Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์, นางสาวยุพาภรณ์ วังสะอาด เลขที่ 61 ID…
การประเมินสุขภาพทารกในครรภ์
Biochemical Assessment
Amniocentesis
การตรวจวินิจฉัยก่อนคลอดโดยเจาะน้ำคร่ำ เพื่อตรวจโครโมโซมทารกในครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น ตั้งครรภ์อายุตั้งแต่ 35 ปี โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย
ทำโดยวิธีการปราศจากเชื้อ เจาะโดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านหน้า
ท้อง และผนังมดลูกเข้าสู่ถุงน้ำคร่ำ มาส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
อายุครรภ์ 16-18 wks.
ภาวะแทรกซ้อน
ปวดเกร็งเล็กน้อยบริเวณท้องน้อย
การติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ
กลุ่มเลือด Rh negative
ควรสังเกต และมาพบแพทย์
หากมีอาการเหล่านี้
ปวดเกร็งหน้าท้องมาก
ไข้ภายใน 2 สัปดาห์
มีน้ำหรือเลือดออกทางช่องคลอด
บทบาทของพยาบาล
ปัสสาวะเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
ดูแลจัดท่า วัดความดันโลหิต และฟังเสียงหัวใจของทารก
จัดเตรียมอุปกรณ์ให้สะอาดปราศจากเชื้อ
ภายหลังเจาะให้นอนหงาย กดแผลหลังจากเอาเข็มออก ประมาณ 1 นาที และปิดแผลด้วยพลาสเตอร์
ฟังเสียงหัวใจทารกทุก 15 นาที จนครบ 1 ชั่วโมง
วัด Vital signs 2 ครั้ง ห่างกัน 15 นาที
Amniotic fluid analysis
ดูความสมบูรณ์
ของปอด
การประเมินน้ำคร่ำ (Amniotic fluid evaluation)
วัดดัชนีปริมาณน้ำคร่ำ (Amniotic fluid index, AFI) ค่านี้ได้จากการผลรวมของค่าที่ได้จากการวัด แอ่งน้ำคร่ำที่ลึกที่สุดจากการแบ่งหน้าท้องมาร
ดา เป็น 4 ส่วนเท่า ๆ กันโดยอาศัยแนวของสะดือและ linear nigra ถ้าน้อยกว่า 5 ซม ถือว่ามีภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
วัดแอ่งลึกที่สุดของน้ำคร่ำ (Single deepest pocket, SDP หรือ maximum vertical pocket, MVP) ตรวจหาตำแหน่งของแอ่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ไม่มีสายสะดือหรือตัวเด็กอยู่ให้วัดในแนวดิ่ง โดยต้องมีที่ว่างในแนวนอนอย่างน้อย 1 ซม ถ้ามีขนาด 2 ซม หรือน้อยกว่าถือว่ามีภาวะน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios)
Nile blue test
เมื่อทารกอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ขึ้นไปจะตรวจพบเซลล์จากต่อมไขมันของ
ทารกได้ในน้ำคร่ำเมื่อนำไปย้อมด้วย nile blue sulphate เซลล์เหล่านี้จะติดสีแสด
Fetoscopy Fetoscopy
ข้อบ่งชี้
ประเมินความผิดปกติของทารก เช่น spinabifida เก็บตัวอย่างของเลือดเพื่อดูความผิดปกติของเลือด เช่น hemophiliasickle cel anemia เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อผิวหนังเพื่อดูความผิดปกติของผิวหนังอัตราการตายของทารกในครรภ์สูง
ขั้นตอนการทำ
งดการทำงานหนัก 1-2 สัปดาห์เนื่องจากอาจมีอาการปวดท้อง วิงเวียน
ต้องตรวจสอบปริมาณน้ำคร่ำหลังทำ
ตรวจสอบ FHS ก่อนและหลังทำใช้ ultrasound เป็นตัวช่วยในการทำ
งดน้ำงดอาหารก่อนทำ 6-8 ชั่วโมง
การส่องกล้องดูทารกในครรภ์โดยใช้เครื่องมือ endoscopy ที่เรียกว่า laparo amnioscope
การตรวจยืนยันถุงน้ำคร่ำแตก
เป็นการตรวจยืนยันในกรณีที่หญิงตั้งครรภ์ให้ประวัติว่ามีน้ำเดิน
ออกมาทางช่องคลอด (premature rupture or membrane)
Alpha fetoprotein (AFP)
ค่าปกติ AFP 2.0 – 2.5 MOM (Multiple of median)
ค่า AFP สูงขึ้นหลังจากสัปดาห์ที่ 15 ของการตั้งครรภ์ แสดงว่าทารกมีความผิดปกติของ open neural tube เช่น anencephaly meningomyelocle , Spinabifida
ค่าโปรตีนที่สร้างมาจากรก
Shake Test
แปลผล
ถ้าพบฟองอากาศเพียงหลอดเดียวหรือไม่พบเลย
แสดงว่าการทดสอบได้ผลสอบปอดทารกยังเจริญไม่เต็มที่
ถ้าพบฟองอากาศ 2 หลอด ปอดทารกยังไม่เจริญเต็มที่
ถ้าพบว่ามีฟองอากาศเกิดขึ้น 3 หลอดแรกแสดงว่า
ได้ผลบวก ปอดทารกเจริญเต็มที่
ใช้หลอด 5 หลอด ใส่น้ำคร่ำจำนวน 1 cc ,
0.75 cc , 0.5 cc , 0.25 cc และ 0.2 cc
ตามลำดับแล้วเติม normal saline Solution
ในหลอดที่ 2 , 3 , 4 และ 5 ทำให้ส่วนผสมเป็น
1 cc ทุกหลอดแล้วเติม Ethanol 95 %
ทุกหลอดเขย่านาน 15 วินาที ทิ้งไว้นาน 15 นาที
ทดสอบความสมบูรณ์ของปอดทารกในครรภ์
โดยใช้หลักการของความสามารถในการ
คงสภาพของฟองอากาศของสารลดแรงตึง
ผิวของปอด (Surfactant)
การตรวจหาค่า L/S ratio
(Lecithin Sphingomyelin Ratio)
L / S ratio > 2 แสดงว่าปอดทารกสมบูรณ์เต็มที่ไม่ค่อยเกิดภาวะ RDS
อายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์ ค่า L จะเพิ่มมากขึ้นทำให้ ratio สูงขึ้น
อายุครรภ์ 26-34 สัปดาห์ ค่าL / S ratio = 1:1
ตรวจหาอัตราส่วนระหว่าง สาร Lecithin ต่อสาร
Sphingomyelin ในน้ำคร่ำของทารก
26 สัปดาห์ แรกของการตั้งครรภ์ ค่า S > L
จากการดูสีของน้ำคร่ำ
มีเลือดปนใสหรือขุ่น
มีสีของขี้เทาปนหรือไม่
Urine estriol
การตรวจปริมาณของฮอร์โมนเอสโตร
เจนในปัสสวะ หากมีปริมาณที่สูงแสดง
ว่ามีการตั้งครรภ์
Maternal Blood study
การเจาะเลือดแม่จากรกไปตรวจหาความผิดปกติ เช่น ภาวะ Dow Syndrome เป็นต้น
นางสาวยุพาภรณ์ วังสะอาด เลขที่ 61 ID 62115301065