1. Natural penicillins มีผลต่อแบคทีเรียแกรมบวกเป็นส่วนใหญ่
เชื้อไวต่อยาได้แก่
streptococci (streptococcus group A, B, C, G) ใช้ penicillin เป็นยาตัวเลือกอันดับ 1
Pneumococci (streptococcus pneumoniae) ใช้ penicillin เป็นยาตัวเลือกอันดับ 1 แต่ปัจจุบันพบเชื้อดื้อต่อยา penicillin มากกว่า 70%
Meninggococci (Neisseria meningitides) ใช้ยา penicillin เป็นตัวเลือกอันดับ 1 แต่ยาไม่มีผลต่อ Neisseria gonorrhoeae
Clostridium เช่น โรค gas gangrene (clostridium perfringens) และบาดทะยัก (clostridium tetani)
Spirochetes เช่น syphilis, leptospirosis
เชื้ออื่นๆ เช่น Listeria, enterococci, diphtheria, antrax
เภสัชจลนศาสตร์
- การดูดซึมจากทางเดินอาหารไม่แน่นอน ขึ้นกับปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร และความสามารถของยาในการทนกรด -ยาจับกับโปรตีนในอาหารทาํให้การดูดซึมน้อยลง ซึ่ง
- การดูดซึมยาจะน้อยลงเมื่อรับประทานพร้อมอาหาร (ยกเว้น amoxicillin)
- ควรกินยาตอนท้องว่าง (1 ชั่วโมงก่อนอาหาร หรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร)
- ยาส่วนใหญ่ถูกขับในรูปเดิมที่ไม่เปลี่ยนแปลงทางปัสสาวะ โดยการกรอง (glomerular filtration)
และการขับออก ทางท่อไต (tubular secretion)
- ยกเว้น nafcilin และ ampicillin ถกูทาํลายที่ตับและขับออกทางนํ้าดี การให้ยา probenecid ร่วมกับ penicillins ทำให้ยับยั้งการขับ penicillins ออกทางท่อไต ทาํให้ยาอยู่ในกระแสเลือดนานข้ึน
ผลข้างเคียง
- ปฏิกิริยาแพ ้(hypersensitivity reactions) มีอาการผื่นลมพิษ คัน ไข้ ข้อบวม
และหลอดลมหดเกร็ง ช็อค ผู้ป่วยที่แพ้มีโอกาสแพ้ β-lactam ตัวอื่น
เช่น amoxicillin,cloxacillin,cephalosporins,
- ชัก (seizure) อาจเกิดได้ในผู้ป่วยที่มีไตบกพร่อง และทารกแรกเกิดที่การทาํงานของไตไม่สมบูรณ์
- อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย (diarrhea), คลื่นไส้ (nausea)
- เลือดจางเนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตก (hemolytic anemia)
- ไตอักเสบ (nephritis)
- พิษจาก cations ถ้าให้ยาในขนาดสงูมากอาจทาํให้ภาวะคั่งของ sodium หรือ potassium ได้