Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 6 ปี
แพทย์วินิจฉัยเป็น Acute Lymphoblastic…
ผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 6 ปี
แพทย์วินิจฉัยเป็น Acute Lymphoblastic Leukemia (ALL)
CC:ส่งต่อจากรพ. ต้นสังกัดมาด้วยเรื่อง Bicytopenia
PI:2 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล มารดาสังเกตเห็นผู้ป่วยมีอาการซีด เหนื่อยมากขึ้น (ขึ้นบันได้ 3 ขั้นต้อง
หยุดพัก)
1 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาลมีจุดเลือดออกตาม สะโพกซ้ายและต้นขาซ้าย
1 วันก่อนมาโรงพยาบาล มารดาสังเกตเห็นจุดเลือดออกเพิ่มมากขึ้นจึงพาไป โรงพยาบาลต้นสังกัด
A5: เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดดำและผิวหนังบริเวณที่ได้รับยาอักเสบ เนื่องจากผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด
O:
- เด็กได้รับยาเคมีบำบัดกลุ่ม vesicant Vincristine 1 mg (1.5 mg/m2, max 2 mg) + NSS up to 10 ml IV push (Day1,8)
- พบมีรอยซ้ำจากการเจาะเลือด
- สัญญาณชีพ BT 38.1 องศาเซลเซียส PR 68 ครั้ง/นาที RR 22 ครั้ง/นาที BP 94/53 mmHg
-
-
เกณฑ์การประเมินผล :
- ไม่มีอาการแสดงของภาวะ Extravasation เช่น ปวด แสบ ร้อน บริเวณที่ให้ยา หรือมีอาการบวม แดงโดยรอบบริเวณให้ยา เป็นต้น
- ไม่มีอาการและอาการแสดงของภาวะ Phlebitis ปวด บวม แดง ร้อน หรือเห็นลำเส้นเลือด เป็นต้น
กิจกรรมการพยาบาล
1.อธิบายให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจเกี่ยวกับการให้ยาเคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำและอันตรายที่เกิดขึ้นหากมีการรั่วซึมของยาเคมีบำบัด
- ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ Extravasation และ Phlebitis เช่น ปวด แสบ ร้อน บริเวณที่ให้ยา หรือมีอาการบวม แดงโดยรอบบริเวณให้ยา หรือเห็นลำเส้นเลือด เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง เกิดแผล เนื้อตายเฉพาะที่ เป็นต้น
- ป้องกันการเกิดภาวะ Extravasation และ Phlebitis 1. การเลือกบริเวณแทงเข็ม 2. ลำดับการบริหารยา 3. การตรวจสอบการไหลของยา
- ให้ความรู้ผู้ป่วยและดูแล ให้สังเกตความผิดปกติจากการบริหารยา เช่น ปวด แสบ ร้อน บวม แดง บริเวณที่ให้ยา หากเกิดอาการเหล่านี้ให้แจ้งพยาบาล
A1: เสี่ยงติดเชื้อเนื่องจากภูมิต้านทานของร่างกายลดลง จากไขกระดูกกดการทำงานทำให้การสร้างเม็ดเลือดขาวลดลง
O: - WBC 600 cell/cumm
- T 38.1 องศาเซลเซียส
- ได้รับการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัด
-
-
เกณฑ์การประเมิน:
-ไม่มีอาการและอาการแสดงของภาวะติดเชื้อ
-WBC ปกติ = 4,500 -10,000/uL
-Lym ปกติ = 20-50%
-T ปกติ = 37 - 37.6 %C
-ANC ปกติ = 1,500- 8,000 cell/mm3
กิจกรรมการพยาบาล:
- ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะติดเชื้อ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ท้องเสีย ปวดท้อง ปัสสาวะแสบขัดบ่อย อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง อาจสับสน ซึม ชักแขนขา อ่อนแรง โคม่า เมื่อเป็นการติดเชื้อของสมอง (สมองอักเสบ) หรือการติดเชื้อของเยื่อหุ้มสมอง (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
- วัด vital signs ทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอุณหภูมิของร่างกาย
