Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เด็กชาย กร ใจดี อายุ2เดือน GASTROENTERITIS - Coggle Diagram
เด็กชาย กร ใจดี อายุ2เดือน GASTROENTERITIS
:ถ่ายเหลว10ครั้ง 1วันก่อนมาโรงพยาบาล
4วันก่อนมาโรงพยาบาล น้องไปฉีดวัคซีน มีตัวอุ่น ไม่มีไข้ ไอแห้ง ไม่มีน้ำมูก กินนมไม่ได้ อาเจียน 1วันก่อนมาโรงพยาบาล มีอาเจียนหลังกินนม2 ครั้ง ถ่ายเหลว10ครั้งไม่มีเลือดปน มารดาจึงพามาโรงพยาบาล
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล(Nursing Diagnosis) (เรียงลำดับตามความสำคัญ)
A1:มีภาวะเสียสมดุลของน้ำและอิเล็คโตรลัยท์เนื่องจากมีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร
A4: เสี่ยงต่อการเกิดภาวะชักเนื่องจากมีไข้
A3:ผิวหนังสูญเสียหน้าที่เนื่องจากการระคายเคือง บริเวณก้นจากการขับถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง
A5:ผู้ดูแลวิตกกังวลจากการเจ็บป่วยของเด็ก
A2:ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อร่างกายเนื่องจากรับประทานได้น้อยและสูญเสียจากการถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง
A1:มีภาวะเสียสมดุลของน้ำและอิเล็คโตรลัยท์เนื่องจากมีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร
ข้อมูลสนับสนุน
S:ผู้ดูแลบอกว่า “น้องรับประทานนมได้น้อย”
:ผู้ดูแลบอกว่า “น้องถ่ายเปลี่ยนแพมเพิสไป4ครั้ง”
O: :วันที่21/9/64 แรกรับมีปากแห้งเล็กน้อย
O:วันที่22/9/64 มีริมฝีปากแห้งและแดง
:Co2 =14 ต่ำกว่าปกติ
Cl=119 สูงกว่าปกติ
WBC=14,910สูงกว่าปกติ
Neutrophil 43.1ต่ำกว่าปกติ
Lymphocyte 49.8 สูงกว่าปกติ
K 3.47 ต่ำกว่าปกติ
:น้องได้รับนม 12ออนซ์ ได้รับน้ำ6ออนซ์
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอาการของการขาดน้ำผิวหนังไม่แห้งปากไม่แห้งแตก
ปริมาณน้ำที่ได้รับและขับออกสมดุลกัน
ปัสสาวะมีความถ่วงจำเพาะระหว่าง1.001-1.015
สัญญาณชีพปกติตามวัย
ผลอิเล็คโตรลัยต์ปกติตามวัย
เป้าหมาย
มีภาวะสมดุลของน้ำและอิเล็คโตรลัยท์
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงในรายที่ขาดน้ำปานกลางถึงรุนแรงให้บันทึกทุก 1-2 ชั่วโมง
2.ประเมินภาวะขาดน้ำ เช่นความยืดหยุ่นของผิดหนัง ความชุ่มชื้นของเยื่อบุปาก และการบุ๋มของกระหม่อมเป็นต้น
3.ประเมินภาวะเสียสมดุลของอิเล็กโตรไลต์ ดังนี้ ได้แก่ กล้ามเนื้ออ่อนแรงเพลีย เหนื่อย ปวดกล้ามเนื้อและกล้ามเนื้อตะคริวท้องอืดและท้องผูกกระหายน้ำมากหัวใจเต้นผิดจังหวะเป็นต้น
ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ5%DN/3 1000ml+KCL 10 mEq 20 cc/hrตามแผนการรักษา
บันทึกปริมาณน้ำที่ได้รับและขับออก (I/O) ปัสสาวะอุจจาระอาเจียนทุก 4 ชั่วโมงถ้ารุนแรงต้องบันทึกทุกชั่วโมง
ติดตามผลความถ่วงจำเพาะของปัสสาวะ
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะcefoxazime 250 mg vien ทุก 8 ชม ตามแผนการรักษา
การประเมินผล
มีอาการปากแห้งแดง มีถ่ายเหลวไม่ลดลง จากผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการพบ
Co2 =14 ต่ำกว่าปกติ
Cl=119 สูงกว่าปกติ
WBC=14,910สูงกว่าปกติ
Neutrophil 43.1ต่ำกว่าปกติ
Lymphocyte 49.8 สูงกว่าปกติ
K 3.47 ต่ำกว่าปกติ
K 3.47 ต่ำกว่าปกติ
ปัสสาวะมีความถ่วงจำเพาะไม่น้อยกว่า 1.010
A2:ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อร่างกายเนื่องจากรับประทานได้น้อยและสูญเสียจากการถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง
ข้อมูลสนับสนุน
S:ผู้ดูแลบอกว่า “น้องรับประทานนมได้วันละ3-4ครั้ง ครั้งละ1-2ออนซ์”
:ผู้ดูแลบอกว่า “น้องถ่ายวันละ7-8ครั้งเป็นน้ำใสๆ”
วันที่22/9/64 ผู้ดูแลบอกว่า“น้องรับประทานนมได้12ออนซ์”ผู้ดูแลบอกว่า “น้องถ่ายเปลี่ยนแพมเพิสไป4ครั้ง”
O: ผลการตรวจCo2 =14 ต่ำกว่าปกติ
จากการคำนวนน้องควรได้รับนม20ออนซ์ต่อวัน
เป้าหมาย
ไม่เกิดภาวะขาดสารอาหาร
เกณฑ์การประเมินผล
