Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การคลอดไหล่ยาก (Shoulder dystocia) - Coggle Diagram
การคลอดไหล่ยาก (Shoulder dystocia)
ความหมาย
การที่ไหล่ทารกติดแน่นคลอดไม่ได้หลังจากที่ศีรษะคลอดแล้ว
สาเหตุ
ทารกมีเนื้องอกหรือความพิการบริเวณต้นคอ ทรวงอกและไหล่
ช่องออกเชิงกรานแคบ
ทารกตัวโตมาก พบได้มากในรายต่อไปนี้
ผู้คลอดเป็นโรคเบาหวาน
ผู้คลอดอ้วน น้ำหนักเพิ่มมากเกินกว่า 15 กิโลกรัมตลอดการตั้งครรภ์
ตั้งครรภ์เกินกำหนด พบมากเป็น 4 เท่าของครรภ์ปกติ
ผลต่อมารดาและทารก
ทารกได้รับอันตรายจากการคลอด เช่น เกิดอัมพาตของแขน (brachial plexus palsy or Erb’s syndrome) จากการดึงหรือกดศีรษะไปทางด้านหลังมากๆ อาจเกิดกระดูกแขนหัก กระดูกไหปลาร้าหัก กระดูกต้นคอ เคลื่อนหรือหัก กล้ามเนื้อคอฉีกขาด
เกิดการชอกช้ำและฉีกขาดของหนทางคลอดอ่อน เช่น ฝีเย็บ ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก
สายสะดือถูกกดทับอยู่ระหว่างลำตัวทารกกับกระดูกช่องเชิงกราน ทำให้ทารกขาดออกซิเจน และเสียชีวิตได้ถ้าช่วยเหลือไม่ทันภายใน 7 - 8 นาที
การพยาบาล
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ทารกมีโอกาสได้รับอันตรายจากการคลอด เนื่องจากมีการคลอดไหล่ยาก
หนทางคลอดมีโอกาสฉีกขาดมากผิดปกติเนื่องจากการคลอดไหล่ยาก
ทารกมีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจนจากสายสะดือถูกกดทับอยู่ระหว่างลำตัวทารกกับช่องเชิงกรานเนื่องจากมีการคลอดไหล่ยาก
กิจกรรมการพยาบาล
ในขณะที่ทำคลอด พบว่าทำคลอดไหล่ตามปกติแล้วไม่คลอด ให้เปลี่ยนทำคลอดไหล่หลังก่อน ถ้ายังไม่คลอดให้ปฏิบัติดังนี้
ถ้าใช้วิธีแมคโรเบิร์ทไม่ได้ผล จะใช้วิธีกดเหนือหัวเหน่า (suprapubic compression) ร่วมกับวิธีแมคโรเบิร์ท โดยมีผู้ช่วย 1 คน ใช้มือวางบริเวณเหนือหัวเหน่าตรงตำแหน่งไหล่หน้าแล้วกดลงไปทางด้านหลังและลงข้างล่าง ไหล่หน้าจะลอดผ่านใต้กระดูกหัวเหน่าออกมา
สังเกตเลือดที่ออกทางช่องคลอด ตลอดจนอาการของการเสียเลือดมาก ตรวจสอบดูการฉีกขาดของหนทางคลอดอ่อน และเย็บซ่อมแซมให้ถูกวิธี
ให้การประคับประคองจิตใจผู้คลอด เพราะผู้คลอดมักจะตกใจกลัวต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน กลัวว่าทารกจะได้รับอันตราย พยาบาลต้องอยู่เป็นเพื่อนผู้คลอดตลอดเวลา อธิบายการรักษาพยาบาลที่ได้รับ ถ้าทารกมีอาการดีขึ้นแล้ว รีบนำมาให้ผู้คลอดได้มีปฏิสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมสายใยผูกพัน
ถ้ามีสายสะดือพันคอ ห้ามตัดสายสะดือเพราะทารกจะขาดออกซิเจนทันทีถ้าช่วยคลอดไหล่ไม่ทันทารกอาจเสียชีวิต
หยุดทำคลอดไหล่ไว้ก่อนรีบขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุด เช่น สูติแพทย์ กุมารแพทย์
ระหว่างที่รอแพทย์ ให้การช่วยเหลือขั้นต้นด้วยวิธีของแมคโรเบิร์ท (McRobert maneuver) โดยให้ผู้คลอดใช้มือจับบริเวณใต้ข้อพับเข่าแล้วดึงเข่าเข้ามาให้ชิดหน้าท้องให้มากที่สุด พร้อมกับออกแรงเบ่งเต็มที่ในขณะที่มดลูกหดรัดตัว ขณะเดียวกันผู้ทำคลอดดึงศีรษะทารกลงข้างล่าง ไหล่หน้าอาจจะคลอดออกมาได้ เนื่องจากกระดูกสันหลังส่วนเอว และซาครัม (lumbosacral spine) เหยียดตรงขึ้น และกระดูกหัวเหน่าถูกยกให้สูงขึ้น ทำให้ไหล่หลังเคลื่อนเข้าช่องเชิงกรานได้ง่ายขึ้น เพราะจะหลุดจากกระดูกซาครัมและโพมอนทอรีของซาครัมที่ไหล่หลังติดขวางอยู่ ขณะเดียวกันไหล่หน้าทีติดอยู่ ที่กระดูกหัวเหน่าจะลอดผ่านใต้กระดูกหัวเหน่าออกมาได้ วิธีนี้ได้ผลประมาณร้อยละ 70-80
Rotation maneuver กรณีที่ใช้หัตถการข้างต้นช่วยคลอดไม่สำเร็จ อาจเป็น internal maneuvers ซึ่งมี 2 วิธี ได้แก่
1) Rubin maneuver หรือ reverse Woods’maneuver เป็นการใช้แรงผลักดันส่วนของไหล่บริเวณด้านหลัง ซึ่งอาจเป็นไหล่หน้า หรือไหล่หลังให้เกิด adduction ทำให้ความกว้างของไหล่แนวหน้า-หลังลดลง ผู้ทำคลอดจึงใส่มือข้างหนึ่งเข้าไปในช่องคลอดของผู้คลอดทางด้านหลังของไหล่ทารก และหมุนไหล่ไปทางด้านหน้าของทารก ซึ่งการหมุนหรือการสอดมือเข้าในช่องคลอดของผู้คลอดอาจทำได้ยาก ในกรณีที่ผู้คลอดไม่ได้รับยาสลบหรือไหล่ของทารกติดแน่นมาก ทำให้ไม่มีช่องว่างให้สอดนิ้วของผู้ทำคลอดได้
2) Woods corkscrew maneuver หัตถการที่นำเสนอมาก่อน Rubin maneuver โดยกลไก คือ ออกแรงดันที่ไหล่หลังบริเวณกระดูกไหลปลาร้าของทารกให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา จนกระทั่งไหล่หน้าหลุดออกจากใต้กระดูกหัวหน่าวของผู้คลอด ผู้ทำคลอดควรออกแรงดึงลง (downward traction)
Delivery of the posterior arm หรือ Barnum maneuver โดยกลไกคือ ลดความกว้างของระยะห่างของไหล่ทั้งสองข้าง โดยเปลี่ยนจาก bisacromial diameter เป็น axilloacromial diameter และช่วยคลอดโดยสอดมือของผู้ทำคลอดเข้าในช่องคลอดทางแนวของไหล่หลัง ในกรณีที่ทารกหันหน้าไปด้านขวาของผู้คลอด ผู้ทำคลอดควรใช้มือซ้ายสอดและคลำตามไหล่หลังขึ้นไปจนถึงข้อศอก กดที่ antecubital fossa ให้ข้อศอกงอ ผู้คลอดจับข้อมือทารกและดึงลงผ่านไปทางด้านหน้าอกทารก โดยทั่วไปเมื่อไหล่หลังคลอด ไหล่หน้าจะหมุนตามและหลุดออกจากใต้กระดูกหัวหน่าว ทำให้ตัวทารกคลอดตามมาได้ ในการใช้หัตถการช่วยคลอดวิธีนี้ มีโอกาสเกิดกระดูกต้นแขน (humerus) หักจะพบได้บ่อยที่สุด
Gaskin maneuver หรือ all–fours technique โดยการเปลี่ยนท่ามารดาให้อยู่ในท่าคุกเข่าด้วยมือและเท้าทั้งสองข้างภายหลังทารกคลอด ให้ความช่วยเหลือในการช่วยชีวิตทารกแรกเกิด สังเกตอาการผิดปกติ โดยเฉพาะอาการแขนเป็นอัมพาต กระดูกไหปลาร้าหัก