ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา/ภาวะปัญญาอ่อน (Intellectual Disabilities: ID/Mental Retardation: MR)
ความหมาย
ภาวะที่บุคคลมีความสามารถด้านสติปัญญาและพฤติกรรมด้านการปรับตัวต่ำกว่าบุคคลปกติ มีค่าIntelligent Quotient: IQ ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 70 ลงมา
สาเหตุการเกิดภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
- พันธุกรรม พบได้ร้อยละ 32 โดยโรคทางพันธุกรรมที่พบบ่อย ได้แก่ Downsyndrome ,Tuberous sclerosis, Inborn error of metabolism
- ภาวะแทรกซ้อนในระยะก่อนคลอดและระหว่างคลอด พบได้ร้อยละ 23 เช่น การติดเชื้อ การเสพสารเสพติดที่มีผลต่อการพัฒนาของสมอง การได้รับสารตะกั่ว ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะครรภ์เป็นพิษ การคลอดก่อนกำหนด
- สาเหตุที่เกิดขึ้นภายหลัง พบได้ร้อยละ 8 ได้แก่ การติดเชื้อ เนื้องอกในสมองและผลกระทบจากการรักษา การขาดสารอาหารบางชนิด การได๎รับสารพิษจากสารตะกั่ว และภาวะชักปกติ เป็นต้น
- ความผิดปกติของสมองที่ไมํทราบสาเหตุแนํนอน พบได้ร้อยละ 8 โรคในกลุํม Neural tube defect และCornelia de Lange
ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา แบ่งระดับความรุนแรงตามระดับเชาวน์ปัญญา และระดับความสามารถที่วัดได้ เป็น 4 ระดับ
- mind intellectual disabilities/mental retardation ระดับ IQ เทํากับ 50-70
- moderate intellectual disabilities/mental retardation ระดับ IQ เทํากับ 35-49
- severe intellectual disabilities/mental retardation ระดับ IQ เทํากับ 20-34
- profound intellectual disabilities/mental retardation) ระดับ IQ ต่ำกวํา 20
พัฒนาการสูงสุดของเด็กกลุํมนี้เทํากับเด็กอายุ 9-12 ปี เด็กมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวช๎ากวําปกติ พูดช้ากว่าปกติ เด็กกลุํมนี้สามารถเรียนได้ถึงระดับประถมศึกษา
พัฒนาการสูงสุดเทํากับเด็กอายุ 6-9 ปี พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวช้าจนสังเกตเห็นได้ชัด พูดช้า มีปัญหาด้านการพูด
บุคคลที่มีภาวะบกพรํองทางสติปัญญา พัฒนาการสูงสุดเทํากับเด็กอายุ 3-5 ปี เด็กกลุํมนี้จะมีการเคลื่อนไหวช้ามาก พูดได้น้อยมากหรือไม้ได้ ใช้ท่าทางและเสียงในการสื่อความหมาย
ฝึกอาชีพและทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ โดยฝึกงานอาชีพที่ทำซ้ำๆ จนเกิดความเคยชิน เช่น งานช่างยนต์ ช่างไม้ ช่างตัดผม เป็นต้น
ฝึกให้ช่วยเหลือตนเองในด้านตํางๆ และทำงานงํายๆ โดยมีคอยแนะนำได้ เช่น งานล้างจาน ซักรีดเสื้อผ้า กวาดบ้านถูบ้าน เป็นต้น
ฝึกให้ช่วยเหลือตนเองด้านกิจวัตรประจำวันง่ายๆ เช่นรับประทานอาหาร อาบน้ำ แปรงฟัน เป็นต้น โดยต้องมีคนแนะนำ ชํวยเหลือตลอดเวลา
บุคคลที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา มีความพิการทางกายซ้ำซ้อน ความสามารถในการเคลื่อนไหวต่ำ ประสาทรับรู้ช้า ช่วยเหลือตนเองได้น้อยมากหรือไม่ได้เลย ต้องให้การดูแลเช่นเดียวกับเด็กเล็ก
การบำบัดรักษา
การบำบัดทางการพยาบาลของเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
การวินิจฉัยโรคภาวะบกพร่องทางสติปัญญา
Criteria A. IQ ต่ำกวํา 70 ทั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยการประเมินทางคลินิกรํวมด๎วยในการแปลผลระดับ IQ
Criteria B. มีความบกพร่องในการทำหน้าที่ของตน มีความบกพรํองในการจัดการสิ่งตําง ๆในชีวิต
Criteria C. ความบกพร่องทางสติปัญญาและการปรับตัวเริ่มแสดงอาการตั้งแตํในระยะพัฒนาการ
1) การรักษาโรคทางกายที่เป็นสาเหตุ
2) การรักษาโรคทางกายที่มักพบร่วมกับโรคที่เป็นสาเหตุ
3) การให้คำปรึกษาผู้ป่วย สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้าใจและยอมรับความสามารถที่บกพรํองของตนเอง
4) การให้คำปรึกษาครอบครัว ในระยะแรกครอบครัวต้องการข้อมูลในเรื่องสาเหตุ การดูแลรักษา การพยากรณ์โรค
5) ออกหนังสือรับรองความพิการตาม พ.ร.บ. การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534
6) การรักษาโรคทางจิตเวช โดยการบำบัดรักษาทางจิตสังคมปรับให้เหมาะสมับ ความสามารถทางสติปัญญาและการสื่ิอความหมายของผู้ป่วย
7) การชํวยเหลือด้านการศึกษา พ.ร.บ. การศึกษาแหํงชาติ พ.ศ. 2542
9) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา สนับสนุนใหได้เรียนรู๎ชีวิตในสังคมกับคนปกติ
8) การฝึกพูด ฝึกใช้กล้ามเนื้อช่วยพูด บังคับกล้ามเนื้อ
เปลํงเสียง การออกเสียง
7) การทำกิจกรรมบำบัดฝึกการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
6) การทำกายภาพบำบัด
2) การกระตุ้นและสํงเสริมพัฒนาการโดยเน้นทักษะด้านร่างกาย และทักษะในการ
1) สอน แนะนำ หรือให้คำปรึกษาครอบครัวในเรื่องโรค แนวทางการดูแลเด็ก
3) จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยไมํเกิดอันตราย
4) การให้คำปรึกษาครอบครัวในการระบายความรู้สึก สร้างเสริมกำลังใจ
5) การสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดอย่างต่อเนื่องเป็นรายบุคคลให้เกิดความ
10) การฟื้นฟูสมรรถภาพทางอาชีพ เริ่มที่อายุ 15 – 18 ปี