Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 11 กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี - Coggle Diagram
บทที่ 11
กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี
ประวัติกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (กรมเจ้าท่าเดิม)
ประเทศไทย
ติดต่อค้าขายกับต่างชาติมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี สมัยนั้นมิได้เรียก"กรมเจ้าท่" อย่างเช่นปัจจุบัน เรียก เจ้าภาษีบ้าง นายด่นบ้างและนายขนอมตลาดบ้าง ซึ่งทั้งหมด
ทำหน้าที่บังคับการจอดสมอเรือค้าขายเก็บค่าธรรมเนียมเรือค้าขายที่เข้าและออกราชอาณาจักร โดยอยู่ในความปกครอง บังคับบัญชาของกรมพระคลังส่วนคำว่า"กรมท่"แต่เดิมคงหมายถึงเจ้าท่าตามระบบเก่าหากแต่มีความหมายกว้างขวางออกไปอีกกรมท่าเป็นส่วนราชการที่มีแต่สมัยกรุงศรี-อยุธยา
คำ "เจ้าท่า" ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ตามประวัติศาสตร์คำว่า"เจ้าท่า"มีมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในรัชกาลพระองค์การค้าขายทางเรือกับต่างชาติ
ปรากฏว่า รุ่งเรื่องยิ่งกว่าสมัยใดๆ ในยุคนั้น คำว่า "เจ้าท่า" สันนิษฐานว่ามาจากภาษาเปอร์เซียซึ่งเรียกว่าเจ้าท่าว่า "Shah Bardar"
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้มีการตราพระราชบัญญัติว่าด้วยเรือใหม่ 10 มาตรา เรือเล็ก 7 มาตรา แพ โพงพาง และของลอยน้ำ 3 มาตรา ทางบก 4 มาตรา รวม24 มาตรา กฎหมายดังกล่าวนิยมเรียก "กฎหมายท้องน้ำ" สมัยกัปตัน บูช เป็นเจ้าท่าตำแหน่งเจ้าท่าขึ้นอยู่ในกรมพระคลัง ต่อมาย้ายสังกัดอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเดิมมีชื่อว่า"กรมท่า" (Kromata) พ.ศ. 2432 ย้ายไปอยู่กระทรวงโยธาธิการ ครั้นพระยาวิสูตรสาครดิษฐ์ชราภาพได้กราบถวายบังคับลาออกจากราชการกัปตันเอ.อาร์.วิลเป็นเจ้าท่าสืบแหนต่อมาเมื่อกัปตันวิลถึงแก่กรรมในพ.ศ2438ได้ยุบตำแหน่งเจ้าท่าลงเป็นตำแหน่งเวรท่ามีนายโยเกนชังชาวเดนมาร์กเป็นเวรท่าทำหน้าที่ตรวจตราลำแม่น้ำ
นโยบายของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี
ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554)
1.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานทั้งเพื่อการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารให้มีการกระจายบริการพื้นฐานให้ทั่วถึงและเพียงพอนำไปสู่การกระจายความเจริญไปสู่ส่วนภูมิภาคและสร้างโอกาสให้กับประชชนทุกระดับในสังคม อันเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตลอดจนเป็นการส่งเสริมสนับสนุน การท่องเที่ยวทางน้ำ
2.ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชย์นาวีทั้งระบบโดยระบบการขนส่งทางน้ำเป็นการขนส่งที่สามารถขนส่งได้คราวละมากๆซึ่งเป็นการขนส่งที่มีต้นทุนต่ำและประหยัดพลังงานโดยสอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 แผนพัฒนาโลจิสติกส์
3.บูรณะและพัฒนาร่องน้ำโดยการขุดลอกร่องน้ำการสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นเขื่อนป้องกันการกัดเซาะและเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง รวมทั้งจัดหาสิ่งอำนวยความปลอดภัย ในการใช้ร่องน้ำ เพื่อให้สมารถช้เป็น ส้นทางสัญจรได้โดยสะดวก และปลอดภัย รวมทั้งเป็นการ
ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนากิจการพาณิชย์นาวี และกิจการเกี่ยวเนื่องเพื่อให้การพาณิชยนาวีของไทยเจริญก้าวหน้าสามารถสนองความต้องการของประเทศและสามารถ แข่งขันทางเรือระหว่างประเทศได้อันได้แก่การขนส่งทางทะเลโดยเพิ่มศักยภาพของกองเรือไทย การเดินเรือ กิจการท่าเรือ กิจการอู่เรือ การผลิตบุคลากรด้าน พาณิชย์นาวี กิจการของผู้รับ จัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและการประกอบการโลจิสติกส์
5.พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารที่ต้องใช้ระบบการขนส่งเชื่อมต่อโดยการพัฒนาจุดเชื่อมต่อระบบโครงข่ายขนส่งสาธารณะทางน้ำและทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนยิ่งขึ้นรวมทั้งเป็นการลดต้นทุนการขนส่งให้ต่ำลง และสามารถแข่งขันการค้าและบริการกับต่างประเทศ
6.จัดหาเรือและระบบเครื่องมืออุปกรณ์ให้ทันสมัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุน ให้มีการตรวจตรา กำกับดูแล การสัญจรทางน้ำให้เกิดดวามปลอดภัย รวมทั้งรักษาสภาพ
เร่งรัดปรับปรุง ศึกษา และพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทันสมัยเพื่อนำมาช่วยในการพัฒนาระบบงานการขนส่งทางน้ำให้ได้มาตรฐานลดขั้นตอนที่ยุ่งยากซ้ำซ้อนและเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน รวมทั้งการก้าวไปสู่การให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จเพื่อให้สามารถบริการประชาชนได้อย่างสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ปรับปรุง กฎระเบียบ ข้อบังคับและจัดระบบการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง ทางน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ในการแข่งชันทางเศรษฐกิจความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อ
วิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ และเป้าหมาย
วิสัยทัศน์
พัฒนาระบบการคมนาคมขนส่งทางน้ำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วปลอดภัย และมีประ-สิทธิภาพ มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี ตลอดจนสนับสนุนให้มีการกระจายการขนส่งทางน้ำอย่างเหมาะสมและมีความเชื่อมโยงอันเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการค้าและบริการส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น
พันธกิจ
ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย กฎหมายว่าด้วยเรือไทย
2.ศึกษาและวิเคราะห์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำ
3.ดำเนินการจัดระเบียบการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชยนาวี
4.ร่วมมือและประสานงานกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศในด้านการขนส่งทางน้ำการพาณิชยนาวีและในส่วนที่เกี่ยวกับอนุสัญญาและความตกลงระหว่างประเทศ
5.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรม หรือตามที่กระ-ทรวง หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ประเด็นยุทธศาสตร์
การพัฒนาให้มีบริการ โดรงสร้างพื้นฐานกรขนส่งทางน้ำในเชิงยุทธศาสตร์ในฐานปัจจัยผลักดันในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งของพื้นที่
2.ความจำเป็นในการรักษามาตรฐานและพัฒนาคุณภาพบริการขนส่งทางน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจรและยกระดับคุณภาพชีวิต
3.การตระหนักถึงมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระบบการขนส่งทางน้ำ
4.รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการมุ่งพัฒนาระบบราชการให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดจากเงินลงทุนและทรัพย์สินสาธารณะ
เป้าประสงค์
จัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านการคมนาคมขนส่งทางน้ำและการเชื่อมโยงส่งเสริมการขนส่งระบบโลจิสติกส์อย่างบูรณาการ
ประชาชนได้รับระบบการจราจรขนส่งทางน้ำที่มีความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย
เพิ่มความปลอดภัยในระบบการขนส่งทางน้ำ
เสริมสร้างสมรรถนะในการบริหารจัดการด้วยระบบการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
หน่วยงานในสังกัด กรมการข้นส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี
สำนักงานเลขานุการกรม กองกิจกรระหว่างประเทศ กองคลัง กองทะเบียนเรือกองนำร่องกองวิซาการและวางแผนสถานีนำร่อง(สมุทรปราการ(ศรีราชา(มาบตาพุด(ภูเก็ต(สงขลา)ศูนย์ควบคุมจราจรและดวามปลอดภัยทางทะเล ศูนย์ฝึกการพาณิชยนาวี กลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร
สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ
ศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1 (อยุธยา) 2 (นครสวรรค์) 3 (ตรัง) 4 (สงขลา)5 (จันทบุรี) 6 (สุราษฎร์ธานี) 7 (เชียงใหม่) 8 (ขอนแก่น)สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำสำนักมาตรฐานเรือ สำนักส่งเสริมการขนส่งทางน้ำและการพาณิชยนาวี สำนักสำรวจและวิศวกรรม
หน้าที่หน่วยงานต่างๆสำนักงานเลขานุการกรมอำนาจหน้าที่
ดำเนินเกี่ยวกับงานบริหารทั่วไปและปฏิบัติงานบรรณของกรม
2.ดำเนินการเกี่ยวกับงานช่วยอำนวยการและงานเลขานุการของกรม
จัดระบบงานและบริหารงานบุคคลของกรม
4.ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่วสารผลการปฏิบัติงานและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
5.ดำเนินการอื่นใดที่มีได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการใดของกรม
6.ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมายงานของกรม