Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เด็กชาย AA อายุ 1 ปี 5 เดือน การวินิจฉัยโรค : Tetralogy of Fallot (TOF)…
เด็กชาย AA อายุ 1 ปี 5 เดือน
การวินิจฉัยโรค : Tetralogy of Fallot (TOF) with Hypoxic spell
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
WBC = 12,580 cell/cu.mm แปลผล สูงกว่าปกติ
Plt 493 10^3 cells/cu.mm แปลผล สูงกว่าปกติ
Hb 10.1 (14-18) แปลผล ต่ำกว่าปกติ
HCT 60% (40-54) แปลผล สูงกว่าปกติ
MCV 71% (80-96) แปลผล ต่ำกว่าปกติ
MCH 25% (26-34) แปลผล ต่ำกว่าปกติ
Lymp. 40% (25-33) แปลผล สูงกว่าปกติ
Eosin. 4% (1-3) แปลผล สูงกว่าปกติ
ผลการตรวจร่างกาย
ผิวหนัง
ผิวหนังซีด หรือ เขียวเป็นพักๆ
นิ้วมือนิ้วเท้าปุ้ม (clubbing of
fingers and toes)
สุขภาพทั่วไป
ตัวเล็กไม่เหมาะสมกับอายุ (Failureto thrive)
จมูก
ปีกจมูกบาน (nasal flaring)ปีกจมูกบานเล็กน้อยเป็นบางครั้งเวลาหายใจ
มีน้ำมูกขาวข้นเล็กน้อย
ช่องปาก
เยื่อบุช่องปากเป็นสีซีด
ริมฝีปากซีด หรือเขียวเป็นพักๆ
ต่อมน้ำเหลือง
คลำพบต่อมน้ำเหลืองโต ในตำแหน่ง Submental และSubmaxillary group เรียงตัวอยู่ในแนวพื้นล่างของช่องปาก
ทรวงอก
chest wall ซีกซ้ายโป่งนูน
(bulging) เล็กน้อย
ฟังปอดได้ยินเสียง Rhonchi
Heart sound: murmur
คลำ thrill ได้
หายใจแรงและเร็ว เหนื่อยหอบหน้าอกบุ๋ม (retraction) ชายโครงบุ๋มเป็นพักๆ
การเต้นบริเวณทรวงอกผิดปกติ
(abnormal pulsation)
หัวใจและหลอดเลือด
นิ้วมือนิ้วเท้าปุ้ม (clubbing
of fingers and toes)
peripheral cyanosis
Heart sound: murmur
มี Coarctation of aorta(CoA) คลำชีพจรที่ที่ brachial artery ได้แรงกว่าที่ femoral artery
คลำ thrill ได้
จังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ HR เบาเร็ว= 144 bpm
ระบบประสาท
ซึม ไม่มีเกร็งกระตุก ตอบสนอง
ต่อสิ่งกระตุ้น ร้องเวลาเจ็บ
Tetralogy of Fallot (TOF)
พยาธิสรีรวิทยา
หลอดเลือดพัลโมนารี่ตีบ (Plumonary stenosis)
หลอดเลือดแดงใหญ่เอียงไปทางขวา (Overriding aorta)
รูรั่วที่ผนังหัวใจห้องล่าง (Ventricular septal defect)
กล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างขวาหนา (Rigth ventricular hypertrophy)
อาการและอาการแสดง
ผิวสีคล้า นิ้วมือนิ้วเท้าปุ้ม (Clubbing fingers) กรณีขาดออกซิเจนเรื้อรัง
เหนื่อยง่าย
เขียวตามริมฝีปาก เล็บ (Central and peripheral cyanosis)
เติบโตช้า(Failure to thrive)
ภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน(Hypoxic spells)
ฝีในสมอง
การรักษา
Hypoxic spells
จัดให้เด็กอย่าท่าเข่าชิดอก (Knee chest position) เพื่อช่วยลดปริมาณเลือดดำจากร่างกายส่วนล่างไหลกลับสู้หัวใจ
การรักษาทางยา
ให้ยากลุ่ม Bata adrenergic blocker
การรักษาโดยการผ่าตัด
ผ่าตัดชั่วคราว
ต่อท่อเชื่อมระหว่าหลอดเลือดแดงใต้ไหปลาร้าซ้ายกับหลอดเลือดพัลโมนารี เพื่อบรรเทาอาการ
ผ่าตัดหายขาด
ปิดรูรั่ว PDA และขยายหลอดเลือดแดงพัลโมนารี่
ความหมาย
โรคหัวใจชนิดที่เลือดลัดวงจรจากขวาไปซ้าย (Rigth to left shunt)ที่มีความผิดปกติในโครงสร้างของระบบหลอดเลือดและหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด ทำให้เลืดดำในหัวใจซีกขวา ไหลไปปนกับเลือดแดงจากหัวใจซีกซ้าย ทำให้เลือดไปปอดน้อย และเลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายมีความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดลดลงกว่าระดับปกติิ เด็กจึงมีอาการเขียว
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
A2 เนื้อเยื่อของร่างกายมีโอกาสได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณเลือดออกจากหัวใจลดลง
A4 ส่งเสริมการได้รับสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากเหนื่อยง่าย
A3 เสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากมีน้ำมูกขาวข้น
A6 ครอบครัวมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร
A1 มีภาวะสมองขาดออกซิเจนเฉียบพลัน เนื่องจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเฉียบพลัน
A5 ความทนต่อการปฏิบัติกิจกรรมตามปกติลดลง เนื่องจากหอบเหนื่อยมาก
ข้อมูลความเจ็บป่วยปัจจุบัน
การวินิจฉัยโรค : Tetralogy of Fallot (TOF) with Hypoxic spell
CC: หายใจแรงและเร็วกว่าปกติ (Tachypnea) กระสับกระส่าย (Restless)
PI: 5 วันก่อนมารพ. หายใจแรงเร็วกว่าปกติ กระสับกระส่าย ริมฝีปากและเล็บเขียวเป็นพัก ๆ
PH: มารดาให้ประวัติว่า 3 เดือนก่อนมารพ. ขณะบุตรดูดนมจากขวด หรือทานอาหารจะเหนื่อยมากจนต้องหยุดพักเหนื่อยบ่อยๆ ทานน้อย (poor feeding) อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักตัวขึ้นช้า (poor growth)ขณะร้องไห้ หรือออกแรง วิ่งเล่น หลังถ่ายอุจจาระ บุตรมักมีอาการหายใจแรงเร็ว กระสับกระส่าย ริมฝีปากและเล็บเขียว มีเหงื่อออกมากผิดปกติ แต่ยังไม่เคยหมดสติ ขณะมีอาการบุตรมักนอนยกเข่าชันอก หรือนั่งยองๆ และอาการดีขึ้นหายได้เอง ภายใน 5-30 นาที จึงพาบุตรไปพบแพทย์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว (TOF) และพาไปพบแพทย์ตามนัดมาโดยตลอด แต่ก็ยังติดเชื้อทางเดินหายใจบ่อย
ประวัติแพ้ยา: แพ้อาหาร ปฏิเสธประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร
ประวัติโรคประจำตัว: TOF
ประวัติการได้รับภูมิคุ้มกัน: ได้รับภูมิคุ้มกันตามกำหนด ที่ รพ.สต.ใกล้บ้าน
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อผู้ป่วย เด็กชาย AA อายุ 1 ปี 5 เดือน
ชื่อบิดา อายุ 43 ปี อาชีพ รับจ้าง
ชื่อมารดา อายุ 41 ปี อาชีพ รับจ้าง
ผลการตรวจพิเศษ
การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (CXR) พบ Upturned apex (Boot shape heart)
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) พบ Right ventricular hypertrophy, Right axis deviation
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiography) พบ large ventricular septal
defect with overriding of aorta with severe pulmonary valve stenosis
การสวนหัวใจ (cardiac catheterization) นัดทำอีก 1 เดือน
A1 มีภาวะสมองขาดออกซิเจนเฉียบพลัน เนื่องจากสมองขาดเลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเฉียบพลัน
O:
หายใจ 52 ครั้ง/นาที
ริมฝีปากและเล็บเขียวเป็นพัก ๆ
หายใจแรงเร็วกว่าปกติ พบเสียงmurmur
กล้ามเนื้ออ่อนแรง ตัวอ่อนปวกเปียก (hypotonia) ความ
รู้สึกตัวลดลง
HCT 60%
วัตถุประสงค์
ไม่มีภาวะสมองขาดออกซิเจน
เกณฑ์การประเมินผล
อัตราการหาใจปกติ อาการเขียวลดลง
รู้สึกตัวดี Muscle tone ดีขึ้น
หัวใจเต้นแรงปกติ ไม่พบเสียงmurmur หรือเบาลงกว่าเดิม
กิจกรรมการพยาบาล
จัดท่าให้นอนท่าเข่าชิดอก ซึ่งจัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงาย หรือนอนตะแคง แล้วจับรวบเข่าให้ชิดอกก็ได้ หรืออาจจัดท่าให้ผู้ป่วยรีบนั่งในท่ายองๆ ท่าดังกล่าวจะช่วยลดเลือดดำที่ไหลกลับเข้าสู่หัวใจ ส่งผลให้การไหลลัดของเลือดดำจาก ventricle ขวาไปผสมกับเลือดเเดงใน ventricle ซ้ายลดลง เป็นผลให้มีเลือดไปปอดมากขึ้น และทำให้เพิ่มแรงต้านทานของเลือดแดงส่วนปลาย
ให้ oxygen ความเข้มข้นสูง (100%) โดยเลือกชนิดของออกซิเจนให้เหมาะสมกับเด็ก ให้ oxygen ชนิด mask 3 ลิตร/นาที เพื่อลดอาการ หอบเหนื่อยและเขียว
หากอาการไม่ดีขึ้น ควรให้ยาเพื่อช่วยให้เด็กสงบ ตามแผนการรักษา แล้วรายงานแพทย์ จะให้ยากลุ่ม Beta blocker ได้แก่ propanolol เพื่อช่วยลดการเต้นของหัวใจ และลดการออกฤทธิ์ของ cathecholamine ที่มีผลต่อการบีบตัวของกล้ามเนื้อ infundibulum
ติดตามค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด จากเครื่อง Pulse oximeter เป็นระยะๆ เพื่อประเมินภาวะเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
S:
มารดาบอกว่า "ขณะร้องไห้ หรือออกแรง วิ่งเล่น หลังถ่ายอุจจาระบุตรมักมีอาการหายใจแรงเร็ว กระสับกระส่าย ริมฝีปากและเล็บเขียว มีเหงื่อออกมากผิดปกติ แต่ยังไม่เคยหมดสติ ขณะมีอาการบุตรมักนอนยกเข่าชันอก หรือนั่งยองๆ และอาการดีขึ้นหายได้เอง ภายใน 5-30 นาที"
A3 เสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากมีน้ำมูกขาวข้น
S : -
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อในร่างกาย
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย เป็นต้น
การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เช่น ไข้ ถ่ายเหลวเป็นน้ำ เป็นมูกเลือด ปวดท้อง อาเจียน เป็นต้น
การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ไข้ ปัสสาวะเป็นสีขุ่น ปัสสาวะน้ำออกน้อย แสบขัด เป็นต้น
การติดเชื้อในระบบประสาท เช่น ไข้ ซึม อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เป็นต้น
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อในร่างกาย เพื่อค้นหาสาเหตุของการติดเชื้อและการพยาบาลที่เหมาะสมเพื่อป้องกันได้ถูกต้อง
2.ประเมินอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง สังเกตภาวะติดเชื้อโดยการสังเกตภาวะไข้ซึ่งโดยปกติอุณหภูมิกายไม่เกิน 37. 4 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันอาการมีไข้สูงหรือไข้ต่ำที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อผู้ป่วย โดยที่สัญญาณชีพมีการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิในร่างกายจะเพิ่มมากขึ้น อัตราการหายใจและชีพจรก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เป็นการประเมินภาวะติดเชื้อได้
3.ให้การพยาบาลตามหลัก Aseptic technique อย่างเคร่งครัดและร่วมมือกับผู้ป่วยหรือผู้ดูแล
5.ติดตามผลการตรวจห้องปฏิบัติการ โดยเฉพาะค่าที่เกี่ยวกับWBC
4.ดูแลความสะอาดร่างกายของร่างกาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
วัตถุประสงค์ : ไม่มีการติดเชื้อในร่างกาย
O :
ผลการตรวจห้องปฏิบัติการ
WBC = 12,580 cell/cu.mm (ค่าปกติ 5000-10,000 cell/cu.mm) แปลผล สูงกว่าปกติ
Lymp. 40% (25-33) แปลผล สูงกว่าปกติ
Eosin. 4% (1-3) แปลผล สูงกว่าปกติ
ผลการตรวจร่างกาย
ต่อมน้ำเหลือง
คลำพบต่อมน้ำเหลืองโต ในตำแหน่ง Submental และ Submaxillary group เรียงตัวอยู่ในแนวพื้นล่างของช่องปาก
จมูก
มีน้ำมูกขาวข้นเล็กน้อย
A4 ส่งเสริมการได้รับสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากเหนื่อยง่าย
S:
O:
จากการสังเกต
เด็กตัวเล็กไม่เหมาะสมกับอายุ (Failure to thrive)
จากการตรวจร่างกาย
น้ำหนัก 8.5 กก ต่ำกว่าเกณฑ์ น้ำหนักตัวขึ้นช้า
วัตถุประสงค์ : ได้รับสารอาหารเพียงพอให้เด็กมีน้ำหนักตามเกณฑ์
เกณฑ์การประเมิน : เด็กมีน้ำหนักตามเกณฑ์ 9 - 12 กิโลกรัม
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินภาวะโภชนาการโดย ชั่งน้ำหนัก วันละ1ครั้งด้วยเครื่องชั่งเดียวกันเวลาเดียวกัน
ดูแลให้ได้รับอาหารตามแผนการรักษา อาหารครบ 5 หมู่
ให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรค
อาหารที่มีธาตุเหล็กได้แก่ ตับ ไข่แดง เลือดหมู เลือดไก่ เนื้อสัตว์ พืชใบเขียวเพื่อป้องกันภาวะซีด จะทำให้การขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ
อาหารโปรตีนสูง เช่น ไข่ นม เนื้อสัตว์ ปลา เพื่อมีผลที่ดีต่อการทำงานหัวใจ
4.ข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร
อาหารที่มีโซเดียมเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมีผลทำให้ความดันในหลอดเลือดสูง
A2 เนื้อเยื่อของร่างกายมีโอกาสได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณเลือดออกจากหัวใจลดลง
S:
มารดาบอกว่า "ขณะร้องไห้ หรือออกแรง วิ่งเล่น หลังถ่ายอุจจาระบุตรมักมีอาการหายใจแรงเร็ว กระสับกระส่าย ริมฝีปากและเล็บเขียว มีเหงื่อออกมากผิดปกติ แต่ยังไม่เคยหมดสติ ขณะมีอาการบุตรมักนอนยกเข่าชันอก หรือนั่งยองๆ และอาการดีขึ้นหายได้เอง ภายใน 5-30 นาที"
วัตถุประสงค์
เนื้อเยื่อของร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
O:
จากการตรวจร่างกาย ผิวหนังซีด หรือ เขียวเป็นพักๆ ปีกจมูกบาน (nasal flaring)ปีกจมูกบานเล็กน้อยเป็นบางครั้งเวลาหายใจ
O2 sat 88%
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่หอบเหนื่อย
O2 sat ปกติ >95%
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน ระดับความรู้สติ จังหวะการเต้นของหัวใจ และบันทึกสัญญาณชีพทุก 1-4 ชั่วโมง ถ้าพบความผิดปกติควรรีบรายงานแพทย์
จัดท่านอนในศีรษะสูง เพื่อลดปริมาณเลือดดำที่ไหลกลับเข้าสู่หัวใจมากเกินไป และช่วยทำให้ปอดขยายตัวได้ดีขึ้น เป็นการเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนตามแผนการรักษาในรายที่หอบเหนื่อย เพื่อเพิ่มออกซิเจนในเลือด และลดการทำงานของหัวใจ
ดูแลให้ได้รับยาขับปัสสาวะ Lasix ตามแผนการรักษา เพื่อลดการคั่งของน้ำ
แนะนำให้เด็กหลีกเลี่ยงอาการท้องผูกดูแลไม่ให้ท้องผูก เพื่อป้องกันไม่ให้ออกแรง ในการเบ่งถ่ายอุจจาระโดยให้รับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักคะน้า ผลไม้ที่มีกากใย เช่น กล้วย ส้ม มะละกอ และเครื่องดื่มที่ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น เช่น นํ้าส้ม รวมทั้งดูแลให้ผู้ป่วยดื่มนํ้าให้เพียงพอ
A6 ครอบครัวมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของบุตร
S:
มารดาบอกว่า "สงสารลูกที่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยๆ"
O:
บิดา มารดา มีสีหน้าวิตกกังวล
วัตถุประสงค์
ครอบครัวมีความวิตกกังวล
เกณฑ์การประเมินผล
ครอบครัวคลายวิตกกังวล โดยแสดงออกทางสีหน้าและพฤติกรรม
ครอบครัวให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการวางแผนการพยาบาล
กิจกรรมการพยาบาล
ตระหนักและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ การแสดงออกของพฤติกรรมเด็ก และบิดามารดา รวมทั้งประเมินการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ควรหาสาเหตุและแก้ไข ประเมินว่าเด็กและบิดา มารดา ใช้วิธีการในการแก้ปัญหาถูกต้องหรือไม่
เปิดโอกาสให้มีการแสดงความรู้สึกต่างๆ มีการประชุมปรึกษาหารือระหว่างทีมสุขภาพเด็กและครอบครัวและกระตุ้นให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแลเด็ก
สัมผัส และพูดจาอ่อนโยน ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร เพื่อให้รู้สึกอบอุ่น และคลายความวิตกกังวล
สนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วม ในการดูแล ส่งเสริม ให้กำลังใจและวางแผนในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับเด็ก และทีมสุขภาพ
A5 ความทนต่อการปฏิบัติกิจกรรมตามปกติลดลง เนื่องจากหอบเหนื่อยมาก
S:
มารดาบอกว่า "ขณะบุตรดูดนมจากขวด หรือทานอาหารจะเหนื่อยมากจนต้องหยุดพักเหนื่อยบ่อยๆ อ่อนเพลีย "
O:
จากการตรวจร่างกาย ผิวหนังซีด หรือ เขียวเป็นพักๆ ปีกจมูกบาน (nasal flaring)ปีกจมูกบานเล็กน้อยเป็นบางครั้งเวลาหายใจ
หายใจ 52 ครั้ง/นาที
หายใจแรงและเร็ว เหนื่อยหอบหน้อกบุ๋ม (retraction) ชายโครงบุ๋มเป็นพักๆ
วัตถุประสงค์
สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ตามปกติ
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่มีอาการหอบเหนืื่อย
สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
กิจกรรมการพยาบาล
จัดให้เด็กได้พักผ่อนมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายกลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว
จำกัดกิจกรรม และการเล่นบางอย่างที่ทำให้เหนื่อยง่าย ตื่นเต้น
ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ แล้วค่อยทำเพิ่มมากขึ้น โดยตระหนักถึงข้อจำกัดของพยาธิสภาพที่มีอยู่
ประเมินความทนต่อการปฏิบัติกิจกรรมของเด็กภายหลังการเริ่มฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยประเมินสัญญาณชีพเป็นระยะๆ หลังมีกิจกรรม
ไม่ควรอาบน้ำเย็นทันทีหลังการออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดเปลี่ยนแปลงมาก ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
A6 ส่งเสริมการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน
S:
มารดาอยากทราบคำแนะนำหลังการกลับบ้าน
O:
แพทยย์มีแผนให้กลับบ้าน และนัดทำการสวนหัวใจในอีก 1 เดือน
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ครอบครัวสามารถดูแลเด็กเมื่อกลับบ้านได้
เกณฑ์การประเมิน
เข้าใจ และมีความรู้เรื่องพยาธิสภาพของโรค และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อกลับบ้าน
กิจกรรมการพยาบาล
D = Diagnosis
โรคหัวใจชนิดที่เลือดลัดวงจรจากขวาไปซ้าย (Rigth to left shunt)ที่มีความผิดปกติในโครงสร้างของระบบหลอดเลือดและหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด ทำให้เลืดดำในหัวใจซีกขวา ไหลไปปนกับเลือดแดงจากหัวใจซีกซ้าย ทำให้เลือดไปปอดน้อย และเลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายมีความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดลดลงกว่าระดับปกติิ เด็กจึงมีอาการเขียว
M = Medication
Propranoral 100 mg vein OD
ข้อบ่งใช้ : รักษาความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ผลข้างเคียง : หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ หายใจตื้น มือเท้าเย็น
Lasix 5 mg vein OD
ข้อบ่งใช้ : ขับปัสสาวะ ลดอาการบวมน้ำ ลดความดันโลหิต
ผลข้างเคียง : ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย
Dimetapp 4 ml ⊙tid pc
ข้อบ่งใช้ : บรรเทาอาการคักจมูก ลดน้ำมูก
ผลข้างเคียง : ปากแห้ง คอแห้ง ความรู้สึกตัวลดลง
Lanoxin 0.5 ml ⊙bid
ข้อบ่งใช้ เพิ่มการบีบตัวของหัวใจ
ผลข้างเคียง : เบื่ออาหารคลื่นไส้อาเจียน หีวใจเต้นช้า
E = Environment
จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ไม่รกรุงรัง เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากสิ่งสกปรก
แนะนำไม่ให้ไปในสถานที่แออัด มีฝุ่น ควัน มลพิษต่างๆ
T = Treatment
หากต้องไปในสถานที่แออัด ควรจะสวมแมส เพื่อป้องกันมลพิษต่างๆเข้าสู่ร่างกาย
ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ดัวยการรับประทานอาหารที่ประโยชน์ครบ 5 หมู่ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
H = Health
การป้องกันการติดเชื้อ เด็กควรตัดเล็บให้สั้นและไม่เกาแผลผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อเด็กควรตัดเล็บให้สั้นและไม่เกาแผลผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และเด็กควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน ตรวจสุขภาพช่องฟันสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากช่องปากสู่ลิ้นหัวใจ
จำกัดกิจกรรม และการเล่นบางอย่างที่ทำให้เหนื่อยง่าย ตื่นเต้น และให้เด็กปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ แล้วค่อยทำเพิ่มมากขึ้น โดยตระหนักถึงข้อจำกัดของพยาธิสภาพที่มีอยู่
แนะนำให้ไม่ควรอาบน้ำเย็นทันทีหลังการออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดเปลี่ยนแปลงมาก ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
O = Outpatient
แนะนำให้ผู้ปกครองสังเกตอาการของภาวะสมองขาดออกซิเจน เช่น มีอาการเขียว กระสับกระส่าย หายใจแรงและเร็ว ให้รีบมาพบแพทย์
แนะนำให้มาพบแพทย์ตามนัด เพื่อทำการสวนหัวใจ
D = Diet
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เพื่อให้เด็กหลีกเลี่ยงอาการท้องผูกดูแลไม่ให้ท้องผูก เพื่อป้องกันไม่ให้ออกแรง ในการเบ่งถ่ายอุจจาระโดยให้รับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักคะน้า ผลไม้ที่มีกากใย และเปลือกบาง เช่น กล้วย ส้ม มะละกอ และเครื่องดื่มที่ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น เช่น นํ้าส้ม รวมทั้งดูแลให้ผู้ป่วยดื่มนํ้าให้เพียงพอ
จำกัดอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมีผลทำให้ความดันในหลอดเลือดสูง