Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษา Teenage Pregnancy G1P0GA 38 wks c inlabour - Coggle Diagram

- - - - เจ็บครรภ์คลอด 3 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
    - - ครรภ์แรก อายุครรภ์ 38 สัปดาห์ 3 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลมีอาการเจ็บครรภ์คลอดแต่ไม่มี น้ำเดิน ANC ครบ 4 ครั้งคุณภาพ ผลเลือดปกติ
    - - ปฏิเสธการเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรง ไม่เคยผ่าตัด
      - ปฏิเสธการแพ้ยา แพ้อาหาร
  - - - ค่าที่ตรวจได้ Negative (ค่าปกติ Negative)
        
        แปลผล : ไม่มีเชื้อซิฟิลิส
    - - ค่าที่ตรวจได้ Negative (ค่าปกติ Negative)
        
        แปลผล : ไม่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ
    - - ค่าที่ตรวจได้ Negative (ค่าปกติ Negative)
        
        แปลผล : ไม่มีเชื้อเอดส์
    - - ค่าที่ตรวจได้ Negative (ค่าปกติ Negative)
        
        แปลผล : ไม่มีโปรตีนในปัสสาวะ
    - - ค่าที่ตรวจได้ Negative (ค่าปกติ Negative)
        
        แปลผล : ไม่มีน้ำตาลในปัสสาวะ
    - - ค่าที่ตรวจได้ 40 เปอร์เซ็นต์(ค่าปกติ34-40 เปอร์เซ็นต์)
        
        แปลผล : ความเข้มข้นเลือดปกติ
- - - - มารดาหลังคลอดอายุน้อย
      - มารดาหลังคลอดครรภ์แรก
- - - - บทคัดย่อ
        
        การศึกษานี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive Research) เพื่อศึกษาภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นต่อมารดาและทารก
        
        เก็บรวบรวมข้อมูลย้อนหลัง (Retrospective collecting data) จากเวชระเบียนผู้ป่วยในของหญิงตั้งครรภ์ในวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 10-19 ปี คลอดในโรงพยาบาลหนองหาน จังหวัดอุดรธานีระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2559 จำนวน 157 ราย
        
        ผลการวิจัยพบว่า หญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นมีอายุระหว่าง 13-19 ปี เฉลี่ย 17.51 ปี
        
        ภาวะแทรกซ้อนด้านมารดา
        
        ภาวะแทรกซ้อนต่อมารดาที่พบมาก ที่สุดอันดับแรกคือภาวะซีด (ร้อยละ12.74)
        
        คลอดก่อนกำหนดและผ่าตัดคลอดทารกออกทางหน้าท้อง (ร้อยละ 11.46)
        
        ภาวะตกเลือดหลังคลอด (ร้อยละ 8.23)
        
        การช่วยคลอดโดยใช้เครื่องดูดสุญญากาศ (V/E) ภาวะ CPD มารดาไม่มีแรงเบ่ง การคลอดยาวนาน ร้อยละ 6.37, 6.37, 4.46 และ 3.18 ตามลำดับ
        
        พบภาวะความดันโลหิตสูง (PIH) ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ภาวะน้ำคร่ำน้อย เลือดคั่งใต้แผลฝีเย็บ รกค้างและ ล้วงรก ร้อยละ 3.82, 3.19, 1.91, และ1.30 ตามลำดับ
        
        ภาวะแทรกซ้อนด้านทารก
        
        ภาวะแทรกซ้อนต่อทารกพบมากที่สุดคือทารกแรกเกิด น้ำหนักน้อยร้อยละ 10.19
        
        ภาวะ Fetal distress, Meconium stained และ Birth asphyxia ร้อยละ 5.10, 3.18 และ 1.30 ตามลำดับ
        
        พบภาวะทารกน้ำหนักมาก ทารกท่าก้น และทารกเสียชีวิตในครรภ์เท่ากัน ร้อยละ 0.6
      - ผลการวิจัย
        
        ผลการศึกษาพบว่าจำนวนผู้คลอดทั้งหมด 928 ราย มีหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นอายุ 10-19 ปี คลอดบุตรจำนวน 157 ราย คิดเป็นร้อยละ 16.92 ซึ่งภาวะแทรกซ้อนต่อมารดา ที่พบได้แก่ ภาวะซีด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ส่วนใหญ่เป็นครรภ์แรกและฝากครรภ์ไม่ครบ 5 ครั้ง โดยหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมดที่ฝากครรภ์ไม่ครบ 5 ครั้งคุณภาพ ไม่ได้มาฝากครรภ์คุณภาพที่ 1 ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจากส่วนใหญ่ยังอยู่ในวัยเรียน ไม่อยากเปิดเผยตัวเอง จึงมาฝากครรภ์ล่าช้า รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ใน วัยรุ่นส่วนใหญ่เรียนจบการศึกษาระดับตํ่า และไม่ได้ทำงาน อีกทั้งรายได้ของครอบครัวส่วนใหญ่ก็น้อยกว่า 5,000 บาท/เดือน ทำให้หญิงตั้งครรภ์ในวัยรุ่นขาดความรู้ มีรายได้ไม่เพียงพอ จึงรับประทานอาหารไม่เหมาะสม มีภาวะขาดธาตุเหล็กซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง จึงเกิดภาวะซีด ซึ่งจากการวิเคราะห์ แฟ้มประวัติของหญิงตั้งครรภ์ที่คลอดทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดคือ 1,880 กรัม พบว่าเป็นหญิงตั้งครรภ์ในวัยรุ่นที่เป็นนักเรียนและไม่เคยฝากครรภ์ เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ หญิงตั้งครรภ์จึงไม่มีความรู้และไม่สนใจที่จะดูแลตนเองอย่างเหมาะสม รวมทั้งต้องการปกปิดการตั้งครรภ์ ทำให้น้ำหนักในระยะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเพียง 7 กิโลกรัม ส่งผลให้ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อย ส่วนภาวะ Fetal distress เป็นผลเนื่องมาจากทารกในครรภ์มีภาวะ Meconium stained จึงส่งผลให้เกิดภาวะ Birth asphyxia หลังคลอด
      - การนำมาใช้กับ case/การประยุกต์ใช้
        
        พัฒนาศักยภาพของพยาบาล บุคลากรผู้เกี่ยวข้อง แผนกฝากครรภ์ห้องคลอดและหลังคลอดรวมถึงเครือข่ายบริการสุขภาพในชุมชนด้านการสอน การให้คำแนะนําการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นโดยการฟื้นฟูความรู้และเน้นย้ำให้ตระหนักถึงภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์วัยรุ่นที่มีผลต่อทั้งมารดาและทารก
        
        พัฒนาระบบการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นให้เกิดความต่อเนื่อง เชื่อมโยงจากแผนกฝากครรภ์ ห้องคลอดและหลังคลอด ไปยังเครือข่ายบริการสุขภาพในชุมชนและในโรงเรียน
        
        จัดให้ความรู้เกี่ยวกับผลของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแก่นักเรียน เริ่มตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงชั้นมัธยมโดย เน้นย้ำให้ตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
      - จากผลการวิจัยจึงควรวางแผนการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและหากวัยรุ่นมีการตั้งครรภ์ควร วางแผนการดูแลให้หญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นได้รับการฝากครรภ์คุณภาพและเฝ้าระวังป้องกันภาวะแทรกซ้อนของ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  - - - บทคัดย่อ
        
        การเกิดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นส่งผลเสียต่อสุขภาพ เด็กมีแนวโน้มที่จะคลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า และอัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิดสูงขึ้น ในขณะที่มารดามีอัตราภาวะซึมเศร้าหลังคลอดที่สูงกว่าและมีโอกาสน้อยที่จะเริ่มเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มารดาวัยรุ่นมีโอกาสน้อยที่จะจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีแนวโน้มที่จะอยู่ในความยากจน และมีบุตรที่มักประสบปัญหาด้านสุขภาพและพัฒนาการอยู่บ่อยครั้ง การทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการลดอัตราการเป็นมารดาในวัยรุ่น ปัจจัยทางสังคมและชีวภาพต่างๆ มีอิทธิพลต่ออัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น สิ่งเหล่านี้รวมถึงการเผชิญกับความทุกข์ยากในวัยเด็กและวัยรุ่น ประวัติครอบครัวของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ปัญหาความประพฤติและความสนใจ ความไม่มั่นคงของครอบครัว และผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาต่ำ
      - ผลการศึกษาวิจัย
        
        บทความนี้ช่วยให้เข้าใจหัวข้อที่กว้างขึ้น “ใครมีอิทธิพลต่ออะไร” ภายในครอบครัว ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นที่พบในน้องสาวเมื่อพี่สาวตั้งครรภ์ในวัยรุ่นนั้นขึ้นอยู่กับปฏิสัมพันธ์กับพี่สาวและลูกของเธอ สภาพแวดล้อมของครอบครัวที่พี่น้องมีประสบการณ์ค่อนข้างคล้ายกัน ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ในลูกสาววัยรุ่นของมารดาที่มีบุตรก่อนอายุ 20 ปี ดูเหมือนจะเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการคลอดบุตรก่อนกำหนด เนื่องจากการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นของพี่สาวคนโตมีผลกระทบมากกว่าการคลอดบุตรในวัยรุ่นของมารดา การสร้างแบบจำลองทางสังคมอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่แข็งแกร่งสำหรับการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมากกว่าการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
      - การนำมาใช้กับ case/การประยุกต์ใช้
        
        ความชุกของการตั้งครรภ์วัยรุ่นค่อนข้างสูงในปัจจุบัน สัดส่วนของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเพิ่มสูงขึ้น อาจมีสาเหตุจากเด็กหญิงเข้าสู่วัยรุ่นและมีประจำเดือนครั้งแรกเร็วขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุน้อยและพบอัตราการคุมกำเนิดต่ำ มารดาวัยรุ่นควรป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิด การให้คำแนะนําในคลินิกเฉพาะวัยรุ่น การเข้าถึงบริการและการสร้างค่านิยมที่ถูกต้อง ควรได้รับการดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เมื่อมีการตั้งครรภ์แล้วการให้บริการฝากครรภ์ ควรเน้นการให้บริการเฉพาะกลุ่ม การให้ยาเสริมธาตุเหล็กอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดภาวะซีดในมารดาวัยรุ่น และการป้องกันการคลอดก่อนกำหนด การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้ความพร้อมในการมีบุตรในช่วงอายุที่มากขึ้น
- - - - 1.1 สัมพันธ์ภาพในครอบครัวไม่ดี พ่อแม่ทะเลาะกัน วัยรุ่นไม่อยากอยู่บ้านส่งผลให้ออก จากบ้านไปหาเพื่อนหาแฟน
      - 1.2 ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน
      - 1.3 ความห่างเหินระหว่างวัยรุ่นกับพ่อแม่มากขึ้น
    - - 2.1 การเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยม
      - 2.2 ระดับการศึกษา หรือสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ขาดความรู้เกี่ยวกับ
        การวางแผนครอบครัว
      - 2.3 การดื่มสุรา หรือใช้สารเสพติดต่างๆ เพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์
  - - - 3.1 ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะโลหิตจางจากขาดธาตุเหล็ก
      - 3.2 ภาวะความดันโลหิตสูงร่วมกับการตั้งครรภ์
      - 3.3 ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
      - 3.4 การติดเชื้อในระหว่างการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคติดเชื้อที่มักเกิดในวัยเด็ก เช่น การติดเชื้อในหูชั้นกลาง โรคสุกใส หัด คางทูม ไอกรน เป็นต้น
      - 3.5 ภาวะศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่องเชิงกราน เกิดระยะการคลอดยาวนาน เสี่ยงต่อการใช้สูติศาสตร์หัตถการในการช่วยคลอด
      - 3.6 การตกเลือดในระยะหลังคลอด
      - 3.7 อัตราการตายของมารดาสูงขึ้น
  - - - 1.1 ระยะตั้งครรภ์ ให้การดูแลเช่นเดียวกับสตรีมีครรภ์ปกติ โดยให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น อธิบายให้เห็นถึงความสำคัญของการมาฝากครรภ์ตามนัด การรับประทานยาที่มีธาตุเหล็กอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการรับประทานอาหารที่ครบถ้วน ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของสตรีมีครรภ์และทารก ป้องกันภาวะทุพโภชนาการ ภาวะโลหิตจางทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย แนะนำให้ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย
      - 1.2 ระยะคลอด ให้การดูแลเช่นเดียวกับสตรีที่คลอดปกติ แต่เน้นการดูแลเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของการคลอด ป้องกันระยะการคลอดยาวนาน และเฝ้าระวังภาวะศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่องเชิงกราน ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้สูติศาสตร์หัตถการ อธิบายและเตรียมสตรีมีครรภ์วัยรุ่นให้พร้อม เพื่อไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการช่วยเหลือคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ และดูแลเรื่องการบรรเทาความเจ็บปวดอย่างเหมาะสม
      - 1.3 ระยะหลังคลอด ให้การดูแลเช่นเดียวกับมารดาหลังคลอดปกติ แต่เน้นการเฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดจากกล้ามเนื้อมดลูกหดตัวไม่ดี หรือจากการตัดเย็บกว้างและลึกกว่าปกติใน กรณีที่ช่องทางคลอดแคบหรือทารกในครรภ์ตัวโต คำแนะนำก่อนกลับบ้านเน้นเรื่องการวางแผนการเลี้ยง ดูบุตร การวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดที่เหมาะสม อันตรายจากการทำแท้งที่ไม่เหมาะสม และ ความสำคัญของการมาฝากครรภ์โดยเร็วเมื่อตั้งครรภ์ครั้งต่อไป
      - 1.4 ถ้ามีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ให้การพยาบาลตามภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
    - - 2.2 ให้การดูแลด้านจิตสังคมเหมือนสตรีมีครรภ์ปกติทั้งในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอดและหลังคลอด แต่พยาบาลจะต้องเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตสังคมของสตรีมีครรภ์วัยรุ่นซึ่งอาจแตกต่างจากสตรีมีครรภ์ปกติ
      - 2.1 สร้างสัมพันธภาพ และเปิดโอกาสให้สตรีมีครรภ์และครอบครัวพูดคุยระบายความรู้สึกและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
      - 2.3 ส่งเสริมให้สตรีมีครรภ์และครอบครัวได้เรียนรู้ร่วมกับวัยร่วมกับกลุ่มต่างๆ เช่น childbirth preparation class, prenatal class, maternal class เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการปรับตัวและเป็น การเตรียมความพร้อมสำหรับการดูแลตนเองในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
      - 2.4 ส่งเสริมการสร้างสัมพันธภาพระหว่างมารดา ทารก และครอบครัวทั้งในระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด เช่น การให้ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ การสัมผัสขณะที่ทารกดิ้น การพูดคุยกับทารกในครรภ์ การให้บิดาและมารดาได้สัมผัสและโอบกอดบุตรโดยเร็วภายหลังคลอด การกระตุ้นให้ทารกดูดนมมารดา การส่งเสริมให้ปู่ ย่า ตา ยาย มีส่วนร่วมในการดูแลทารก เป็นต้น