Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำและการไหลเวียนเลือด stitial Hemodynamic Disorder -…
การเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำและการไหลเวียนเลือด stitial Hemodynamic Disorder
สมดุลน้ำในภาวะปกติ ขึ้นอยู่กับแรงดัน 4 ชนิดดังต่อไปนี้
1.Capillary hydrostatic pressure
2.Interstitial hydrostatic pressure
3.Capillary osmotic pressure
4.Interstitial osmotic pressure
ภาวะเสียสมดุลของสารน้ำในร่างกาย
1.ภาวะขาดน้ำ/ปริมาตรในระบบไหลเวียนลดลง คือ ภาวะที่มีปริมาณน้ำและเลือดในร่างกายน้อยกว่าปกติ
2.ภาวะน้ำเกิน คือ การที่มีระดับน้ำนอกเซลล์มาก ทำให้เกิดการบวมแบ่งเป็น บวมเฉพาะที่ และบวมทั่วร่างกาย โดยมีสารน้ำเกิดขึ้น
3.Hyperemia หมายถึงภาวะที่มีการเพิ่มขึ้นของปริมาตรเลือดมายังเนื้อเยื่อใดเนื้อเยื่อหนึ่ง เนื่องจากการขยายตัวของหลอดเลือดแดงขนาดเล็ก
Congestion หมายถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณเลือดเนื่องจากเลือดไหลกลับไม่สะดวก มีการขยายตัวของหลอดเลือดดำ
5.Hemostasis เป็นกระบวนการของร่างกายในการควบคุม เมื่อเกิดการบาดเจ็บของหลอดเลือด โดยเกิดเป็นลำดับขั้นตอนดังนี้
1.Vasoconstriction
2.Primary hemostasis
3.Secondary hemostasis
4.Antithrombotic counter regulation
6.Hemorrhage คือ ภาวะเลือดออกมานอกหลอดเลือด จากการฉีกขาดของหลอดเลือด สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหลอดเลือดขนาดเล็กและขนาดใหญ่
Hemorrhage ตามตำแหน่งที่เกิด
-Epistatic หรือเลือดกำเดา
-Hemoptysis การไอเป็นเลือด
-Hematemesis การอาเจียนเป็นเลือด
-Hematochezia การถ่ายเป็นเลือด
-Hematuria ปัสสาวะเป็นเลือด
-Intracerebral Hemorrhage ภาวะเลือดออกในสมอง
-Hematoma ภาวะที่มีเลือดออกและสะสมในเนื้อเยื่อ
-Hemopericardium เลือดออกในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ
-Hemothorax เลือดออกในช่องเยื้อหุ้มปอด
-Hemoperitoneum เลือดออกในช่องท้อง
-Hemarthrosis เลือดออกในข้อ
Hemorrhage ตามตำแหน่งที่เกิด
-Petechiae จุดเลือดออกขนาดเล็กในชั้นผิวหนังหรือเยื่อบุ serosa ขนาด 1-3 มม.
-Purpura จุดเลือดขนาดเล็กที่ผิวหนังหรือเยื่อบุ serosa ขนาดตั้งแต่ 3-10 มม.
-Ecchymosis เป็นภาวะเลือดออกที่เกิดขึ้นที่ผิวหนัง มีขนาดตั้งเเต่ 1-3 มม
พยาธิสภาพและผลกระทบของ Hemorrhage
ซึ่งขึ้นอยู่กับตำเเหน่ง มักเกิดขึ้นได้เร็วในปริมาณที่มากจนเกิดการช็อคจากการเสียเลือด
1.Thrombosis การเกิดก้อนในหลอดเลือดหรือลิ่มเลือดอุดกั้นการไหลเวียนของเลือดได่เเก่ DIC และ DVT
2.Embolism ภาวะที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งไหลไปตามกระแสเลือดแล้วไปอุดกั้นหลอดเลือดส่วนปลาย เรียกว่า embolus
3.Ischemia ภาวะขาดเลือดเนื่องจากหลอดเลือดถูกอุดกั้นจากสาเหตุต่างๆ
4.Infarction การตายของเนื้อเยื่อที่เกิดจากการขาดเลือดมาเลี้ยง
5.Gangrene เนื้อเยื่อตายเนื่องจากการขาดเลือดไปเลี้ยง ได้แก่ Dry gangrene และ Wet gangrene
6.Shock คือ การที่ปริมาตรในการไหลเวียนของน้ำพร่อง เกิดจากภาวะที่เนื้อเยื่อต่างๆทั่วร่างกายได้รับเลือดไม่เพียงพอร่างกายจึงมีการขาด ออกซิเจน
ชนิดของการ Shock
-Hypovolemic Shock
-Cardiogenic Shock
-Disstributive Shock แบ่งเป็น Septic Shock , Neurogenic Shock และ Anaphylactic Shock
-Opstructive Shock เช่น Pulmonary vascular และ Mechanical
-Mix/Unknow เช่น Endocrine , Metabolicและอื่นๆ
ระยะของการ Shock มี 3 ระยะได้แก่
-Initial/Compensated or Non progressive Shock ระยะเเรก มีการปรับปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจและความดันให้ปกติ
-Decompensated or Progressive Shock กลไกพร่องและเกิดการลุกลาม
-Irreversible Shock เนื้อเยื่อบาดเจ็บรุนเเรง