Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจร่างกาย Chest (Heart&Lung), นางสาวอารดา วันเลิศ เลขที่ 83 ห้อง…
การตรวจร่างกาย Chest (Heart&Lung)
ทรวงอกละปอด Chest&Lung
เป็นการตรวจเพื่อประเมินการทำหน้าที่ของอวัยวะและ ส่วนประกอบของทรวงอก
อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจได้แก่ หลอดลม ปอด
หัวใจและระบบไลเวียนโลหิต
ผิวหนังเต้านมกล้ามเนื้อกระดูกหน้าอกและกระดูกซี่
ใช้หลักการ ดู คลำ เคาะ ฟัง
คลำ
ตำแหน่งของหลอดลมทำได้ 2 วิธีดังนี้
1.1 ผู้ป่วยนั่งหรือนอนก้มคอมาข้างหน้าเล็กน้อย เพื่อให้กล้ามเนื้อ Sternocleidomastoid หย่อน ผู้ตรวจใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางกดไปบน suprasternal notch โดยให้นิ้วอยู่แต่ละข้างของหลอดลม เปรียบเทียบความรู้สึกกว่าช่องว่าง ระหว่างหลอดลมกับ Sternocleidomastoid ทั้ง 2 ข้างเท่ากันหรือไม่
1.2 ผู้ป่วยนั่งหน้าตรง ผู้ตรวจใช้นิ้วคลำหาจุดกึ่งกลางของ Suprasternal notch และเคลื่อนนิ้วเข้าหา Trachea สังเกตว่าสัมผัสได้ที่จุดกึ่งกลางหรือไม่
การขยายตัวของปอด (Lung expansion)
1.ด้านหลัง : วางฝ่ามือทั้ง 2 ข้างทาบทรวงอกด้านหลัง ห้นิ้วหัวแม่มือวางขนาน กับกระดูกซี่โครงคู่ที่ 10 ฝ่ามือโอบด้านข้างของทรวงอก ปลาย นิ้วหัวแม่มือ 2 ข้าง อยู่ใกล้กันบริเวณแนวกระดูกสันหลัง โดยมี ระยะห่างเท่ากัน
**ให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึก ๆ สังเกตความแตกต่างของ การเคลื่อนที่ของนิ้วหัวแม่มือ
ทั้ง 2 ข้าง
2.ด้านหน้า : ดูการเคลื่อนไหวของ upper และ middle lobeวิธีตรวจคล้ายกับที่ตรวจด้านหลังโดย วางมือบริเวณชายโครงตามแนบกระดูก ซี่โครงที่ 6 โดยนิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ Xiphoid process ฝ่ามือโอบด้านข้าง ของทรวงอก บอกให้ผู้ป่วยหายใจ เข้าออกลึกๆสังเกตการเคลื่อนที่ออกจาก จุดกึ่งกลางของนิ้วหัวแม่มือและ
การขยายของฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง
การคลำตำแหน่งที่กดเจ็บ เช่น Costochondral junction และตำแหน่งอื่นๆ
การคลำเสียงสะท้อน (Tactile fremitus or Vocal fremitus)วิธีตรวจ : ใช้ฝ่ามือหรือสันมือวางบนผนังอกด้านหลังใน ตำแหน่งที่ตรงกันทั้ง 2 ข้าง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบนก็ได้ แล้วให้ ผู้ป่วยนับ 1-2-3 จะสัมผัสถึงความรู้สึกสั่นสะเทือนที่เกิดจากเสียง เปรียบเทียบกันทั้ง 2 ข้างถ้าคลำเสียงสะท้อนได้เบากว่าอีกข้างหนึ่ง แสดงว่า ปอดข้างนั้น แฟบหรือสิ่งอุดกั้นในหลอดลมข้างนั้น เช่น น้ำหนอง หรือลมในโพรง เยื่อหุ้มปอดข้างนั้น
เคาะ
เคาะปอด
โดยเริ่มจากกระดูกไหปลาร้าแต่ละข้าง ไล่ลงมาทีละช่อง ของกระดูกซี่โครงท้ัง 2 ข้าง ปกติจะได้ยินเสียงก้อง (Resonance)
เคาะบริเวณยอดปอด โดยให้ผู้ป่วยนั่ง ผู้ตรวจหันหน้าเข้าหาผู้ป่วย เคาะลงบน Supraclavicular fossa ทั้งข้างซ้ายและขวา
เคาะปอดด้านหลัง เริ่มเคาะจาก ด้านบน ลงมาด้านล่างทีละช่อง ซี่โครง
ปกติเสียง Resonance จะเริ่มสิ้นสุด ราวระดับ Left rib 9th และ Right rib 8th
การเคาะที่ถูกต้องในคนที่ถนัดขวา :ให้นิ้วมือซ้ายเหยียดตรง วางแนบบริเวณที่จะตรวจ ใช้นิ้วกลางมือขวาเคาะลงบนนิ้วกลางมือ ซ้ายบริเวณ Distal interphalangeal joint ในแนวดิ่ง โดยใช้การ เคลื่อนไหวของข้อมือขวา
เคาะเปรียบเทียบกันข้างซ้ายและขวา ไล่จากบนลงล่าง ขณะเคาะให้กดนิ้วนั้นให้ แนบกับผิวหนัง และยกนิ้วอื่นขึ้น
สามารถบอกความผิดปกติ ที่ลึกไม่เกิน 5-7 ซม.
ดู
ลักษณะผิวหนังทรวงอก มีผื่น แผล
มี spider nevi หรือ spider angioma หรือไม่
ขนาดและรูปร่างทรวงอกปกติเส้นผ่านศูนย์กลางจากด้านหน้า ไปด้านหลังจะแคบกว่าด้านข้าง ประมาณ 5 : 7
*Barrel shape พบใน COPD
AP : Transverse (Lateral) diameter = 1 : 1
ลักษณะเต้านมหัวนม
การเคลื่อนไหวของทรวงอกสังเกตอัตราการหายใจความลึก
จังหวะ ใช้กล้ามเนื้อหน้าอกช่วยหายใจ หรือมี Sternal retraction หรือไม่
ฟัง
ให้ผู้ป่วยอ้าปากเล็กน้อย หายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วฟังที่ผนังทรวงอกด้วยด้าน diaphragm ของ stethoscope แต่ละตำแหน่งควรฟังอย่างน้อย 1 รอบของการหายใจเข้า – ออก โดยเปรียบเทียบกับอีกด้านหนึ่งในตำแหน่งเดียวกัน ไล่เป็นลำดับ
เสียงปกติ
เสียงหายใจปกติ ( Normal breath sound )
Bronchovesicular breath sound บริเว_ณรอบ manubrium 1st., 2nd. Intercostal space ด้านหน้า และ interscapula area ด้านหลัง (หายใจเข้า – ออก เท่า ๆ กัน)
Tracheal / Bronchial breath sound บริเวณคอ ตาแน่งของ Trachea และ bronchus (หายใจเข้าสั้ย – ออกยาว)
Vesicular breath sound บริเวณชายปอดทั้ง 2 ข้าง (หายใจเข้ายาว - ออกสั้น)
การฟังเสียงพูด ให้ผู้ป่วยนับ 1-2-3สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสียง
เสียงผิดปกติ
Crepitation or crackle เป็นเสียงที่ไม่ต่อเนื่อง เกิดจากลม
หายใจผ่าน secretion ที่ Terminal bronchiole และ alveoli ได้ยินชัดช่อง หายใจเข้า มี 3 ระดับคือ Fine, medium, coarse
Rhonchi and Wheezing เป็นเสียงที่เกิดจากการสั่นของ หลอดลม ในขณะที่มีลมวิ่งผ่านหลอดลมที่ตีบแคบ พบใน Asthma, COPD, CHF
Rhonchi เป็นสียงที่มีลักษณะใหญ่และทุ้ม แสดงถึงหลอดลม ขนาดใหญ่ในทรวงอกที่ตีบแคบ
Wheezing เป็นเสียงที่มีลักษณะแหลมกว่า rhonchi ซึ่งความ แหลมของเสียงขึ้นกับความเร็วของลมที่วิ่งผ่าน
Stridor เป็นเสียงที่เกิดจากการตีบแคบของหลอดลมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเสียงหวืดที่ได้ยินชัดในช่องหายใจเข้า มักจะได้ยินโดยไม่ ต้องใช้ stethoscope
ความผิดปกติอื่นที่ตรวจพบได้แก่ เสียงหายใจเบากว่าปกติ เรียกว่า Decrease breath sound หรือ Deminished breath sound พบในภาวะที่มีลมหรือของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอด
เสียง Pleural friction rub เกิดจากการเสียดสีของเยื่อหุ้มปอดที่อักเสบ พบใน Pleuritis
เสียงพูด กรณีที่มีสิ่งมากั้นระหว่างเนื้อปอดกับผนังทรวงอก เช่น
Pleural effusion, pneumothorax, pleural mass, atelectasis เสียงพูดจะเบาลง
เส้นสมมติที่ใช้แบ่งทรวงอก สำหรับบอกตำแหน่งในการตรวจ
Midsternal line
Midclavicular line
Anterior axillary line
หัวใจ
เพื่อเป็นการตรวจหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตทั่วไป ได้แก่ การหายใจ สีผิวและอาการบวม ตามส่วนต่างๆ/การตรวจชีพจรในตาแหน่งต่างๆ การเต้นของเส้นเลือด ดำว่ามีการโป่งพองหรือไม่/การวัดความดันโลหิต /การตรวจหัวใจ
ใช้หลักการ ดู คลำ ฟัง
ตำแหน่งของลิ้นหัวใจสำหรับใช่ในการตรวจ
P.V.A. (Pulmonic valvular area) Lt. ICS 2nd ชิดกับ sternum
T.V.A. (Tricuspid valvular area) Lt. ICS 5th ชิดกับ sternum
A.V.A(Aorticvalvulararea)Rt.ICS2nd ชิดกับsternum
M.V.A. (Mitral valvular area หรือ Apex) Lt. ICS 5th ตัดกับ MCL
คลำ
คลำตำแหน่งของ PMI. : ใช้ปลายนิ้วมือทั้ง 4 นิ้วตำแหน่งที่คลำ พบว่าหัวใจเต้นแรงทีสุด จะมีแรงกระแทกถูกนิ้วมือเพียงจุดเดียวหรือเป็นบริเวณเล็กๆ ไม่เกิน 2-3 ซม.
คนปกติจะอยู่ที่ช่องซี่โครงที่ 5 ตรงกับ MCL ซึ่งเป็นต าแหน่ง ของ Apex
การคลำเพื่อตรวจอาการแสดงของหัวใจโต เรียกว่า Ventricular heave
การคลำ Thrill คือปรากฏการณ์ของ Murmurs ที่ดังมาก จนเกิดการสั่นสะเทือน ของ Chest wall จะร้สึกเหมือนมีคลื่นมากระทบ (Vibration sensation ถูกที่ฝ่ามือ ต้องคลำให้ทั่วทั้ง Precordial area ได้แก่บริเวณลิ้นหัวใจทั้ง 4 โดยวางฝ่ามือบริเวณที่จะตรวจ Systolic thrills Diastolic thrills
ฟัง
ควรฟังบริเวณ Precordial area ทั้งหมด โดยฟังตาแหน่งลิ้นหัวใจทั้ง 4 แห่งใช้ Stethoscopeด้าน Bell – ฟังเสียงต่ำ(low pitch) โดยไม่ควรกดแน่น ด้าน Diaphragm – ฟังสียงสูง (high pitch) โดยกดให้แน่น
สังเกตสิ่งต่อไปนี้
ลักษณะของเสียง : เบา แรง พอดี
ความสม่ำเสมอ จังหวะการเต้น
ความถี่ของเสียง : ช้าหรือเร็ว อัตราการเต้น นับเต็มนาที
เสียงหัวใจที่ผิดปกติ : เสียงฟู่ Cardiac MurMur เป็นเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนขณะมีการไหลของเลือด ผ่านรูเปิดของลิ้นหัวใจ หรือเส้นเลือดที่มีความผิดปกติ
Systolic murmur : เกิดระหว่างเสียง S1 และสียง S2 โดยเกิดพร้อมกับการเต้นของชีพจรที่คอ
Diastolic murmur : เกิดระหว่างเสียง S2 และเสียง S1 โดยเกิดหลังการเต้นของชีพจรที่คอ
เสียงหัวใจที่ปกติ: S1 เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของmitral&tricuspidvalveเกิดใน ช่องหัวใจบีบตัว ฟังชัดที่สุดบริเวณ Apex
S2 เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของ pulmonic & aortic valve เกิดใน ช่องหัวใจคลายตัว ฟังชัดบริเวณpulmonic&aorticvalve
ดู
ดู Apical impulse หรือ Apical beat คือตาแหน่งที่มีการเต้น ของหัวใจแรงทีสุด เรียกว่า Point of maximum impulse : PMI บางรายอาจมองไม่เห็นเนื่องจากผนังทรวงอกหนา ต้องใช้วิธีคลำ
Abnormal pulsation อื่น ๆ ในบริเวณ Precordial area และ บริเวณคอทั้ง 2 ข้างเช่น Impulse จาก Aneurysm
ดูลักษณะผนังทรวงอกว่าเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง หรือมีการ โป่งนูน (Bulging) ของผนังทรวงอกหรือไม่
ถ้ามี bulging ด้านซ้ายของกระดูก sternum แสดงว่ามี Right ventricular hypertrophy
นางสาวอารดา วันเลิศ เลขที่ 83 ห้อง B