Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

A Beautiful Mind, 1BF4BD93-EC9C-4F66-8E48-C6E95D4210CC, จอห์นเห็นสายลับเข้…

- - - - คิดว่ามีคนสะกดรอยตาม
- - - - ทำร้ายตนเอง
      - ทำร้ายบุคคลรอบข้าง
  - - - Diazepam 10 mg IM q 4 hrs prn
        
        ผลข้างเคียง
        
        มึนงง, สับสบ, ง่วงซึม,
        
        วิงเวียนศีรษะ
        
        ตาพร่า
      - Thorazine 30 mg IM q 6 hrs
        
        ผลข้างเคียง
        
        กล้ามเนื้อเกร็ง
        
        วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
        
        รู้สึกสับสน ความรู้สึกตัวลดลง
        
        กระสับกระส่าย ผุดลุกผุดนั่ง อยู่ไม่นิ่ง
- - - - หรือไม่พูดเพราะอาการทางจิตต่างๆ
      - พูดหลายเรื่องผสมกันจนคนฟังไม่เข้าใจ
    - - การฟัง (Listening)
        
        ฟังอย่างตั้งใจ ใสใจทั้งคำพูดเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้รับบริการ เล่าความคิดความรู้สึก
      - การใช้ความเงียบ (Using Silence)
        
        ใช้ความเงียบในจังหวะที่เหมาะสม
      - การยอมรับ (Accepting)
        
        การยอมรับผู้รับบริการและสิ่งที่ผู้รับบริการพูด ฟังโดยไม่โต้แย้ง/คัดค้านไม่แก้ตัวแทนบุคคล ที่ผู้รับบริการกล่าวถึง
      - การเสนอตัวเพื่อให้การช่วยเหลือ (Offering Self)
        
        เสนอตนเองเพื่อรับฟังปัญหา ให้การช่วยเหลือ หรืออยู่เป็นเพื่อนผู้รับบริการในยามที่เขากำลังรู้สึกไม่ดี
      - การทวนช้ำ/การสะท้อนเนื้อหา (Restating)
        
        พูดทวนเนื้อหาหรือใจความสำคัญในสิ่งที่ผู้รับบริการพูด
      - การสะท้อนความรู้สึก (Reflecting)
        
        การรับรู้ความรู้สึกของผู้รับบริการ และสะท้อนความรู้สึกนั้นให้ผู้รับบริการรับรู้เพื่อให้ผู้รับบริการทำความเข้าใจกับอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง
      - การจำได้ หรือ การระลึกถึง (Giving Recognition)
        
        แสดงถึงการให้ความสำคัญกับผู้รับบริการ
      - การมุ่งความสนใจไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง(Focusing)
        
        เลือกประเต็นในการสนทนา อาจจะเป็นการเสนอให้ผู้รับบริการเป็นผู้พิจารณาเลือกด้วยตนเอง
      - การใช้คำกล่าวกว้าง ๆ (Giving Broad Openings)
        
        เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการเป็นฝ่ายเริ่มต้นในการสนทนา เลือกหัวข้อในการสนทนา
      - การค้นหาข้อมูลหรือปัญหา (Exploring)
        
        สอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูล/ปัญหา/รายละเอียด
        เกี่ยวกับผู้รับบริการและเรื่องราวของเขามากขึ้น
      - การพูดนำเพื่อกระตุ้นให้ผู้รับบริการพูดต่อ
        (Giving General Leads or Using General Leads)
        
        แสดงออกว่า เรากำลังฟัง สนใจในสิ่งที่ผู้รับบริการพูดและอยากให้เขาพูดต่อ
      - การถามถึงสิ่งที่ผู้รับบริการรับรู้มา (EncouragingDescription of Perception)
        
        เพื่อให้ผู้รับบริการได้บรรยาย/
        เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาตามที่เขารับรู้มาด้วยตนเอง
      - การบอกถึงสิ่งที่สังเกตเห็น
        (Making Observationor Sharing Observation)
        
        บอกในสิ่งที่พยาบาลสังเกตเห็นเกี่ยวกับตัวผู้รับบริการ
      - การขอความกระจ่าง
        (Clarifying or SeekingClarification)
        
        ขอคำอธิบายเพิ่มเติม ในกรณีที่ ผู้รับบริการพูดคลุมเครือ/มีความหมายไม่ชัดเจน
      - การตรวจสอบความเข้าใจ
        (Validating or Seeking Consensual Validation)
        
        เป็นการตรวจสอบว่าความเข้าใจของพยาบาลตรงกับความคิด
        ความรู้สึก หรือความต้องการของผู้รับบริการ
      - ขอให้ผู้รับบริการประเมินประสบการณ์
        หรือสถานการณ์ที่เขาเผชิญ (Encouraging Evaluation)
        
        เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการคิดพิจารณาประสบการณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง
      - การให้ผู้รับบริการเปรียบเทียบความเหมือนหรือ
        ความแตกต่าง (Encouraging Comparison)
      - การเรียงลำดับเหตุการณ์ก่อนและหลัง
        (Placing the Event in Time or in Sequence)
      - การให้ข้อมูล/ข้อเท็จจริง (Giving Information)
        
        เป็นการให้ข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงที่จำเป็นและเป็นจริงเพื่อประกอบการทำความเข้าใจกับปัญหา
        การพิจารณาทางเลือกและการตัดสินใจในการแก้ปัญหา
    - - สร้างสัมพันธภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยเชื่อมั่นและไว้วางใจ
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบเงียบ เพื่อลดสิ่งกระตุ้นที่จะไปเพิ่มความวิตกกังวล
      - ช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยค้นหาว่าตนเองมีความรู้สึกอะไรอยู่ และรู้สึกอย่างไรเพื่อให้ผู้ป่วยทำความเข้าใจและทราบถึงปัญหาของตนเอง
      - ส่งเสริมให้ผู้ป่วยพูดหรือระบายความรู้สึก เพื่อลดความวิตกกังวล
      - ส่งเสริมให้ผู้ป่วยวางแผนเลือกพฤติกรรม หรือกิจกรรมที่เหมาะสม
        เพื่อจะช่วยผ่อนคลายและทำให้เกิดความสบายใจ
    - - จัดเวลาเข้าไปพบและพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับและยังเป็นที่ต้องการของผู้อื่น
    - - ไม่แสดงความห่วงใย หรือคาดหวังผู้ป่วยจนเกินไป
      - ให้ความรักความอบอุ่นแก่ผู้ป่วยตามสมควร
      - ญาติจะต้องไม่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความกลัววิตกกังวล
      - คอยรับฟังความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้ป่วยด้วยความเข้าใจและเห็นใจ
      - แนะนำให้รับฟังความคิดเห็น ญาติผู้ป่วยเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุด
      - แนะนำให้ดูแลผู้ป่วยได้รับยาอย่างต่อเนื่องและได้รับยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หรือหาแนวทางที่จะให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ รวมทั้งมาพบแพทย์ตามนัดหมายด้วย
      - พยายามหลีกเลี่ยงการแสดงอารมณ์ต่อผู้ป่วย เช่น ไม่สนใจ ไม่พูดคุยกับผู้ป่วย
        คอยจับผิด ตำหนิติเตียนโดยไม่มีเหตุผล พูดบ่นซ้ำ ๆ ถึงความผิดพลาดในอดีตของผู้ป่วย
  - - - จอห์นเริ่มมีอาการที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่เริ่มเข้ามาศึกษาระดับปริญญาเอก
    - - จอห์นเริ่มมีอาการหูแว่ว เห็นภาพหลอน ขณะศึกษาปริญญาเอก
        และกำลังหมกมุ่นคิดค้นทฤษฎีด้านคณิตศาสตร์
      - จอห์นเห็นภาพหลอนและมีอาการหูแว่วตลอดเวลาขณะทำงาน
    - - จอห์นเริ่มสร้างห้องทำงานลับ เพื่อถอดรหัสจากนิตยสารต่างๆ
      - จอห์นคิดว่ามีคนสะกดรอยตาม จากการที่เขาทำงานเป็นสายลับ
      - จอห์นยังคงพบชาร์ลส์ และมีหลานสาวตามมาด้วย
      - เมื่อจอห์นได้รับการรักษาและกลับไปอยู่บ้าน ไม่ได้รับประทานยาตามแผนการรักษา จนทำให้จอห์นกลับมาเห็นชาร์ลส์อีกครั้ง
      - เมื่อเริ่มทำงานวีลเลอร์แลปส์ จอห์นคิดว่าตนเองทำงานเป็นสายลับควบคู่ไปด้วย
- - - - จอห์นบอกว่าจิตแพทย์ที่รักษาเขาเป็นสายลับรัสเซีย
        ผู้ป่วยจึงไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา
    - - คิดว่ามีคนมาทำร้าย พวกชาวรัสเซีย
      - มีท่าทีหวาดระแวงเกือบตลอดเวลา
    - - ไม่มีเพื่อนสนิทและมักมีปัญหา ในการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน
        ผู้ป่วยชอบอยู่คนเดียว
    - - เชื่อว่าตนเองเป็นสายลับของกระทรวงกลาโหม ถูกเรียกตัวให้ไปทำหน้าที่อย่างลับๆ
    - - สีหน้าเรียบเฉย แต่จะแสดงสีหน้า แววตา และท่าทีหวาดกลัวเมื่อพบจิตแพทย์
      - เหม่อลอย
    - - ผู้ป่วยเดินหลังค่อม มองซ้ายขวาเกือบตลอดเวลา
    - - Visual hallucination👁
        
        จอห์นเห็นชาร์ลส์ Parcher และ marcee ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง
      - Auditory hallucination🦻🏻
        
        จอห์น หูแว่ว ได้ยินเสียงวิลเลียมสั่งให้ทำตาม
  - - - คุณเห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็นบ้างไหม
    - - คุณคิดว่าตัวคุณเองมีกลิ่นซึ่งคนอื่นก็ได้กลิ่นนั้นด้วยหรือเปล่า
    - - คุณเคยได้ยินเสียงอะไร
    - - อาการหลงผิดว่าถูกกลั่นแกล้งปองร้าย (Delusions of persecution)🥷🏻
        
        “ มีใครกำลังพยายามอันตรายคุณบ้างหรือ”
        
        เช่น จะวางยาพิษจะทำร้ายจะฆ่า “ เขาทำอย่างไร”
      - ถูกบังคับควบคุม (Delusions of control)😫
        
        “คุณรู้สึกว่ามีพลังหรืออำนาจบางอย่างมาควบคุมหรือเปล่า” (มันเป็นอย่างไรหรือ)
      - อาการหลงผิดว่าถูกพาดพิงถึง (Delusions of reference) 🤔
        
        “ ดูเหมือนว่าอะไร ๆ จะถูกจัดแจงไว้อย่างพิเศษบ้างหรือเปล่า”
        
        “ คุณเห็นอะไรที่พาดพิงถึงตัวคุณในโทรทัศน์หรือในหนังสือพิมพ์บ้างหรือเปล่า”
        
        ความรู้สึกว่าผู้ป่วยเป็นคนน่าวิจารณ์น่าตำหนิ
    - - คุณเคยได้ยินเสียงพูดหรือเสียงอะไรในขณะที่ไม่มีใครเลยบ้างไหม