Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คุณลักษณะที่ดีของครูตามหลักพุทธรรม และสมรรณะครู - Coggle Diagram
คุณลักษณะที่ดีของครูตามหลักพุทธรรม และสมรรณะครู
หลักสังคหวัตถุและอิทธิบาท4
สังคหวัตถุ 4
ทาน การให้ การเสียสละ หรือการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน
ปิยวาจา การพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน พูดด้วยความจริงใจ ไม่พูดหยาบคาย
อัตถจริยา การสงเคราะห์ทุกชนิดหรือการประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
สมานัตตา การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ
อิทธิบาท 4
ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น
หลักเบญจศิลเบญจธรรม
เบญจศีล
1.ปาณาติบาต คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ และการเบียดเบียนสัตว์
อทินนาทาน คือ ละเว้นจากการลักขโมย ปล้นจี้ ฉกชิง วิ่งราว เป็นต้น
กาเมสุมิจฉาจาร คือ ละเว้นจากการประพฤติผิด ล่วงละเมิดลูกเมียผู้อื่น
มุสาวาท คือ ละเว้นจากการพูดปด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูดส่อเสียด
สุราเมระยะ คือ ละเว้นจากการเสพสุรา เพราะเป็นสาเหตุให้ทำผิดศีลข้อ
เบญจธรรม
เมตตากรุณา คือ บุคคลใดที่มีเมตตาย่อมไม่ฆ่า หรือเบียดเบียนสัตว์
สัมมาอาชีพ คือ ประกอบอาชีพที่สุจริต มีรายได้ รู้จักใช้จ่าย และที่สำคัญรู้จักคำว่าพอดี
ความสำรวมอินทรีย์ คือ ระมัดระวัง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
ความซื่อสัตย์ คือ การพูดความจริง เป็นสิ่งที่ทำให้ไม่เกิดการมุสาวาท
สติ คือ การรู้สึกตัว ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกุศล ทำให้ชีวิตไม่ประมาท เพราะรู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว
หลักฆราวาสธรรมและหลักโลกธรรม
ฆราวาสธรรม 4
สัจจะ คือการเป็นคนจริง ในที่นี้จะนำเสนอสองนัยยะ
ทมะ คือการฝึกตัวเอง เมื่อเราตั้งใจอะไรไว้แล้วก็ต้องฝึกตัวเองให้เพิ่มพูนตลอดเวลา
ขันติ คือความอดทน ความอดทน
จาคะ คือความเสียสละ ทั้งสละวัตถุสิ่งของ มีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่น และสละอารมณ์
โลกธรรม 8
โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์
1.ลาภ หมายความว่า ได้ผลประโยชน์ ได้มาซึ่งทรัพย์
2.ยศ หมายความว่า ได้รับฐานันดรสูงขึ้น ได้อำนาจเป็นใหญ่เป็นโต
3.สรรเสริญ คือ ได้ยิน ได้ฟัง คำสรรเสริญคำชมเชย คำยกย่อง เป็นที่น่าพอใจ
4.สุข คือ ได้ความสบายกาย สบายใจ ความเบิกบาน บันเทิงใจเริงใจ
โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์
1.เสื่อมลาภ หมายความว่า เสียลาภไป ไม่อาจดำรงอยู่ได้
2.เสื่อมยศ หมายถึง ถูกลดอำนาจความเป็นใหญ่
3.นินทาว่าร้าย หมายถึง ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี ถูกติฉินนินทา หรือถูกกล่าวร้ายให้เสียหาย
4.ทุกข์ คือ ได้รับความทุกขเวทนา ทรมานกาย ทรมานใจ
หลักธรรมหริโอตะปะ และหลักกุศลกรรมบถ๑๐
