Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 7 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพระบบประสาท กล้ามเนื้อ…
บทที่ 7 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก
การพยาบาลเด็กที่มีภาวะความดันในช่องกระโหลกศีรษะสูง
ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง (Hydrocephalous)
เป็นภาวะที่มีน้ำไขสันหลังคั่งในกะโหลกศีรษะบริเวณ Ventricle(โพรงสมอง) และชั้น subarachnoid
ในภาวะปกติจะมีน้ำไขสันหลังอยู่ประมาณ 50-150 cc/min และมีอัตราการสร้าง 0.35 cc/min or 500 cc/day
สาเหตุ
มีการสร้าง CSF มากกว่าปกติ ที่พบบ่อยคือเนื้องอกของ Choroid Plexus เพียงอย่างเดียว แต่มีการถ่ายเทหรือการไหลเวียน และดูดซึมปกติ
มีการอุดตันของทางเดินน้ำไขสันหลังระหว่างจุดที่ผลิตและจุดที่ดูดซึม เกิดจากผิดปกติแต่กำเนิด เนื้องอก การติดเชื้อ เช่น เยื่อหุ้ม สมองอักเสบ ทำให้การยึดติดกันนำไปสู่การอุดตัน
ความผิดปกติของการดูดซึมของน้ำไขสันหลังจากการอักเสบจาก Congenital Hypoplasia ของ Arachnoid Villi แต่กำเนิดหลังมีการติดเชื้อบริเวณ Arachnoid
อาการและอาการแสดง
ทารกและเด็กเล็ก ที่มีภาวะน้ำคั่งในกะโหลกศีรษะอาจจะเริ่มมีอาการภายใน 2-3เดือน เมื่อวัดรอบอกและรอบศีรษะ
มีอาการเมื่อมองลงล่างจะเห็นตาขาวมาก ซึ่งปกติจะมองไม่เห็น กล้ามเนื้อแขนขากว้าง ซึม อาเจียน
3.เบื่ออาหาร เลี้ยงไม่โต สั่น ร้องเสียงแหลม เมื่อมีอาการมากขึ้น ดูดนมลำบาก ตัวผอม หัวโต มีความต้านทานโรคน้อย
แนวทางการรักษา
ถ้าศีรษะโตไม่มากนัก เกิดจากการมีเยื่อหุ้มสมอง อักเสบจากแบคทีเรีย เจาะหลังใส่ยา ก็อาจให้ความดันของน้ำไขสันหลังปกติ
ถ้าศีรษะโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องผ่าตัดเอาส่วนที่อุดตันออก เช่น เนื้องอก
ทำ Shunt ให้น้ำไขสันหลังจาก Ventricle ไปดูดซึมที่ peritoneal เรียก V-P shunt
การพยาบาลก่อนผ่าตัด
มีโอกาสเกิดภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง และเปลี่ยนแปลงทางประสาท เนื่องจากมีการสะสมของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะ
อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหาร เนื่องจากดูดกลืนลำบาก อาเจียน -จับให้เด็กเรอหลังดื่มนม
ความแข็งแรงของผิวหนังผิดไปจากคนปกติ เนื่องจากศีรษะโตดูแลผิวหนังป้องกันระคายเคือง ป้องกันการติดเชื้อ – จัดให้นอนบนที่นอนอ่อนนุ่ม พลิกตะแคงทุก 2 ชั่วโมง ดูแลความสะอาดของผิวหนังบริเวณศีรษะ
ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดาและเด็ก อาจไม่เป็นไปตามปกติ
การพยาบาลหลังผ่าตัด
1.มีโอกาสเกิดความดันในกระโหลกศีรษะสูง ในระยะ 1-3วันแรกหลังผ่าตัด เนื่องจากอาจมีการขัดขวางของน้ำไขสันหลัง
มีโอกาสเกิด subdural hematoma ในระยะ 1-3วันแรกหลังผ่าตัด V-P shunt
มีโอกาสเกิดการติดเชื้อบริเวณ Shunt ทั้งในระยะแรกหลังผ่าตัดและเมื่อกลับไปดูแลที่บ้าน
มีโอกาสเกิดภาวะ Shunt ท าหน้าที่ผิดปกติจากการใส่เป็นเวลานาน เช่น การอุดตันของ catheter หรือ การหลุดของ catheter
บิดามารดามีความวิตกกังวล เนื่องจากขาดความเข้าใจในการดูแลบุตร
การพยบาลเด็กทีมีการติดเชื้อในระบบสมอง (Intracranial infection)
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
1.Bacterial meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียพบได้ไม่บ่อยเท่าเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อไวรัสแต่ภาวะโรครุนแรงมากกว่า
