Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

แผลฝีเย็บ (Episiotomy), นางสาววิชชุดา จันทิมา รหัสนักศึกษา 61102301132 …

- - - - อาจทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็ม
        
        ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
        
        อาจทำให้ตกเลือดได้
  - - - กรณีมีประวัติการได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณนี้
        
        ตรวจดูว่ามีกระดูกเชิงกรานหักหรือไม่
        
        มีการฉีก
        ขาดของกระเพาะปัสสาวะหรือไม
        
        ตรวจภายใน
        
        ตรวจทางทวารหนัก (recto vaginal examination)
        
        ดูตำแหน่งและ
        ขนาดของก้อนเลือดที่คั่ง
  - - - รักษาตามอาการ และประคบด้วย ice pack
      - ให้ยาแก้ปวดร่วมด้วย
      - ประเมินว่าก้อนมีขนาดลดลงหรือไม่ ถ้าไม่จะต้องตัดไหม แล้วเลาะก้อนเลือดออกแล้วเย็บแผลใหม่ทันที
      - อบแผลด้วยรังสีอินฟาเรด (กรณีแผลลึกแต่ไม่มี Hematoma) ห่างจากแผลประมาณ 1 ฟุต อบนาน 15 นาที
    - - ต้องตรวจภายในดูก้อนเลือดคั่ง
        หาจุดเลือดออกแล้วผูก
    - - ก้อนเลือดที่คั่งจะดันแผลฝีเย็บให้โป่งนูน
      - ตัดไหมที่เย็บไว้เพื่อเอาก้อนเลือดที่คั่งอยู่ออก
      - ค้นหาและเย็บซ่อมแซมจุดที่เลือดออก
        ก่อนจะเย็บปิดแผลฝีเย็บ
      - ท่อระบายคาไว กรณีเลือดไหลไม่หยุด
    - - ก้อนเลือดจะคั่งอยู่บริเวณข้างปากมดลูก
      - มารดาอาจมีภาวะช็อค ซีดจากการเสียเลือดมาก
      - ผ่าตัดเปิดช่องท้องเพื่อระบาย
        เลือดและหาจุดเลือดออก
  - - - จากประวัติการตั้งครรภ์ ประวัติการคลอด
      - จากการประเมินบริเวณช่องทางคลอดและแผลฝีเย็บ (Episiotomy)
        
        REEDA-P
        
        R - Redness
        
        E - Edema
        
        E - Ecchymosis
        
        D - Discharge
        
        A - Approximate
        
        P - Pain
    - - การป้องกันการเกิดก้อนเลือดคั่งที่แผลฝีเย็บ (Hematoma)
        
        การประคบความเย็นที่แผลฝีเย็บหลังคลอดวันแรก
        
        เพื่อช่วยลดปวดและลดอาการบวมของแผลฝีเย็บ
        
        การสังเกตบริเวณแผลฝีเย็บ
        
        หากพบความผิดปกติ รายงานแพทย์
      - ประเมินสัญญาณชีพ
      - ดูแลให้มารดาหลังคลอดได้รับยาปฏิชีวนะ ยาบรรเทาปวดตามแผนการรักษา
      - ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น
      - แนะนำให้มารดา หลังคลอดทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
        ทุกครั้งภายหลังการขับถ่าย
- - - - ทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะหรือระบบสืบพันธุ์ได้
  - - - ขาดทักษะในการเย็บแผล
      - ไม่ปฏิบัติตามหลัก IC (ใส่อุปกรณ์ป้องกันไม่ครบ)
      - ล้างมือกับ hand rub
      - ตัดแผลฝีเย็บในเวลาที่ไม่เหมาะสม
      - การซ่อมแซมฝีเย็บเป็นเวลานาน
    - - ห้องคลอดแบบ semi sterile
      - กรรไกรตัดฝีเย็บไม่คม
    - - ปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง
      - แผลลึก และ trauma
      - การติดเชื้อ
      - ปัจจัยส่วนบุคคล
        
        ภาวะโภชนาการ
        
        อายุ
        
        ความอ้วน
        
        กาสูบุหรี่
        
        โรคเรื้อรัง
  - - - สอนการเย็บแผลโดยพยาบาลที่มีประสบการณ์มากกว่า
      - เน้นย้ำปฏิบัติตามหลัก IC
      - มีการตรวจแผลทุกเวรโดยใช้ REEDA-P
      - แนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องแก่ผู้รับบริการ
        
        ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลความสะอาดของแผล
        
        แนะนำอาหารที่ส่งเสริมการหายของแผล
        
        แนะนำการนั่งและยืนในท่าที่ถูกต้อง
        
        แนะนำการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
        
        แนะนำการป้องกันท้องผูก
        
        แนะนำการงดร่วมเพศอย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังคลอด
        เพื่อให้แผลฝีเย็บหายดีก่อน
      - เย็บแผลใหม่
    - - ทำความสะอาดเตียงคลอดทุกครั้งหลังคลอด
      - มีการตรวจสอบอุปกรณ์ และเบิกอุปกรณ์ใหม่หากอุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้ประสิทธิภาพ
      - การทำความสะอาดและทำลายเชื้อบนอุปกรณ์ที่เปรอะเปื้อน
        สารคัดหลั่งของผู้คลอดก่อนรับผู้คลอดรายใหม่
  - - - ควรลุกนั่ง ขยับตัว เดินรอบๆ เตียง ให้เร็วที่สุดหลังผ่าตัดคลอด
        แต่ไม่หักโหมเกินไป
      - หากปวดแผลมาก มีเลือดซึม มีไข้ ให้รีบแจ้งพยาบาลทันที
      - แนะนำดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่ส่งเสริมการหายของแผล
      - ไม่ควรยกของหนักๆ
      - ไม่ควรไอหรือจามแรงๆ
      - ไม่ควรสัมผัสแผลบ่อยๆ และควรล้างมือก่อนสัมผัสแผลทุกครั้ง
      - ไม่ควรให้แผลโดนน้ำ
      - ไม่ควรอยู่ไฟ เพราะจะทำให้ไหมละลายได้