ธรรมคุ้มครองโลก
หิริ
ความละอายแก่ใจ ความละอายต่อบาป
โอตตัปปะ
ความเกรงกลัว หมายถึงความสะดุ้งกลัวต่อผลของความชั่ว ต่อผลของความทุจริตที่ทำไว้
อกุศลกรรมบถ 10 ประการ
กายกรรม 3
ปาณาติบาต คือ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
อทินนาทาน คือ การถือเอาของที่เจ้าของเขาไม่ให้ เช่น การขโมย
กาเมสุมิจฉาจาร คือ การประพฤติผิดในกาม
วจีกรรม 4
มุสาวาท คือ การพูดเท็จ
ปิสุณวาจา คือ การพูดส่อเสียด
ผรุสวาจา คือ การพูดคำหยาบ
สัมผัปปลาป คือ การพูดเพ้อเจ้อ
มโนกรรม 3
อภิชฌา คือ การเพ่งเล็งอยากได้ของคนอื่นมาครอบครอง
พยาบาท คือ การคิดปองร้ายคนอื่น
มิจฉาทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดจากคลองธรรม
หลักมรรค๘ และทิศ๖ คุณธรรม๗
มรรค๘
สัมมาทิฎฐิ ความเห็นชอบ การเข้าใจเรื่องราวอย่างถูกต้อง
สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ การคิดที่จะทำในเรื่องที่ดีงาม ไม่คิดโกรธ เบียดเบียน รักใคร่ ยึดธรรมะ
สัมมาวาจา วาจาชอบ ไม่พูดปด พูดส่อเสียด พูดหยาบ พูดเพ้อเจ้อ ไร้สาระ
สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ ปฏิบัติชอบ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ขโมย ไม่ประพฤติผิดในกาม
สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีวิตชอบ ประกอบอาชีพสุจริต ไม่คดโกง ไม่หลอกลวง
สัมมาวายามะ เพียรชอบ ทำความเพียรทั้งทางโลกและทางธรรม
สัมมาสติ ระลึกชอบ มีความระลึกชอบ รู้ถูกรู้ผิดทางธรรมโดยมุ่งตัดกิเลสทั้งปวง
สัมมาสมาธิ ตั้งมั่นชอบ จิตอยู่ในสมาธิที่ถูกต้องได้เสมอ การตั้งจิตใจให้แน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน
ทิศ๖
ปุรัตถิมทิส ทิศเบื้องหน้า คือ ทิศตะวันออก ได้แก่ มารดา บิดา เพราะเป็นผู้มีอุปการะแก่เรามาก่อน
ทักขิณทิส ทิศเบื้องขวา คือ ทิศใต้ ได้แก่ ครูอาจารย์ เพราะเป็นทักขิไณยบุคคล ควรแก่การบูชา
ปัจฉิมทิส ทิศเบื้องหลัง คือ ทิศตะวันตก ได้แก่ บุตร ภรรยา เพราะคอยติดตามเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ข้างหลัง
อุตตรทิส ทิศเบื้องซ้าย คือ ทิศเหนือ ได้แก่ มิตรสหาย เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรค ภัยอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุนให้บรรลุความสำเร็จ
เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ คนรับใช้ ลูกน้อง บริวาร เพราะเป็นผู้ช่วยทำการงานต่างๆ เป็นฐานกำลังให้
อุปริมทิส ทิศเบื้องบน ได้แก่ สมณพราหมณ์ พระสงฆ์ เพราะเป็นผู้สูงด้วยคุณธรรม และเป็นผู้นำทางจิตใจ
คุณธรรม๗
ธัมมัญญู- เป็นผู้รู้จักเหตุ
อัตถัญญู- เป็นผู้รู้จักผล
อัตตัญญู- เป็นผู้รู้จักตน
มัตตัญญู- เป็นผู้รู้จักประมาณ
กาลัญญู- เป็นผู้รู้จักกาล
ปริสัญญู- เป็นผู้รู้จักชุมชน
ปุคคลัญญูหรือ ปุคคลปโรปรัญญู – เป็นผู้รู้จักบุคคล
สมรรถนะครู
สมรรถนะหลัก (Core Competency)
สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency)