Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 กฎหมายวิชาชีพ - Coggle Diagram
บทที่ 4 กฎหมายวิชาชีพ
-
สมาชิกสามัญ
สิทธิหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
1.ประดับเข็มเครื่องหมายสมาชิกสามัญของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ
2.ออกเสียงเสนอความคิดเห็นในที่ประชุมใหญ่
3.รับเลือกตั้งหรือแต่งตั้งเป็นกรรมการในตำแหน่งที่ตราไว้ในข้อบังคับของสมาคมฯ
4.สมาชิกสมทบ และอนุสมาชิกมีสิทธิเข้าฟังการประชุมและร่วมอภิปรายเสนอความคิดเห็นได้
5.สมาชิกทุกประเภทมีสิทธิรับประโยชน์ที่สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ จะอำนวยให้ตามเงื่อนไขของสมาคม
6.สมาชิกทุกประเภทแสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกิจกรรม และผลประโยชน์ของสมาคมได้ โดยมีหนังสือไปยังเลขาธิการสมาคม
7.ต้องเคารพและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ
8.ต้องเคารพและปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
9.สนับสนุนและบำเพ็ญกรณียกิจ เพื่อให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ การบำเพ็ญ
10.สมาชิกผู้ใดหากมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ชื่อ หรือนามสกุลต้องแจ้งให้เลขาธิการทราบเป็น
ลายลักษณ์อักษร เพื่อแก้ทะเบียนภายในกำหนด 2 เดือนนับจากวันเปลี่ยนแปลงทั้งนี้เพื่อประโยชน์
สมาชิกมี 3 ประเภท
- สมาชิกสามัญ คือ ผู้ที่ได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความหรือความชำนาญเฉพาะทางการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ในสาขาต่างๆ ตามข้อบังคับสภาการพยาบาล ว่าด้วยหลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทางในวิชาชีพการพยาบาลเเละการผดุงครรภ์
2สมาชิกวิสามัญ คือ ผู้ที่เป็นสมาชิกสภาการพยาบาล และเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่พยาบาลมาอย่างดีทั้งนี้โดยความเห็นชอบของคณะผู้บริหารวิทยาลัย และการอนุมัติของคณะกรรมการสภาการพยาบาล3.สมาชิกกิตติมศักดิ์ คือ ผู้ที่คณะผู้บริหารวิทยาลัยเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ โดยการอนุมัติของคณะกรรมการสภาการพยาบาล
คุณสมบัติสมาชิกสามัญ
1.อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
2.ได้รับปริญญาจากสถาบันที่สภาการพยาบาลรับรอง
3.ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสียหาย
4.ไม่เคยต้องต้องค่าพิพากษา
5.ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนหรือเป็นโรคที่ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนหรือเป็นโรคที่
-
กรรมการสภาการพยาบาล
-
กรรมการจากการแต่งตั้ง
ผู้แทนหน่วยงาน 16 คน
1.กระทรวงสาธารณสุข 5 คน
2.ทบวงมหาวิทยาลัย 4 คน
3.กลาโหม 3 คน
4.กระทรวงมหาดไทย 1 คน
5.ผู้เเทนกรุงเทพมหานคร 1 คน
6.ผู้เเทนสภากาชาดไทย 1 คน
7.นายกสมาคมพยาบาล 1 คน
คุณสมบัติของกรรมการสภาการพยาบาล
1.เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือ การพยาบาลและการผดุงครรภ์
2.ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
3.ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
วาระของกรรมการ
- มีวาระ 4 ปี
- อาจได้รับเลือกตั ้ง หรือ แต่งตั ้งอีก แต่ไม่เกิน 2 วาระ คือไม่เกิน 8 ปี
กฎหมายอาญา
-
ความรับผิดทางอาญา
องค์ประกอบภายนอก คือ องค์ประกอบภายนอกของความผิดแต่ละฐาน เช่น ความผิดฐานฆ่าคนตาย (มาตรา 288) จะประกอบด้วย ผู้กระทำ การกระทำและวัตถุแห่งการกระทำ คือ ผู้ใดฆ่าผู้อื่น
องค์ประกอบภายใน
- เจตนา พอแบ่งได้ 2 ความหมาย
- เจตนาประสงค์ต่อผล หมายความว่า มุ่งหมายหรือประสงค์ต่อผลโดยตรง ในความผิดต่อชีวิต และความผิดต่อร่างกาย ในการวินิจฉัยต้องใช้หลักกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาเป็นแนวทางในการพิจารณา เช่น ถ้าผู้กระทำใช้ปืนยิงไปที่ผู้เสียหาย โดยยิงไปที่อวัยวะสำคัญ ๆ ต้องถือว่าประสงค์หรือมุ่งหมายให้ผู้เสียหายตาย แต่ถ้าใช้มีดเล็กๆ แทงทีเดียวในเวลาค่ำมืด ขณะที่มองเห็นไม่ถนัด อาจต้องถือว่าประสงค์หรือมุ่งหมายต่ออันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้เสียหายเท่านั้นก็ได้
- เจตนาเล็งเห็นผล หมายความว่า ผู้กระทำไม่ประสงค์ต่อผลแต่เล็งเห็นได้ว่าจะเกิดผลอย่างแน่นอน เท่าที่จิตใจของบุคคลในฐานะเช่นเดียวกับผู้กระทำโดยปกติเล็งเห็นได้ในการวินิจฉัยนั้น ให้พิจารณาถึงเรื่องประสงค์ต่อผลก่อน หากพิจารณาเห็นว่าผู้กระทำไม่ประสงค์ต่อผล จึงค่อยมาพิจารณาต่อไปว่าผู้กระทำเล็งเห็นผลหรือไม่ เจตนาประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลก็มีผลทางกฎหมายอย่างเดียวกันกล่าวคือ ถ้าเป็นเจตนาฆ่าประเภทประสงค์ต่อผล ผู้กระทำก็ผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามปอ. มาตรา 288 ถ้าเป็นเจตนาฆ่าประเภทเล็งเห็นผล ผู้กระทำก็ผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตาม ปอ. มาตรา 288 เช่นเดียวกัน
2.เจตนาพิเศษ คือ มูลเหตุจูงใจในการกระทำความผิด
- เจตนาธรรมดาความผิดฐานลักทรัพย์(ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334) คำว่า เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง เป็นเจตนาพิเศษของความผิดฐานปลอมเอกสาร(มาตรา 264) ในการพิจารณาถ้อยคำนั้น ๆ เป็นเจตนาพิเศษ
- ความผิดที่กฎหมายต้องการเจตนาพิเศษ เช่น ความผิดฐานปลอมเอกสาร(มาตรา 264) หากผู้กระทำมีแต่เจตนาธรรมดา เช่น ประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผลเท่านั้น ผู้กระทำก็ยังไม่มีความผิด โดยถือว่าขาดองค์ประกอบภายใน แต่ถ้าความผิดมาตรา นั้น ๆ กฎหมายไม่ต้องการเจตนาพิเศษ เช่น ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม มาตรา 288 เพียงแต่ผู้กระทำมีเจตนาธรรมดา กล่าวคือ ประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นผล ผู้กระทำก็มีความผิดแล้ว
3.การกระทำโดยประมาท ตามปอ. มาตรา 59 วรรค 4 มีหลักเกณฑ์ดังนี้
- มิใช่เป็นการกระทำความผิดโดยเจตนา
- กระทำไปโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์
- ผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
-