น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างน้อยวันละ 10 กรัม
รับประทานอาหาร / นมได้ไม่อาเจียน
ไม่มีถ่ายเหลว
ได้รับนมมากว่า20ออนซ์ต่อวัน
การพยาบาล
1.ดูแลให้ได้รับนมlactose free formular ตามความต้องการของร่างกายวันละ20ออนซ์
สังเกตและบันทึกการตอบสนองต่อการได้รับสารอาหารเช่นอาเจียนถ่ายอุจจาระเพิ่มขึ้น
ชั่งน้ำหนักทุกวันด้วยเครื่องชั่งเดียวกันและเวลาเดียวกันเพื่อประเมินน้ำหนัก
การประเมินผล
น้องได้รับประทานนมน้อยกว่าวันละ20ออนซ์ ยังมีถ่ายเหลวไม่หยุดและไม่มีอาเจียน
A3:ผิวหนังสูญเสียหน้าที่เนื่องจากการระคายเคือง บริเวณก้นจากการขับถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาบอกว่า”เปลี่ยนแพมเพิสให้น้องวันละ4ครั้ง โดยจะรอจนกว่าแพมเพิสเต็มแล้วค่อยเปลี่ยน”
O: จากการตรวจร่างกายพบรอยแดงบริเวณก้น
วัตถุประสงค์
ผิวหนังบริเวณก้นเกิดการระคายเคืองน้อยที่สุด
เกณฑ์การประเมิน
รอยแดงบริเวณก้นลดลง
การพยาบาล
1.ทำความสะอาดบริเวณที่ระคายเคืองด้วยสบู่อ่อนและน้ำสะอาดเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้งที่ปัสสาวะอุจจาระ
ทาซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) บริเวณที่เกิดการระคายเคือง
ให้บริเวณที่ระคายเคืองได้ถูกอากาศเพื่อให้แห้งและไม่อับชื้น
หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าที่ผสมแอลกอฮอล์เช็ดหรือสัมผัสผิวหนัง
สังเกตการติดเชื้อบริเวณก้นและฝีเย็บเช่นมีผื่นตุ่ม
หนองเชื้อราบวมแดงอักเสบบ่นเจ็บร้องกวน
A4: เสี่ยงต่อการเกิดภาวะชักเนื่องจากมีไข้
ข้อมูลสนับสนุน
วันที่21//9/64
: จากการวัดสัญญานชีพ เวลา10.00น อุณหภูมิ 37.8องศาเซียลเซียส
จากการวัดสัญญานชีพ เวลา14.00น อุณหภูมิ 38.2องศาเซียลเซียส
วันที่22//9/64
: จากการวัดสัญญานชีพ เวลา10.00น อุณหภูมิ 38.5องศาเซียลเซียส
:จากการวัดสัญญานชีพ เวลา14.00น อุณหภูมิ 37.5องศาเซียลเซียส
การพยาบาล
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงโดยเฉพาะอุณหภูมิเพื่อประเมินภาวะไข้
ดูแลให้ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
เช็ดตัวลดไข้โดยใช้น้ำอุ่น ดูแลให้ผู้ป่วยเด็ก
เด็กสวมเสื้อผ้าหลวม ไม่หนาเกินไปเพื่อให้ระบายความร้อนได้ดี
ดูแลให้พักผ่อนอย่างน้อย 10-12 ชั่วโมง
ดูแลให้ยาลดไข้paraceltamal drop 0.6 ml oral prn ตามแผนการรักษา
แนะนำผู้ปกครองเกี่ยวกับการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการชัก
ประเมินผล
น้องไม่มีอาการชักจากไข้สูง
เป้าหมาย :
เพื่อลดอาการไข้ของผู้ป่วย
และผู้ป่วยไม่เกิดการชัก
เกณฑ์การประเมินผล
ไม่มีอาการแสดงของภาวะไข้สูง ได้แก่ หน้าแดง ปวดศีรษะ หนาวสั่น ครั่นเนื้อครั่นตัว
อุณหภูมิปกติ
36.5-37.4 องศาเซลเซียส
A5:ผู้ดูแลวิตกกังวลจากการเจ็บป่วยของเด็ก
ข้อมูลสนับสนุน
S:ผู้ดูแลบอกว่า มาเฝ้าน้องคนเดียว ไม่มีใครมาเปลี่ยน
:ผู้ดูแลบอกว่า ไม่มีใครดูแลลูกตัวเองได้ดีเท่ากับตัวแม่เอง
:เป็นห่วงลูก เฝ้าลูกตลอด
O
:จากการสังเกตุ พบว่ามารดามีสีหน้าอ่อนเพลีย มีใต้ตาคล้ำ และลึก
:เป็นห่วงลูก เฝ้าลูกตลอด
วัตถุประสงค์
เพื่อลดความวิตกกังวัล
การพยาบาล
1ประเมินความเครียดและความวิตกกังวลของมารดา
อธิบายสาเหตุ อาการ การดำเนินโรคและแผนการรักษา
3.เปิดโอกาสให้มารดาได้ซักถามเกี่ยวกับโรคที่ลูกเป็น
4.เปิดโอกาสให้มารดาได้ระบายความรู้สึก ยอมรับในความคิด ความรู้สึกของมารดา รับฟังอย่างจริงใจ และแสดงถึงความ เข้าใจในความรู้สึกของมารดาอย่างแท้จริง
5.ให้กำลังใจเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ รวมถึงการให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริง และหลักปฏิบัติสำหรับผู้ป่วย
6.จัดสภาพแวดล้อม ให้มารดารู้สึกปลอดภัย มีความสุขสบาย
7.ฝึกทักษะทางจิตวิทยา เพื่อควบคุมพฤติกรรมและอารมณ์ของตนเอง การฝึก ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