Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ศิลปะการใช้ชีวิต - Coggle Diagram
ศิลปะการใช้ชีวิต
หน่วยที่ 2 การรู้และเข้าใจตนเอง
ความต้องการของมนุษย์
ความต้องการความอยู่รอด
อาจเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดก็ได้เพราะเป็นหนึ่งในสัญชาตญาณพื้นฐานของคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อคนเราได้รับการตอบสนองด้วยปัจจัยสี่อัน
ความต้องการความปลอดภัย
รวมถึงความปลอดภัยอย่างยั่งยืนที่เรียกว่า ความมั่นคงด้วย ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานชีวิตและความเป็นอยู่ให้มีคุณภาพ สุขอนามัย และอาชีวอนามัยที่ดีขึ้น
ความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ต้องการความรักและความเข้าใจ ต้องการมีคนรักใคร่ชอบพอ ต้องการมีเพื่อนฝูง มีคนรัก มีครอบครัวที่สามารถทำให้เกิดความอบอุ่นทางใจ
ความต้องการความภาคภูมิใจในตัวเอง
ซึ่งคนทุกคนไม่ว่ายาก ดี มี จน สวย หล่อ ขี้เหร่ ฉลาดหรือโง่แค่ไหนก็ตามย่อมมีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตนเองและไม่ชอบให้ใครมาแสดงกริยาวาจาท่าทางดูหมิ่น เหยียดหยาม
ความต้องการเป็นตัวของตัวเองตามความเป็นจริง
แต่มีเงื่อนไขว่าความต้องการทั้ง 4 ประการที่กล่าวมาข้างต้นต้องได้รับการตอบสนองอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ด้วย จึงทำให้คนที่จะสามารถบรรลุความต้องการขั้นนี้ได้จริงมีน้อยมากๆ ยกตัวอย่างเช่น องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น
แนวคิดปัจจัยที่มีอิทธิพลพฤติกรรมทางสังคม
ความต้องการทางกายภาพ
เป็นความต้องการพื้นฐานตามธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว เช่น ความหิว ความกระหาย ความต้องการทางเพศ เป็นต้น ความต้องการเหล่านี้สมาชิกในสังคมจะให้การตอบสนองกันและกันเป็นประจำ
ความต้องการทางจิตใจ
ความต้องการทางกายภาพนั้นมนุษย์สามารถตอบสนองได้เองโดยไม่ต้องพึงพาสมาชิกในสังคม เช่น เมื่อหิวก็สามารถเดินไปหาอาหารทานตามลำพังได้ แต่ความต้องการทางจิตใจนั้นเป็นความต้องการที่แสวงหาตลอดเวลา
ความต้องการที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตทางวัฒนธรรมในสังคมมนุษย์ ด้วยเหตุที่ความต้องการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคมจะเป็นไปได้ ก็ต่อเมื่อมนุษย์เกิดการสร้างสรรค์ภาษาเพื่อใช้ในการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน เพื่อการถ่ายทอดไปสู่ชนรุ่นหลัง
การเห็นคุณค่าในตนเอง
ความรู้สึกที่บุคคลรับรู้ว่าตนเองมีคุณค่า นำไปสู่ความเชื่อมั่นในตนเอง และการยอมรับนับถือตนเอง ซึ่งเป็นผลจากการประเมินตนเองโดยภาพรวมในด้านความสามารถ ความสำคัญ และความสำเร็จของตนเอง และแสดงออกมาในรูปแบบของทัศนคติในแง่บวกที่มีต่อตนเอง
กระบวนการพัฒนาปัญญา
สัญญา รู้จัก
เป็นความรู้ผิวเผิน คือ รู้แต่เพียงสิ่งที่มากระทบ สิ่งที่มาได้ประสบทางอายาตนะว่า เป็นอะไรอันหนึ่ง แต่ไม่รู้ชัดว่า เป็นอะไรแน่ เป็นวิวัฒนาการทางสมองในชั้นต้นๆ ของมนุษย์ในวัยทารกที่เพิ่งจะรู้ความ มีอายุระหว่าง ๓ เดือน ถึง ๓ ปี เมื่อเห็นธนบัตร อย่างดีจะรู้เพียงว่า เป็นวัตถุสิ่งหนึ่งที่มีรูปลักษณะแบน สี่เหลี่ยมเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่า เป็นเงินตราที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
วิญญาณ รู้แจ้ง
รู้ได้ดีกว่าข้อแรก เป็นวิวัฒนาการทางสมองของมนุษย์ในขั้นต่อมาซึ่งมีอายุตั้งแต่ ๓ ปีขึ้นไปจนถึง ๑๕ ปี เป็นปัญญาที่เกิดมาจากได้รับการอบรมสั่งสอนของบิดามารดา หรือ โดยการศึกษาจากโรงเรียนในระดับต้นๆ เป็นความรู้ระดับชาวบ้านทั่วไป เมื่อเห็นธนบัตร ก็พอจะรู้ความว่า เป็นเงินตราที่จะนำมาจับจ่ายใช้สอยได้ แต่ไม่สามารถจะจำแนกแยกแยะได้ว่า เป็นธนบัตรดี หรือธนบัตรปลอม
ปัญญา รู้ทั่ว
รู้ได้อย่างละเอียดว่า สิ่งนั้นๆ เป็นอะไร มีแหล่งกำเนิดมาอย่างไร ใครเป็นคนทำ ใครเป็นเจ้าของ เป็นวิวัฒนาการทางสมองของมนุษย์สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการศึกษาและประสบการณ์ของชีวิตที่เพิ่มขึ้นในวัยอายุที่ผ่านมา เมื่อเห็นธนบัตร จะรู้ได้ทันทีว่า เป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ เป็นเงินตราสกุลใด
หน่วยที่4พฤติกรรมสังคมสมัยใหม่
กฎหมายทางคอมพิวเตอร์
พระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ค่ะ ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ว่านี้ก็เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมาร์ตโฟน รวมถึงระบบต่างๆ ที่ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกัน ควบคุมการกระทำผิดที่จะเกิดขึ้นได้จากการใช้คอมพิวเตอร์
พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 13 ข้อ
เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ชอบ
แก้ไข ดัดแปลง หรือทำให้ข้อมูลผู้อื่นเสียหาย
ส่งข้อมูลหรืออีเมลก่อกวนผู้อื่น หรือส่งอีเมลสแปม
เข้าถึงระบบ หรือข้อมูลทางด้านความมั่นคงโดยมิชอบ
จำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด
นำข้อมูลที่ผิด พ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ให้ความร่วมมือ ยินยอม รู้เห็นเป็นใจกับผู้ร่วมกระทำความผิด
ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงภาพ
เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเยาวชน ต้องกระทำโดยปกปิดไม่ให้ทราบตัวตน
เผยแพร่เนื้อหาลามก อนาจาร
กด Like & Share ถือเป็นวิธีหนึ่งในการเผยแพร่ข้อมูล
แสดงความคิดเห็นที่ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ละเมิดลิขสิทธิ์ นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
พฤติกรรมที่พึงประสงค์และไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
ที่พึ่งประสงค์
ทำให้ผู้รับข่าวสารรับข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และลดค่าใช้จ่ายในการสื่อสารและรับส่งข้อมูล
เกิดระบบผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยตรวจสอบสร้างสรรค์ วินิจฉับ และให้คำแนะนำในด้านตางๆ เกิดเป็นองค์ความรู้ที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต
สร้างโอกาสในหลายๆ ด้าน เช่นการเรียนของนักเรียนชายขอบ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ทำให้รับข้อมูลข่าวสารที่เท่าเทียมกันและมีโอกาสในการเรียนรู้เช่นเดียวกับการเรียนในเมือง
ที่ไม่พึ่งประสงค์
การคุกคามโดยใช้หลักจิตวิทยา
การคุกคามด้วยเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
การคุกคามโดยใช้โปรแกรม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus)
ประตูกล (Backdoor/trapdoor)
เวิร์ม (worm)
ม้าโทรจัน (trojan horse virus)
ประตูกล (Backdoor/trapdoor)
โปรแกรมโฆษณาหรือแอดแวร์ ( advertising Supported Software : adware)
โปรแกรมเรียกค่าไถ่ (ransomware)
ระเบิดเวลา (Logic Bomb)
โปรแกรมดักจับข้อมูลหรือ สปาย์แวร์ (Spyware)
แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต
ด้านบวก
การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรือลายมือเขียนได้ การแสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริง เป็นแบบสามมิติ และการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ในที่นั้นจริง
การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู้ เพื่อพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญและการจัดการความรู้
การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การเรียนการสอนด้วยระบบโทรศึกษา (tele-education) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากห้องสมุดเสมือน (virtual library)
การพัฒนาเครือข่ายโทร คมนาคม ระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย เครือข่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ
การบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินการของภาครัฐที่เรียกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government) รวมทั้งระบบฐานข้อมูลประชาชน หรือ e-citizen
ด้านลบ
ความผิดพลาดในการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบและพัฒนา ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบและสูญเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา
การละเมิดลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา การทำสำเนาและลอกเลียนแบบ
การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ การโจรกรรมข้อมูล การล่วงละเมิด การก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์
การใช้สื่อเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการเรียน
ในส่วนของผู้สอน สื่อ ช่วยให้บรรยากาศในการสอน น่าสนใจยิ่งขึ้น ช่วยแบ่งเบาภาระของครู ในการเตรียมเนื้อหาเพราะอาจให้นักเรียนศึกษาได้จากสื่อ และยังช่วยให้ผู้สอนคิดค้นเทคนิคใหม่ๆที่ช่วยในการเรียนรู้ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
ในส่วนของผู้เรียน สื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนที่ยุ่งยากซับซ้อนได้ง่ายขึ้นในเวลาอันสั้นเกิดความคิดรวบยอดได้ถูกต้อง สามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนได้สะดวกช่วยให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง กระตุ้นความสนใจในการเรียนและสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนได้ดี
หน่วยที่ 1 วิทยาศาสตร์และจริยธรรมในชีวิต
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำเนินชีวิต
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน วิทยาศาสตร์ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อโลกปัจจุบันและอนาคตอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยนี้ที่วิทยาศาสตร์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของมนุษย์ทุกคน ทั้งในด้านการดำเนินชีวิต การงานอาชีพ ข้าวของเครื่องใช้รวมถึงผลผลิตต่างๆที่ล้วนแต่จะต้องมีหลักวิทยาศาสร์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตลอด ทุกอย่างล้วนเต็มไปด้วยความสะดวกสบายในการทำงานและการดำเนินชีวิตที่มีผลมาจากวิทยาศาสตร์ ความรู้ การคิดวิจัยต่างๆ เรียกได้ว่าวิทยาศาสตร์เป็นตัวช่วยที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีและพัฒนาในมีประสิทธิภาพสูงสุดมากที่สุดสำหรับมนุษย์
ผลกระทบของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
ผลกระทบทางสังคม(ชีวิตความเป็นอยู่ อาชีพ การศึกษา ฯ)
ผลกระทบทางการเมือง การปกครอง
ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
ผลกระทบทางศิลปวัฒนธรรม
ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การเงิน อุตสาหกรรม
จริยธรรมในการใช้ชีวิต
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ความจริงใจที่ไม่เห็นแก่เพียงตัเองหรือเรื่องของตัวเอง เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ มีความเอื้ออาทร
พอประมาณ
รู้จักเก็บออม ถนอมใช้ทรัพย์สิน สิ่งของเพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ วางแผนการเงิน
ซื่อสัตย์สุจริต
ความประพฤติตรง ไม่เอนเอียง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม มีความจริงใจ ปลอดจากความรู้สึกลำเอียงหรืออคติ
ขยัยอดทน
ความตั้งใจพยายามทำหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง อดทนไม่ท้อถอยเมื่อพบอุปสรรค กล้าเผชิญอุปสรรค
มีความสามัคคี
ความพร้อมเพรียงกัน ความกลมเกลียวความปรองดองกัน ร่วมใจกันปฏิบัติงานให้บรรลุผลตามต้องการ
สุภาพเรียบร้อย
เรียบร้อย อ่อนโยน ละมุนละม่อม มีกริยามารยาทที่ดีงาม มีสัมมาคารวะ วางตนเหมาะสมตามวัฒนธรรมไทย
หน่วยที่3บุคลิกภาพและการปรับตัว
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพคือสิ่งที่ทำให้แต่ละบุคคลมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว บุคลิกภาพจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และความพยายามที่จะปรับปรุงบุคลิกภาพของแต่ละคน ผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดีย่อมได้เปรียบ เป็นที่ต้องตาต้องใจแก่ผู้พบเห็น ตลอดจนมักจะประสบผลสำเร็จในการสมัครเข้าทำงานและการประกอบอาชีพ บุคลิกภาพเป็นเรื่องของภาพรวมที่ตัวเราแสดงออกไป ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวโดยมีบุคคลอื่นมองอยู่หรือรู้สึกกับสิ่งที่เราแสดงออกจึงต้องมีการระมัดระวังและตกแต่งเสริมเติมให้บุคลิกภาพของเรายิ่งน่ามอง และเป็นที่ประทับใจของคนรอบตัว
