Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease : COPD),…
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease : COPD)
แบบแผนที่ 4 กิจกรรมและการออกกำลังกาย
มีภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจากมีการอุดกั้นทางเดินหายใจ
ข้อมูลสนับสนุน
S: หายใจหอบเหนื่อย
O: เคาะปอดได้ยินเสียง hyper-resonance ของปอดทั้งสองข้าง
O: ทรวงอกเป็นรูปถังเบียร์
O: เส้นเลือด Jugular vein โป่ง
O: ฟังปอดได้ยินเสียง Wheezing
O: RBC 7.44 10E6/uL, HGB 16.8 g/dl, HCT 56.9 %, CO2 32.2 mmol/L
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน ประเมินอัตราการหายใจ ชีพจร สีของเล็บ ปลายมือปลายเท้า เยื่อบุผิวหนัง ลักษณะซีด เขียว และประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อให้ทราบความรุนแรงของภาวะพร่องออกซิเจน
ฟังเสียงหายใจ และเสียงปอด
ดูแลให้ได้รับ O2 canular 3 LPM เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด
ดูแลให้ on 0.9 NSS 10000 ml เพื่อห้ออกซิเจนไปเลี้ยงได้เพียงพอ
ดูแลให้ ฺBeradual 1 NB state then q 15 นาที 2 dose เพื่อขยายหลอดลม
ดูแลให้ Theophyline 1 tab bid PC เพื่อขยายหลอดลม
ดูแลให้ผู้ป่วย Bed rest เพื่อลดการใช้ออกซิเจน
ลดภาวะต่าง ๆ ที่จะทำให้การเผาผลาญในร่างกายเพิ่มขึ้น
จัดท่านอนตะแคงศีรษะสูง เพื่อให้กระบังคมเคลื่อนต่ำลง ปอดขยายตัวได้เต็มที่ และเพิ่มพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนก๊าซมากขึ้น
ดูแลให้ได้รับ Bromhexine 1 tab tid PC เพื่อละลายเสมหะ
มีการติดเชื้อทางเดินหายใจ
ข้อมูลสนับสนุน
S: หายใจหอบเหนื่อย
O: T = 37.9 องสาเซลเซียส
O: อัตราการหายใจ 36 ครั้ง/นาที
O: Monocytes 10.8 %, Eosinophils 2.1 %, Basophil 0.5 %
กิจกรรมการพยาบาล
วัด V/S ทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอุณหภูมิ เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
ดูแลความสะอาดร่างกาย และสิ่งแวดล้อม
ให้การพยาบาลโดยยึดหลัก Aseptic technique
ติดตามผลการรตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ดูแลให้ได้รับ Caritromycin 500 mg 1 tab ตามแผนการรักษาของแพทย์
ดูแลให้ได้รับ Ceftazidime 2 gm IV stat ตามแผนการรักษาของแพทย์
ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อลดการใช้อกซิเจน ทำให้มีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อ และเพิ่มการฟื้นหาย
กลั้วคอ และบ้วนปากบ่อยๆ หลังได้รับยาสูด เพื่อลดการติดเชื้อราในช่องปาก และลำคอ
ดูแลให้ได้รับสารอาหารให้เพียงพอเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย
ดูแลเช็ดตัวลดไข้
มีภาวะความดันโลหิตสูง
ข้อมูลสนับสนุน
O: ฺBP 146/70 mmHg
O: มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลให้ได้รับ Amlodipin 5 mg. 1 เม็ด OD เช้า เพื่อควบคุมโรคความดันโลหิตสูง
ประเมินวัด V/S โดยเฉพาะ BP เพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของภาวะความดันโลหิตสูง
ติดตามอาการข้างเคียงหลังได้รับยา Amlodipin ได้แก่ ความดันโลหิตต่ำ หายใจถี่ หรือหายใจตื้น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย เหงื่อออก คลื่นไส มึนหัวรุนแรง เพื่อให้รายงานแพทย์ได้ทันท่วงที
ดูแลให้ได้รับ 0.9 NSS 1000 ml ตามแผนการรักษาของแพทย์
การหายใจไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีการแลกเปลี่ยนก๊าซในถุงลมปอดลดลงจากพยาธิสภาพของโรค COPD
ข้อมูลสนับสนุน
S: เหนื่อยขณะทำกิจกรรม
O: อัตราการหายใจ 36 ครั้ง/นาที
O: ฟังปอดได้ยินเสียง Wheezing
O: หายใจหอบเหนื่อย
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพโดยเฉพาะการหายใจว่ามีการหายใจเร็วและแรงขึ้น หายใจลำบากหรือใช้กล้ามเนื้อคอ และไหล่ช่วยในการหายใจ
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนตะแคงศีรษะสูงเพื่อให้กระบังลมเคลื่อนต่ำลงไม่ไปดันปอดทำให้ปอดขยายตัวได้ดีขึ้น การระบายอากาศและการแลกเปลี่ยนแก๊สเป็นไปได้ดีขึ้น
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน Canular 3 LMP ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อเพิ่มระดับออกซิเจนในเลือด
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายได้มากขึ้นโดยเริ่มเดินในเวลาสั้นๆ 10-15 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาจนถึง 30-40 นาที ต่อวันถ้าผู้ป่วยสามารถทำได้อาจเพิ่มแรงของการออกกำลังกายโดยการเดินให้เร็วขึ้นเพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นจากการต้องนอนอยู่แต่ในบ้านมาเป็นผู้ที่สามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้บ้าง
ประเมินระดับความรู้สึกตัว และสังเกตสีผิว เล็บ ซีด เขียว การสะสมของเสมหะอาจอุดกั้นทางเดินหายใจทำให้อวัยวะสำคัญขาดออกซิเจนไปเลี้ยง
แบบแผนที่ 5 การพักผ่อน และการนอนหลับ
แบบแผนการนอนหลับถูกรบกวนเนื่องจากมีอาการไอ และการหายใจลำบาก
ข้อมูลสนับสนุน
S: หายใจหอบเหนื่อย
S: ไอบ่อย
O: ตื่นเร็วในตอนเช้า หรือตื่นนอนด้วยความรู้สึกไม่สดชื่น
กิจกรรมการพยาบาล
จัดบรรยากาศให้มีการผ่อนคลาย โดยปิดไฟ จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบ การระบายอากาศดี และไม่รบกวนผู้ป่วยขณะนอนหลับ
สอนวิธีไออย่างมีประสิทธิภาพโดยหายใจเข้าออกลึกๆช้าๆ 2-3 ครั้ง จากนั้นสูดหายใจเข้าลึกๆยาวๆ อย่างเต็มที่แล้วกลั้นหายใจไว้สักครู่ (ประมาณ 2-3 วินาที) โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ไอออกมาติดต่อกัน 2-3 ครั้ง และดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
ฝึกให้ผู้ป่วยบริหารการหายใจให้ถูกต้องโดยหายใจเข้าลึกๆ ให้ท้องป่องแล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆจนหมดเพื่อลดการเกิด airway collapse และฝึกกล้ามเนื้อกระบังลมให้แข็งแรง
นางสาวอรญา ศรีมะณี 621001106