Viral meningitis หรือ Aseptic meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส
Eosinophilic meningitis เกิดจากพยาธิ เช่น ตัวจี๊ด จากการรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ หรือการว่ายน้ำในหนอง บึงหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาดมีการปนเปื้อนเชื้ออะมีบา
การติดเชื้อรา (fungal meningitis) เช่น Candida albicants, Cryptococcus neoformans
ปฏิกิริยาที่ไม่ใช่การติดเชื้อ (non-infection diseases) เช่น เนื้องอกและการบาดเจ็บ/กระทบกระเทือนของสมอง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
อาการและอาการแสดง
1.อาการที่แสดงว่ามีการติดเชื้อ คือ มีไข้สูง หนาวสั่น เบื่ออาหาร ในเด็กเล็ก ๆ จะกระสับกระส่ายหรือหงุดหงิดไม่ยอมดูดนม หรือมีอาเจียนได้ง่าย
2.อาการที่แสดงว่ามีการระคายระเคืองของเยื่อหุ้มสมอง ร่วมกับความผิดปกติในการทำงานของสมอง ผู้ป่วยจะปวดศีรษะมาก และ ปวดที่บริเวณคอด้วย
3.อาการที่แสดงถึงภาวะแทรกซ้อน เช่น สมองบวม มีน้ำหรือหนองใน
ช่องใต้เยื่อหุ้มสมอง มีฝีในสมอง
การรักษา
การรักษาเฉพาะ
การรักษาทั่วไปตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง
การรักษาภาวะแทรกซ้อน
การพยาบาล
ผู้ป่วยเด็กมีภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะและเสี่ยงตอการเกิดอันตรายจากการชัก
อาจได้รับสารอาหารและน้ำไม่เพียงพอ เนื่องจากอาการและพยาธิสภาพทางสมองและการได้รับยาขับน้ำ
ไม่สุขสบายพักหลับได้น้อยเนื่องจากภาวะ ICP มีการระคายเคืองจากการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองหรือเนื้อเยื่อสมอง มีไข้ มีความเจ็บปวด
สมองอักเสบ Encephalitis)
สาเหตุ
เกิดจากไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต หรืออาจเกิดจากปฏิกิริยาต่อวัคซีน สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสมีได้ 2 ประการคือ
Primary viral encephalitis
Secondary viral encephalitis
อาการและอาการแสดง
ไข้ มักสูงได้มาก ๆ ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ คอแข็ง
ซึมลง จนกระทั่งถึงขั้นโคม่า ภายใน 24 –72 ชั่วโมง
ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ (Involuntary movement)
กระสับกระส่าย อารมณ์ผันแปร เพ้อคลั่ง อาละวาด มีอาการทางจิต
การหายใจไม่สม่ำเสมอ อาจหยุดเป็นห้วงๆ
การรักษา
ไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสส่วนใหญ่ไม่มีการรักษาเฉพาะโรค ยกเว้นไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเริมที่สามารถรักษาด้วยต้านไวรัสได้ผล แพทย์มักจะให้การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ
ดูแลระบบหายใจของผู้ป่วยให้ปกติ และหายใจสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันสมองขาดออกซิเจน
การให้ยา ดังนี้ ยาระงับการชัก,ยาป้องกันและรักษาความสมองบวมตั้งแต่ระยะแรกๆ ยาที่ลดอาการบวมของสมอง,ยานอนหลับ,ยา acyclovir.ยาลดไข้,ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ
รักษาสมดุลของปริมาณน้ำเข้า-ออกของร่างกาย โดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ
การให้สารสารอาหารที่มีแคลอรีเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
นางสาวปาริฉัตร กลับกลาง 621201136