- ให้คิดคำนวณค่า Absolute Neutrophil Count ถ้าค่า Absolute Neutrophil Count น้อยกว่า 500 cell/mm3 แยกเด็กออกจากเด็กโรคติดเชื้ออื่นๆ โดยให้อยู่ห้องแยกเดี่ยว พร้อมให้ผู้ป่วยสวม mask และติดป้ายหน้าห้องและปลายเตียง จำกัดผู้เข้าเยี่ยม ผู้ที่เป็นหวัดไอ ไม่ควรเข้าเยี่ยมเด็ก หากจำเป็นต้องสวมผ้าปิดปากจมูกก่อนเข้าเยี่ยม ให้การพยาบาลโดยยึดหลักสะอาดปราศจากเชื้อ ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาล สวมผ้าปิดปากจมูก เสื้อคลุมเปลี่ยนรองเท้า และอธิบายให้เด็กและญาติเข้าใจเกี่ยวกับการอยู่ห้องแยก และการปฏิบัติตนเมื่อเข้าเยี่ยม
- ตรวจตำแหน่งที่ให้ยาและสารน้ำ ถ้ามีลักษณะบวมแดง ร้อน บริเวณที่แทงเข็มให้ยาและสารน้ำควรหยุดการให้ยาหรือสารน้ำ แล้วให้ร้ายงานแพทย์ให้ทราบพร้อมทั้งเปลี่ยนตำแหน่งที่ให้ยาและสารน้ำใหม่
- งดอาหารไม่สุก อาหารหมักคอง ผักสด ผลไม้ทั้งเปลือก
- การให้วัคซีน บิดามารดาไม่ควรพาเด็กไปรับวัคซีนเองแต่ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้หรือพยาบาลที่ดูแลเด็กประจำ เด็กไม่ควรได้รับวัคซีนเชื้อมีชีวิต เช่น วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ หัด หัดเยอรมัน คางทูม
- ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับการตรวจเลือด ดูจำนวนเม็ดเลือดขาว ผลการเพาะเชื้อต่างๆ ถ้ามีไข้เกิน 39 องศาเซลเชียส 1 ครั้ง หรือเกิน 38 องศาเซลเชียส 2 ครั้ง ติดต่อกันใน 24 ชั่วโมง หรือ เม็ดเลือดขาวต่ำกว่า 1,000 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตร ควรรายงานแพทย์
- ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาของแพทย์ คือ Tazocin 2 gm dose (of piperacilin) iv q 8 hr. พร้อมทั้งเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา
A2: มีภาวะซีดเนื่องจากการสร้างเม็ดเลือดแดงลดลงจากเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวขัดขวางการสร้างเม็ดเลือดภายในไขกระดูก
O: -การตรวจร่างกายดี มีเยื่อบุ ตาซีด
-Capillary refill time 2 sec
ก่อนทำเคมีบำบัด
-Hb 10.6 g/dl -Hct 31%
หลังทำเคมีบำบัด
-Hb 10.1 g/dl -Hct 29.6%
-
-
เกณฑ์การประเมิน:
-ไม่มีอาการแสดงและอาการแสดงของภาวะซีด
-ค่า Hb ปกติ 10.2-13.4 g/dL
-ค่า Hct. ปกติ 31.7-39.8 %
กิจกรรมการพยาบาล:
-
-
-
4.หลีกเลี่ยงการฉีดยาหรือเจาะเลือดโดยไม่จำเป็น เมื่อมีความจำเป็นควรใช้เข็มที่มีขนาดเหมาะสมกับหลอดเลือด ภายหลังการฉีดยาหรือเจาะเลือดควรกดบริเวณนั้นไว้ให้นานพอที่เลือดจะหยุดไหล
-
A3: เสี่ยงต่อการมีเลือดออกง่ายเนื่องจากเกล็ดเลือดต่ำจากไขกระดูกถูกกดการทำงานจากเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวและจากผลของเคมี
O: -พบจุดเลือดออกบริเวณคอด้านหลัง สะโพก และต้นขาด้านซ้าย และมีรอยซ้ำจากการเจาะเลือด -Plt 19,000/UL
-Bone Marrow พบ lymphoblast 90%
-ผู้ป่วยได้รับเคมีบำบัด - Vincristine 1 mg
- L-asparaginase 7500 IU
- Methotrexate (MTX) 12 mg
-
-
เกณฑ์การประเมิน:
-ไม่มีอาการและอาการแสดงของภาวะเลือดออกทั้งภายในและภายนอกร่างกาย
- Plt ปกติ = 150,000 - 400,000/cc.mm
- Lymphoblast ปกติ = 20 -50 %
กิจกรรมการพยาบาล:
3.ดูแลผู้ป่วยพร้อมแนะนำญาติให้ดูแลผิวหนังให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ อย่าให้เกา ควรตัดเล็บให้ สั้น และรักษาความสะอาดเสมอ
- แนะนำญาติเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดของช่องปาก โดยให้งดการแปรงฟันให้ใช้บ้วนปาก หรือ ให้ใช้ไม้พันสำลีทำความสะอาดฟันและช่องปากแทน
-
- แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรงๆ
1.หลีกเลี่ยงการฉีดยาหรือเจาะเลือดโดยไม่จำเป็น เมื่อมีความจำเป็นควรใช้เข็มที่มีขนาดเหมาะสมกับหลอดเลือด ภายหลังการฉีดยาหรือเจาะเลือดควรกดบริเวณนั้นไว้ให้นานพอที่เลือดจะหยุดไหล
-
-
-