Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

โรคจิตเภท - Coggle Diagram

- - - - การตีความ
        
        การมีความคิดหรือความเชื่อที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงซึ่งไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้เช่น การหลงผิดว่ามีคนจะมาทำร้าย การหลงผิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มีความสามารถพิเศษ (ค้นคว้า : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2560)
      - ปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ปรากฏการณ์ในโจทย์
        
        จอห์นกรีดแขนตนเองเพราะว่าคิดว่าที่แขนมีการฝังชิป
        
        จอห์นพูดว่า “ผมไม่ค่อยชอบคนอื่น คนอื่นก็คงไม่ชอบผมเหมือนกัน”
        ซึ่งจากประโยคที่จอห์นพูดทำให้เห็นว่าจอห์นมีอาการหลงผิดที่คิดว่าคนอื่นไม่ชอบตนเอง
      - วิเคราะห์ปัญหาและเหตุผลที่สัมพันธ์กับปัญหา
        
        การที่จอห์นคิดว่าที่แขนมีการฝังชิปเป็นผลมาจากอาการหลงผิด
        
        จากการที่จอห์นเห็นและได้ยินเสียงคนพูดทำให้เขาเชื่อว่ามีตัวตนอยู่จริงเป็นอาการหลงผิด
    - - การตีความ
        
        การรู้สิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสิ่งเร้าภายนอก เช่น อาการหูแว่ว เห็นภาพคน สัตว์ หรือสิ่งของโดยไม่มีสิ่งเหล่านั้นอยู่จริง
        (ค้นคว้า : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2560)
      - ปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ปรากฏการณ์ในโจทย์
        
        จอห์นเกือบทำร้ายลูกและภรรยาเนื่องจากเห็นคนในกองทัพตามมาที่บ้าน และคนในกองทัพพูดว่า คุณต้องหยุดเธอ เธอจะเปิดเผยความลับของเรา ซึ่งคำพูดนี้พูดตอนที่ภรรยาของเขาโทรคุยกับจิตแพทย์
      - วิเคราะห์ปัญหาและเหตุผลที่สัมพันธ์กับปัญหา
        
        จอห์นทำร้ายตนเองเนื่องจากมีอาการประสาทหลอน
        
        การที่จอห์นเห็นว่ามีคนในกองทัพตามมาที่บ้าน แต่ไม่มีใครตามมาเป็นอาการประสาทหลอน
        
        จอห์นมีอาการประสาทหลอนเห็นว่าชาร์ลมาช่วยอาบน้ำให้ลูกจนเกือบทำให้ลูกได้รับอันตราย
        
        จอห์นเห็นภาพหลอนและได้ยินเสียงคนมาสั่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง ภรรยาและลูกได้
    - - อาการหลงผิดและประสาทหลอนมีความสัมพันธ์กับโรคจิตเภท
      - ผู้ที่มีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนมีโอกาสทำร้ายตนเองและผู้อื่นจนเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
      - ผู้ที่มีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนมีโอกาสที่จะมีความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวลดลง
      - ผู้ที่มีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอนจะไม่สามารถแยกความเป็นจริงกับสิ่งที่ตนเองสร้างขึ้นมาได้
  - - - การตีความ
        
        คือภาวะผิดปกติทางความคิดที่ทำให้เคลือบแคลงสงสัยหรือระแวงผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามีคนจ้องทำร้ายอยู่ตลอดเวลา
        คิดว่าคนรอบข้างไม่ชอบตนเอง หรือไม่ไว้ใจผู้อื่น อาการเหล่านี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาการหลงผิด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือเข้าสังคมได้ยาก (ค้นคว้า : นิตยา สุทธิกุล,2563)
      - ปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ปรากฏการณ์ในโจทย์
        
        จอห์นจะมองซ้ายทีขวาที มองด้วยสายตาหวาดระแวงเพราะกลัวว่าจะมีคนจากกองทัพตามมาทำร้าย
        
        จอห์นบอกว่าเขาเป็นคนใจเย็น ไม่ชอบยุ่งกับใคร แต่การมีคนมาสะกดรอยตามทำให้เขากลัวและกังวลอย่างมาก
      - วิเคราะห์ปัญหาและเหตุผลที่สัมพันธ์กับปัญหา
        
        การที่จอห์นคิดว่าตนเองเป็นสายลับของกระทรวงกลาโหมและกำลังถูกปองร้ายจากกลุ่มคนที่เป็นสายลับรัสเซียจึงทำให้จอห์นเกิดความหวาดระแวง
      - ตั้งสมมติฐานที่เชื่อมโยงกันกับปัญหา
        
        อาการหวาดระแวงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้างและการเข้าสังคม เนื่องจากผู้ป่วยระแวงว่าผู้อื่นจะมาทำร้ายตนเอง ส่งผลให้ผู้คนรอบข้างปฏิบัติต่อผู้ป่วยไม่เหมือนเดิมหรือเลี่ยงที่จะพบปะพูดคุยด้วย และอาจทำให้ผู้ป่วยมีความหวาดระแวงจนเกิดการไม่ไว้วางใจคนอื่นและเข้าสังคมได้ยาก
- - - - เก็บตัว ไม่อยากพบปะผู้คน ไม่ชอบพบปะผู้คน ปิดกั้นตัวเอง โดยมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องหรือในบ้านโดยแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ขาดความสนใจในการเข้าสังคมและกิจกรรมที่เคยสนใจ ไม่ดูแลสุขภาพอนามัยส่วนตัว
        (ค้นคว้า : มันฑนา กิตติพีรชล,2560)
    - - จอห์นมีลักษณะนิสัยวัยเด็กที่ชอบเก็บตัว ไม่มีเพื่อนสนิท มีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน และในช่วงวัยรุ่น จอห์นยังมีลักษณะนิสัยที่เก็บตัวและไม่มีเพื่อนสนิท
    - - จากการที่จอห์นมีลักษณะนิสัยที่เก็บตัวไม่มีเพื่อนสนิททั้งในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากมีปัญหาในการปรับตัวเข้าหาเพื่อน จอห์นชอบที่จะอยู่คนเดียว
    - - พฤติกรรมแยกตัวจากสังคมอาจจะส่งผลให้ไม่สามารถสร้างสัมพันธภาพ
        ได้อย่างมีประสิทธิภาพและขาดความมั่นใจในการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น
  - - - จอห์นอุ้มลูกไว้ที่ตักแต่ไม่สามารถปลอบลูกที่กำลังร้องไห้ได้
    - - จากการที่จอห์นมีอารมณ์ทื่อ เฉยเมย มีอาการเหม่อลอยส่งผลให้เขาไม่สามารถเลี้ยงลูกได้
    - - ขาดความกระตือรือร้น ไม่สนใจเรื่องการแต่งกาย การเรียนการทำงาน
        เก็บตัวไม่สนใจพุดคุยกับใคร (ค้นคว้า:คลินิกรักษ์จิตอุ่นใจ,2559)
      - การไม่มีความรู้สึก ไม่มีอารมณ์ ไม่มีความสนใจโต้ตอบสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งแวดล้อม
        ผู้ป่วยจะมีสีหน้าเรียบเฉย(กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข,2560)
    - - ผู้ที่มีอารมณ์เฉยเมย ทื่อ เหม่อลอย อาจทำให้ผู้อื่นได้รับการบาดเจ็บหรือเกิดอันตรายขึ้นได้
- - - - การพูดในลักษณะที่หัวข้อวลีหรือประโยคที่กล่าวออกมาไม่สัมพันธ์กัน เช่น การเปลี่ยนเรื่องที่พูดจากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่งซึ่งไม่มีความสัมพันธ์กันเลยเป็นต้น
        (ค้นคว้า : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2560)
    - - จอห์นจะพูดตะกุกตะกักตอนที่เขากำลังสอนหนังสือ แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการเป็นสายลับ ถูกสะกดรอยตามจะพูดรัว เร็ว
    - - จากการที่จอห์นพูดติดขัดไม่ต่อเนื่อง เป็นการขาดการเชื่อมต่อหรือลำดับความคิดของเหตุการณ์นั้นจึงทำให้พูดติดขัดขณะสอน
    - - การพูดไม่เป็นระเบียบแบบแผนเป็นปัจจัยที่ทำให้การมีสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นลดลง
      - การพูดไม่เป็นระเบียบแบบแผนเป็นปัจจัยที่ทำให้การสื่อสารลดลงอาจทำให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่เข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้พูดและผู้รับ
  - - - เป็นพฤติกรรมที่ผิดแปลกไปจากปกติ เช่นร้องตะโกนโดยที่ไม่มีสิ่งใดมากระตุ้น (ค้นคว้า: มาโนช หล่อตระกูล,2558)
      - จะมีพฤติกรรมวุ่นวาย พลุ่กพล่าน กระวนกระวาย ไม่ใส่ใจตนเอง มีการแต่งกายที่ไม่เหมาะสมสกปรก
        (ค้นคว้า : สุวนีย์ เกี่ยวกิ่งแก้ว, 2554)
      - พฤติกรรมเคลื่อนไหวผิดแปลกไปจากปกติ คือ การเคลื่อนไหวที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป
        (ค้นคว้า : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, 2560)
      - Catalepsy(posturing) คือ ผู้ป่วยจะคงอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งของการเคลื่อนไหวที่กำลังกระทำอยู่โดยที่การกระทำนั้นยังไม่สิ้นสุด Stereotypy คือ เป็นการกระทำซ้ำๆอย่างสม่ำเสมอในพฤติกรรมอย่างหนึ่งและเรื่อยๆ โดยไม่สามารถจบลงได้
        (ค้นคว้า : คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ)
    - - จากการสังเกตผู้ป่วยเดินหลังค่อม มองซ้ายขวาเกือบตลอดเวลา
      - จอห์นมีอาการเดินไม่แกว่งแขน ซอยเท้าถี่ เดินกอดอก ก้มหน้า
      - จอห์นนั่งกุมมือ และบีบมือตัวเองตลอดเวลา
    - - ผลจากการหวาดระแวงทำให้จอห์นมีพฤติกรรมที่ผิดแปลกไป
    - - พฤติกรรมที่ผิดปกติ การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุต่อตนเองและคนรอบข้างได้