Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พยาธิสรีรภาพของเนื้องอ - Coggle Diagram
พยาธิสรีรภาพของเนื้องอ
- Tumor ตามรากศัพท์ภาษาลาติน มีความหมายว่า เป็นก้อนเนื้อที่เกิดจากการบวมของเนื้อเยื่อ (Tissue Swelling) แต่โดยทั่วไปแล้วถูกนำมาใช้ในความหมายว่า เป็นก้อนเนื้องอก
- Neoplasm หรือ Neoplasia (neo = new, plasia = tissue or cells) (Technical term) หมายถึง ก้อนเนื้อผิดปกติที่เกิดจากความผิดปกติของการเติบโตและแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์
- Cancer "มะเร็ง" ปรากฏในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 โดยมีความหมายคือเนื้องอกชนิดร้าย เกิดขึ้นเพราะเซลล์แบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ควบคุมไม่ได้ แล้วแทรกไปตามเนื้อเยื่อข้างเคียง และสามารถหลุดจากแหล่งเริ่มต้นไปแบ่งตัวเพิ่มจำนวนที่บริเวณอื่น ๆ ได้รักษาไม่ค่อยหาย
-
Differentiation
- Well differentiation - เซลล์เนื้องอกนั้น มีลักษณะรูปร่างและการทำงานใกล้เคียงกับเซลล์หรือเนื้อเยื่อต้นกำเนิดมาก แสดงถึงว่า เนื้องอกชนิดดังกล่าวมีการเจริญที่ดี
- Moderatelydifferentiation - เซลล์เนื้องอกนั้น มีการเจริญที่ถ้ำกึ่งระหว่าง Well differentiation และ Poorly differentiation
- Poorly differentiation - เซลล์เนื้องอกนั้น มีลักษณะรูปร่างและการทำงานแตกต่างจากเซลล์หรือเนื้อเยื่อปกติมากจนแทบจะบอกเซลล์หรือเนื้อเยื่อต้นกำเนิดไม่ได้
- เนื้องอกที่ Lack of differentiation, Undiferentiated หรือ Anaplasia หมายถึง เนื้องอกที่มีลักษณะรูปร่างและการทำงานของเซลล์หรือเนื้อเยื่อแตกต่างจากเชลล์ต้นกำเนิด และไม่สามารถบอกเซลล์ต้นกำเนิดได้เลย
-
-
Cancer
มะเร็งเป็นโรคของเซลล์ที่มีความผิดปกติในระดับพันธุกรรม (genetic aberration) ทำให้มีการ เจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนของเซลล์อย่างผิดปกติ และอยู่นอกเหนือควบคุมได้ ส่งผลให้เกิดเป็นก้อนมะเร็ง ขึ้นมา
กลไกการเกิดมะเร็ง (Carcinogenesis, oncogenesis)
-
ขบวนการหรือขั้นตอนในการเกิดมะเร็ง เป็นขบวนการหลายขั้นตอนกว่าที่ปกติของร่างกายจะกลายไป เป็นเซลล์มะเร็งเรียกว่า multistep carcinogenesis มีดังนี้
- Tumor initiation เป็นขั้นตอนแรกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมในเซลล์ร่างกาย อย่างถาวร (irreversible genetic damage) โดยถูกชักนาโดยปัจจัยทางกายภาพภายนอก
- Tumor promotion ในระยะน้ีเซลล์ท่ีมีความผิดปกติมีการเพ่ิมการเจริญเติบโตและแบ่งตัว เมื่อมี การแบ่งตัวเพิ่มจานวนของเซลล์มากขึ้นจะทาให้โครโมโซมและยีนท่ีมีความผิดปกติในระยะแรกมี ความผิดปกติ มากข้ึนเรื่อยๆ เรียกว่ามี genetic instability มากขึ้น จนมีความผิดปกติทางพันธุกรรมมากถึงระดับ หนึ่งเซลล์ น้ันก็จะเข้าสู่ระยะท่ี 3
- malignant conversion มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างจากเซลล์ธรรมดากลายเป็นเซลล์ระยะก่อน มะเร็ง (premalignant lesions) และกลายเป็นเซลล์มะเร็งในท่ีสุด
- Tumor progression เร่ิมมีการแสดงคุณลักษณะของการเป็นเซลล์มะเร็ง คือมีการลุกลามไปยัง อวัยวะ ข้างเคียงและแพร่กระจายไปยังที่อ่ืนๆในร่างกาย (metastasis)
สาเหตุของมะเร็ง
สารเคมีก่อมะเร็ง (Chemical Carcinogens)
- Polycyclic aromatic hydrocarbons
- Aflatoxin โดยเฉพาะ Aflatoxin B1
- Aromatic Amines และ Azo Dyes
- Nitrosamines
- สารโลหะชนิดต่างๆ เช่น นิกเกิล สารตะกั่ว แคดเมี่ยม โคลบอล
รังสีก่อมะเร็ง ( Radiant energy)
- รังสีอุลตราไวโอเลต (Ultraviolet Radiation)
- carcinoma และ Melanoma
- สารกัมมันตภาพรังสี (Ionizing radiation)
เชื้อโรคทกี่ก่อมะเร็ง (Oncogenic microbes)
- DNA virus ที่ก่อมะเร็ง Human papilloma virus (HPV) Epstein-Barr virus (EBV) Hepatitis B virus (HBV)
- RNA virus ที่ก่อมะเร็ง Human T-Cell Leukemia Viruses I (HTLV I) ซึ่งจะติดเชื้อที่เซลล์เม็ดเลือดขาวลิมโฟซัย ชนิด T ทาให้มีการเพิ่มจานวนของเซลล์ดังกล่าว ร่วมกับการผ่าเหล่าของยีน จึงเกิดมะเร็งของ เม็ดเลือดขาวลิมโฟซัย ชนิด T ทั้งที่เป็นชนิด T cell leukemia และ lymphoma
-
-
-
มะเร็งตับ
มะเร็งตับ คือ มะเร็งที่มีกาเนิดจากเซลล์ที่อยู่ภายในตับ มี 2 ชนิดที่พบบ่อย คือ
- Hepatocellular carcinoma
- Intrahepatic cholangiocarcinoma เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยอีกด้วย
การคัดกรองมะเร็งตับ Hepatocellular carcinomaไม่แนะนาในประชาชนทั่วไปเนื่องจากไม่มี ข้อมูลที่ยืนยันว่าช่วยลดการตายจากมะเร็งตับในประกรทั่วไป แต่แนะนาให้คัดกรองมะเร็งตับในประชากรกลุ่ม เสี่ยง เช่น ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็น Chronic HBV or HCV infection, ผู้ป่วย Liver Cirrhosis เป็นต้น ซึ่งจะ ทาการคัดกรองโดยการตรวจเลือด และ การทาอัลตราซาวด์ช่องท้องทุก 6 เดือน
มะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านม คือ มะเร็งที่เกิดจากเซลล์เต้านม พบได้ทั้งในเพศหญิง และ เพศชาย แต่พบในเพศหญิง บ่อยกว่า
มะเร็งเต้านม ชนิดที่พบบ่อยที่สุด คือ มะเร็งที่มีต้นกาเนิดจากเซลล์ของท่อน้านม (milk-producing ducts) ที่เรียกว่า invasive ductal carcinoma พบประมาณร้อยละ 80 ของ Invasive Breast Cancer ส่วน มะเร็งที่มีกาเนิดจากเซลล์ของต่อมน้านม (Milk producing gland) ที่เรียกว่า invasive lobular carcinoma พบไม่บ่อย ประมาณร้อยละ 10 ส่วนที่เหลือซึ่งพบน้อยเป็นมะเร็งอื่นๆที่เกิดจากเซลล์ชนิดอื่นๆ ที่พบในบริเวณ เต้านม เช่น Phylloides tumor เกิดที่ connective tissue ของเต้านม ส่วนใหญ่ เป็น benign แต่มีส่วนน้อย ที่เป็น Malignant
-