง

มีความมั่นใจในตนเองและบุคลากร

รับผิดชอบกับผลที่เกิดจากการตัดสินใจ

การสื่อการ

การบริหารจัดการทรัพยากร

ลงทุนในอุปกรณ์ที่ทำให้การเรียนการสอนออนไลน์มีประสิทธิภาพ

พัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนออนไลน์

ปรับระบบการทำงาน

การจัดการเรียน

เรียนที่โรงเรียน (On-site)

เรียนผ่านระบบออนไลน์ (Online)

การจัดส่งหนังสือแบบเรียน (On Hand)

เรียนผ่านระบบการศึกษาทางไกล (On-air)

การเรียนผ่านแอพลิเคชั่น (On Demand)

การปรับเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล

การจัดการสอน

ปรับรูปแบบจากครูผู้สอนเป็นครูผู้สนับสนุนการเรียนรู้

ปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนรู้ผ่านการฝึกอบรมครู

ปรับทักษะของครู เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสอน

ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

รับฟังเสียงสะท้อนจากครู ผู้ปกครอง นักเรียน และชุมชน

ทัศนคติในแง่บวก

ผู้นำควรมีทัศนคติในแง่บวกเสมอ เพราะคุณสมบัตินี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้องค์กรว่าจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ และนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การมีทัศนคติในแง่บวกไม่ใช่การหลอกตัวเองหรือการบิดเบือนความเป็นจริงกับพนักงาน ผู้นำจะต้องยอมรับความเป็นจริงของทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบัน ตระหนักรู้ในข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้น เรียนรู้จากความผิดพลาด และเชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสที่องค์กรจะก้าวต่อไปสู่เป้าหมายได้

มีความฉลาดทางอารมณ์และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

มีความมั่นคงทางอารมณ์ สามารถบริหารจัดการอารมณ์ตัวเองได้ ไม่ทำให้ปัญหาที่มีอยู่ใหญ่ไปกว่าเดิม แต่ทำให้ปัญหาที่มีอยู่นั้นเล็กลงโดยใช้ความฉลาดทางอารมณ์ในการทำความเข้าใจผู้อื่น และถอยมาหนึ่งก้าวเพื่อมองภาพรวมและหาวิธีเพื่อแก้ไขปัญหานั้น การมีทักษะนี้จะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ความฉลาดทางอารมณ์จึงเป็นอีกทักษะหนึ่งที่สำคัญมากในการทำงานในภาวะวิกฤต คนทำงานยุค new normal ต้องกล้าตั้งคำถามใหม่ กล้าที่จะคิดนอกกรอบ รู้จักประยุกต์พลิกแพลง นำข้อมูลหรือความรู้ที่มีอยู่มาคิดต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับองค์กร

การร่วมมือร่วมแรงใจของทุกคนในองค์กรคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นผู้นำควรส่งเสริมและสนับสนุนพนักงานในการแสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การรับฟังข้อเสนอแนะของพนักงานด้วยความตั้งใจ เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้นำตระหนักรู้ในคุณค่าของพนักงานและเคารพในทุกความคิดเห็น และยังเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานคนอื่นๆ ที่อาจมีแนวคิดดีๆ กล้าที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากนี้ การให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในงานที่ได้รับมอบหมายก็เป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ผู้นำมีต่อพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในการทำงานแบบปกติใหม่ ที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่นและความไว้วางใจเป็นรากฐาน

การร่วมมือร่วมแรงใจ

นายสุวิชัย มาธงชัย
รหัสนักศึกษา 640401320062

มีความยุติธรรม

นายสุวิชัย มาธงชัย
รหัสนักศึกษา 640401320062