Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การ Approach อาการปวดท้อง - Coggle Diagram
การ Approach อาการปวดท้อง
ชนิดของการปวดท้อง
Visceral pain:
เกิดจากการดึงของ unmyelinated nerve fiber มักแสดงอาการแน่น บีบเป็นพักๆ (colicky pain) หรือปวดตื้อ (dull-aching pain) อาจปวดตลอดเวลา หรือเป็นๆหายๆ นอนราบไม่ได้ ตำแหน่งการปวดท้องมักอยู่ตรงกลาง ไม่สัมพันธ์กับตำแหน่งอวัยวะที่ปวด
Parietal pain หรือ Somatic pain:
เกิดจากการระคายเคืองของปลายประสาท myelinated nerve fiber ที่มาเลี้ยงบริเวณชั้น Parietal peritoneum ซึ่งคลุมบริเวณหน้าท้องส่วหน้า ระบุตำแหน่งของการปวดได้
Referred pain หรือ อาการปวดร้าว
คือ อาการปวดที่ไกลจากตำแหน่งที่มีพยาธิสภาพ มักเกิดจากตำแหน่งของการปวดนั้นเคยอยู่ใกล้เคียงกัน การ referred pain จะมีอาการปวดข้างเดียวกับตำแหน่งของพยาธิสภาพ และจะปวด ตรงกลางเมื่ออวัยวะที่มีพยาธิสภาพนั้นอยู่ตรงกลาง
การตรวจร่างกาย/ประเมินอาการ
การตรวจสัญญาณชีพ (vital signs)
การดู การฟัง การเคาะ และการคลำ
การฟัง
ฟังเสียงหลอดเลือด (Vascular sound)
ปกติ ไม่ได้ยินเสียง
เสียงฟู่ (Systolic Bruit) เสียงผิดปกติจะได้ยินเมื่อมีการโป่งพองของหลอดเลือดบริเวณหน้าท้อง
เสียงฟู่ที่ได้ยินต่อเนื่อง (Abdominal Venous hum) เสียงผิดปกติจะได้ยินบริเวณลิ้นปี่หรือรอบสะดือ พบเมื่อมีการขยายตัวของหลอดเลือดดําหน้าท้อง
ฟังเสียงการบีบตัวของลําไส้ (Bowel sound)
Absent bowel sound ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวของลําไส้
Hypoactive bowel sound เสียงลําไส้ที่ดังน้อยกว่าปกติ หรือเบาลง
Hyperactive bowel sound เสียงการเคลื่อนไหวลําไส้มากผิดปกติหรือดังเกือบตลอดเวลา
ปกติ 5 –30 ครั้งต่อนาที
การดู:
ดูหลอดเลือดบริเวณหน้าท้อง สังเกตการโป่งนูนของหลอดเลือดบริเวณหน้าท้อง เช่น หลอดเลือดดําโป่งพอง หลอดเลือดเอออร์ตาส่วนท้องโป่งพอง (Abdominal aortic aneurysm)
ดูรอยโรคหรือลายหน้าท้อง (Lesion or Striae)
-Striaeลายหน้าท้องเป็นขาวหรือแดงเรื่อ ๆ
-Scarแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัด
ดูรูปร่างลักษณะหน้าท้อง (Contour)
ท้องแฟบ (Scaphoid) หน้าท้องจะว้าวลงเมื่อมองจากขอบของกระดูกซี่โครงจนถึงหัวหน่าว
ท้องโป่งมาก (Distended) พบในผู้รับบริการที่อ้วนมากหรือมีน้ำคังในช่องท้อง
ท้องกลม (Round) หน้าท้องจะโป่งขึ้นสูงกว่าหน้าอก
ท้องแบนราบ (Flat) ท้องอยู่ในระดับเดียวกันตั้งแต่หน้าอกจนถึงเหนือหัวหน่าว
ดูสีผิวหนังบริเวณหน้าท้อง (Color)
ดูความสมมาตร (Symmetry)
(กรณีพบไม่สมมาตรอาจเกิดจากมีก้อนที่ผนังหน้าท้อง)
การเคาะ
(Percussion)
การเคาะหาขอบเขตของตับ: ปกติในผู้ใหญ่จะมี ขนาด 6 –12 เซนติเมตรเฉลี่ย ขนาดของตับในผู้ชายเฉลี่ย ประมาณ 10.5 เซนติเมตรและ ในผู้หญิงขนาด 7 เซนติเมตร
การเคาะหานํ้าในช่องท้อง
เคาะหาเสียงทึบที่เปลี่ยนได้
(Shifting dullness)
Positive เมื่อมีเสียงเปลี่ยนจากโปร่งเป็นทึบพบเมื่อมีน้ำในช่องท้องมากกว่า 1 ลิตร
Negativeไม่มีเสียงเปลี่ยนหรือได้ยินเสียงโปร่งตลอด
การเคาะการกระเพื่อมของนํ้า
(Fluid thrill)
Positive รู้สึกมีการเคลื่อนไหวของน้ำมากระทบฝ่ามือที่ทาบบริเวณเอว
Negative ไม่รู้สึกมีการเคลื่อนไหวของน้ำมากระทบฝ่ามือที่ทาบบริเวณเอว
การเคาะทั่วท้อง
ปกติ(tympany) จะได้ยินเสียงโปร่งทัวท้องและได้ยินเสียงทึบบริเวณตําแหน่งของตับ ม้าม กระเพาะปัสสาวะ
เสียงทึบที่ผิดปกติได้ยินบริเวณที่ไม่ใช่ตําแหน่งของตับ ม้าม กระเพาะปัสสาวะ
เสียงโปร่งมาก (Hyper resonance)อาจเกิดจากท้องอืด มีลมหรือแก๊สในกระเพาะอาหาร (Gaseousdistention)
การคลํา
การคลำตับ
ปกติจะคลําได้รู้สึกนุ่ม ขอบเรียบคือขอบของตับที่ปกติและบางครั้งอาจคลําไม่พบ
ตับโตจะคลําได้ขอบของตับบริเวณตําแหน่ง RLQ
การคลําม้าม
ปกติไม่รู้สึกว่าคลําได้อะไร
ผิดปกติเมื่อมีม้ามโตจะรู้สึกว่าม้ามมาชนปลายนิ้ว
การคลําทั่วท้อง
คลำลึก(กดลึกประมาณ 5-8 ซม.)
ปกติ นุ่ม คลําไม่พบก้อน
ผิดปกติ คลําพบก้อน ให้ระบุตําแหน่งที่พบ (Location) ขนาด (Size) รูปร่าง (Shape) ความนุ่มแข็ง (Soft, Firm, Hard) พื้นผิวของก้อนเป็นก้อน เรียบหรือขรุขระ ( Surface) การเคลื่อนไหว (Mobility) การกดเจ็บ (Tenderness)
คลำตื้น(กดลึกประมาณ 1 ซม.)
ปกตินุ่ม คลําไม่พบก้อน
Involuntary rigidity จะมีลักษณะหน้าท้องแข็งเป็นกระดาน (Board like rigidity) เกิดขึ้นเมื่อมีการอักเสบช่องท้องแบบเฉียบพลัน
Voluntary guarding เป็นภาวะปกติที่อาจเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยรู้สึกหนาว จะเกิดขึ้นบริเวณหน้าท้องทั้งสองข้าง เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวระหว่าง การหายใจออก
ซักประวัติ/อาการ
อาการสำคัญที่นำมาโรงพยาบาล
ระยะเวลา/ความถี่ของอาการ
การรักษาก่อนหน้า(หากมี)
CC, PI, HI, โรคประจำตัว
การตรวจอาอาการแสดงเฉพาะ
Murphy’s sign
การตรวจนี้มีความไวต่อการวินิจฉัยถุงน้ำดีอักเสบร้อยละ 65.0
ผู้ตรวจยืนด้านขวาของผู้ป่วย กดลึกใต้ต่อชายโครงด้านขวา ผู้ป่วยจะหยุดหายใจเมื่อกดลึก
Psoas sign
ผู้ป่วยนอนหงาย ยกต้นขาผู้ป่วยต้านแรงกับผู้ตรวจ ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บมากขึ้นเมื่อต้านแรง ผู้ป่วยนอนในท่าตะแครงซ้าย ผู้ตรวจยึดข้อสะโพกของผู้ป่วย
ภาวะอื่นๆที่มีการอักเสบของ retroperitoneum อาจตรวจพบ Psoas sign ได้แก่ กรวยไตอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ และ Psoas abscess
หากมีอาการปวดมากขึ้น แสดงว่ามีการระคายเคืองของกล้ามเนื้อ Psoas หากตรวจพบ Psoas sign เป็นบวก เมื่อยกขาขวา เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าน่าจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ
Obturator sign
ผู้ป่วยนอนหงาย ผู้ตรวจยกขาและสะโพกเป็น ลักษณะตั้งฉาก ผู้ตรวจหมุนข้อสะโพกเข้าด้านใน (Internal rotation) และออกด้านนอก (External Rotation) ผู้ป่วยปวดมากขึ้น
บ่งบอกว่ามีการอักเสบของอวัยวะที่อยู่ใกล้เคียงกับกล้ามเนื้อ Obturator ซึ่งอยู่ลึกลงไปใกล้เคียงกับผนังเชิงกราน ภาวะที่พบบ่อยได้แก่ ไส้ติ่งอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ sigmoid diverticulitis หรือ การ ตั้งครรภ์นอกมดลูก
Rovsing sign
ใช้วินิจฉัยโรคไส้ติ่งอักเสบ
• เป็นการทดสอบ Rebound tenderness ทางอ้อม
• ผู้ตรวจกดผนังหน้าท้องด้านซ้ายซึ่งตรงข้าม กับตำแหน่งกดเจ็บหรือตำแหน่งปวดของไส้ติ่งอักเสบ
• ผลบวกเมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บด้านขวาล่างเมื่อปล่อยตำแหน่งที่กดเจ็บบริเวณท้องด้านซ้าย
Closed eye sign
• ผลตรวจเป็นบวก เมื่อมีการกดเจ็บตำแหน่งที่ปวดขณะยังคงหลับตา มักแสดงว่าผู้ป่วยมีอาการปวดท้องจาก non organic cause มากกว่า organic cause
cough sign
ตรวจอาอาการแสดงของ Peritoneum
ทดสอบโดยการไอ มีค่าความไวร้อยละ 78.0 ในการตรวจภาวะ Peritonitis
Carnett’s sign
การตรวจนี้ควรทดสอบเฉพาะกรณีที่ประวัติชี้นำเท่านั้น
ระบุสาเหตุของอาการปวดท้องที่อาจเกิดจาก abdominal wall pain
ให้ผู้ป่วยนอนราบ คลำตำแหน่งที่ผู้ป่วยมีอาการปวด ให้ผู้ป่วยเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องในท่า Partial sit up
• ผลบวก มีอาการมากขึ้นหลังการทดสอบ พยาธิสภาพน่าจะอยู่ที่ผนังหัวใจ
• ผลลบ พยาธิสภาพน่าจะอยู่ที่ช่องท้อง
การวินิจฉัยแยกโรคตามกลุ่มอาการ
Pain/vomiting + - rigidity
• Acute pancreatitis
• Diabetic gastric paresis
• Diabetic ketoacidosis
• Incarcerated hernia
Pain/vomiting/ distension
• Bowel obstruction
• Cecal volvulus
Pain +- vomiting
• Acute diverticulitis
• Adnexal torsion
• Mesenteric ischemia
• Myocardial ischemia
• Testicular torson
Pain/shock
• Abdominal sepsis
• Aortic dissection
• Hemorrhagic pancreatitis
• Leaking / ruptureed AAA
• Gastrointestinal bleeding
• Ruptureed ectopic pregnancy
• Mesenteric ischmia (late)
• Myocardial ischemia
• Massive pulmonary embolism
Pain/shock/rigidity
• Perforated appendix
• Perforated diverticulum
• Perforated ulcer
• Ruptured esophagus
• Splenic rupture
Distension(+- pain)
• Elderly with bowel
• Obstruction / volvulus