การพัฒนาบุคลิกภาพ
การปรับปรุงพฤติกรรมของบุคคลเพื่อขจัดข้อบกพร่องและเพิ่มจุดเด่น โดยพยายามขจัดข้อบกพร่องให้ออกไปมากที่สุด และพยายามปรับปรุงพัฒนาเพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์และภาพพจน์ของบุคคลนั้นให้เป็นที่น่าเชื่อถือศรัทธา โดยการปรับปรุงทั้งภายในและภายนอก กิริยามารยาท การแต่งกาย การแสดงออกทางอารมณ์ และคำพูดกระบวนการที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และบุคคลมีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น
การปรับตัว
สำหรับการทำงานในยุคปัจจุบันนี้ ความสามารถในการปรับตัวคือสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำงาน เพราะความสามารถในการปรับตัวนั้นจะช่วยให้คุณพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่มีทักษะการปรับตัวกลายเป็นคนที่มีข้อได้เปรียบในการทำงาน แล้วความสามารถในการปรับตัวนั้น เราจะสามารถสร้างหรือพัฒนาได้อย่างไรบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน
หน่วยที่5 ศิลปะในการสร้างสุข
นิยามและแนวคิดเกี่ยวกับความสุข
การประเมินของแต่ละคนว่าชื่นชอบชีวิตโดยรวมของตนเองมากแค่ไหน การที่เราบอกว่าเรามีความสุข จึงหมายถึงเรารู้สึกชอบหรือพึงพอใจกับชีวิตเรานั่นเอง คนที่มีความสุขนั้น เป็นคนที่แทบจะไม่รู้สึกวิตกกังวลกับชีวิตนเอง ชอบสนุกสนานอยู่กับเพื่อนฝูง และชอบประสบการณ์ใหม่ ๆ
องค์ประกอบแห่งความสุข
Happy Body (สุขภาพดี) มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและจิตใจ เพราะมีความเชื่อว่าถ้ามนุษย์มีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรงก็จะมีจิตใจที่ดี พร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่จะเข้ามาได้เป็นอย่างดี
Happy Heart (น้ำใจงาม) มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อกันและกัน เนื่องจากมีความเชื่อว่าความสุขที่แท้จริงคือการเป็นผู้ให้
Happy Society (สังคมดี) มีความรักสามัคคีเอื้อเฟื้อต่อชุมชนที่ตนทำงาน และพักอาศัย มีสังคมและสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะเชื่อว่าการที่ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีภายในสังคมหรือชุมชน ย่อมเป็นพื้นฐานที่ดี ทำให้ ผู้อยู่อาศัย มีความรัก ความปรองดอง สามัคคีต่อกัน พร้อมร่วมแรงร่วมใจช่วยกันพัฒนาชุมชน ให้มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
Happy Relax (ผ่อนคลาย) รู้จักผ่อนคลายต่อสิ่งต่างๆ ในการดำเนินชีวิต เพราะเชื่อว่าการที่คนทำงาน หากไม่รู้จักสรรหา การผ่อนคลายให้กับตนเอง จะทำให้ร่างกายและจิตใจเกิดความเครียด อันส่งผลกระทบต่อหน้าที่ การทำงาน
Happy Brain (หาความรู้) มีการศึกษาหาความรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลาจากแหล่งต่างๆ นำไปสู่การเป็นมืออาชีพและ ความมั่นคงก้าวหน้าในการทำงานเพราะเชื่อว่า ถ้าเราทุกคนแสวงหาความรู้ใหม่ๆ มาเพิ่มพูน ความรู้และพัฒนาตนเองอยู่สม่ำเสมอ ก็จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดัน ช่วยให้องค์กรพัฒนาขึ้น ด้วยบุคลากรที่มีศักยภาพ
Happy Soul (ทางสงบ) มีความศรัทธาในศาสนาและมีศีลธรรมในการดำเนินชีวิต เพราะเชื่อว่าหลักธรรมคำสอนของศาสนา เป็นสิ่งที่จะช่วยการดำเนินชีวิตของทุกคนให้ดำเนินไปในเส้นทางที่ดีได้ ทำให้ทุกคนมีสติ มีสมาธิในการทำงาน สามารถรับมือกับปัญหาที่เข้ามาได้ ยึดหลักสนับสนุนให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี และมีความศรัทธาในคุณงามความดีทั้งปวง
Happy Money (ปลอดหนี้) มีเงิน รู้จักเก็บรู้จักใช้ ไม่เป็นหนี้ ปลูกฝังนิสัยอดออม ประหยัด รู้จักวิธีใช้เงิน ไม่ใช้สุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายแต่เท่าที่จำเป็น ยึดหลักคำสอนการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง
Happy Family (ครอบครัวดี) มีครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง ปลูกฝังนิสัยรักครอบครัว เพื่อนำไปเป็นหลักการใช้ชีวิต ให้รู้จักความรัก ความเชื่อมั่น และความศรัทธาในความดีงาม จึงจะเกิดเป็นคนดี ในสังคม (รักตนเอง รักครอบครัว รักการงาน รักเพื่อน รักในสิ่งที่พอเพียง)