Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจร่างกาย Chest (Heart & Lung), lJg8UI2qgTEj.FLG9DmUFw,…
การตรวจร่างกาย
Chest (Heart & Lung)
ปอด (Lungs)
ดู
ดูว่าลักษณะผิวหนังทรวงอกมีผื่น แผล มี spider angioma หรือไม่
รูปร่างลักษณะทรวงอกปกติจะมีรูปร่างกลมแบน เส้นผ่านศูนย์กลางจากด้านหน้าไปด้านหลังจะแคบกว่าด้านข้างประมาณ 5:7
ดูว่าไม่มีลักษณะทรวงอกที่ผิดปกติ เช่น อกไก่ (Pigeon chest) หรือ อกบุ๋ม (Funnel chest)
ดูการเคลื่อนไหวของทรวงอก สังเกตหารหายใจ ความลึก จังหวะ ว่ามีการใช้กล้ามเนื้อหน้าอกช่วยหายใจ หรือมี Sternal retraction
ฟัง
ขณะตรวจให้ผู้ป่วยอ้าปากเล็กน้อย หายใจเข้าออกลึก ๆ แล้วฟังทรวงอกด้วยด้าน diaphragm ของ stethoscope
1.การฟังเสียงหายใจปกติ (Normal breath sound)
Tracheal / Bronchial breath sound บริเวณคอ ตำแหน่งของ
Trachea และ bronchus (เสียงหายใจเข้าจะสั้น – ออกจะยาว)
Broncho vesicular breath sound บริเวณรอบ manubrium
(เสียงหายใจเข้า – ออก เท่า ๆ กัน)
3.Vesicular breath sound บริเวณชายปอดทั้ง 2 ข้าง ฟังทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (เสียงหายใจเข้าจะยาว – ออกจะสั้น)
2.การฟังเสียงพูด
ให้ผู้ป่วยนับ 1-2-3 สังเกตการเปลี่ยนแปลงของเสียง
กรณีที่มีสิ่งมากั้นระหว่างเนื้อปอดกับผนังทรวงอก เสียงพูดจะเบาลง
3.. การฟังเสียงผิดปกติ ( Adventitious sound )
Crepitation or crackle เป็นเสียงที่ไม่ต่อเนื่อง
Stridor เป็นเสียงที่เกิดจากการตีบแคบของหลอดลมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นเสียงหวืดที่ได้ยินชัดในช่วงหายใจเข้า
เสียงหายใจเบากว่าปกติ
Pleural friction rub เกิดจากการเสียดสีของเยื่อหุ้มปอดที่อักเสบพบใน Pleuritis
Deminished breath sound พบในภาวะที่มีลมหรือของเหลวในช่องเยื่อหุ้มปอด
Rhonchi เป็นเสียงที่มีลักษณะใหญ่และทุ้ม แสดงถึงหลอดลมขนาดใหญ่ในทรวงอกที่ตีบแคบ
Wheezing เป็นเสียงที่มีลักษณะแหลมกว่า rhonchi ซึ่งความ แหลมของเสียงขึ้นกับความเร็วของลมที่วิ่งผ่าน
เคาะ
การเคาะที่ถูกต้องในคนที่ถนัดขวา
ให้นิ้วมือซ้ายเหยียดตรงวางแนบบริเวณที่จะตรวจ
ใช้นิ้วกลางมือขวาเคาะลงบนนิ้วกลางมือซ้ายบริเวณ
Distal interphalangeal joint ในแนวดิ่ง
เคาะเปรียบเทียบกันข้างซ้ายและขวา ไล่จากบนลงล่าง
ขณะเคาะให้กดนิ้วนั้นให้แนบกับผิวหนัง และยกนิ้วอื่นขึ้น
เคาะปอด โดยเริ่มจากกระดูกไหปลาร้าแต่ละข้าง ไล่ลงมาทีละช่องของกระดูกซี่โครงทั้ง 2 ข้าง
เคาะปอดด้านหลัง เริ่มเคาะจากด้านบน
ลงมาด้านล่างทีละช่องซี่โครง
การแปลผล
Resonance เป็นเสียงที่เกิดจากการเคาะปอดที่ปกติ หรือ เสียงก้อง
Dullness เสียงทึบ พบใน Pneumonia, Pul. TB,Atelectasis
Hyper - resonanceเสียงก้องมาก พบในภาวะ Emphysema
คลำ
ตำแหน่งของหลอดลม
ผู้ป่วยนั่งหรือนอนก้มคอมาข้างหน้าเล็กน้อย เพื่อให้กล้ามเนื้อ Sternocleidomastoid หย่อน
ผู้ตรวจใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางกดไปบน suprasternal notch โดยให้นิ้วอยู่แต่ละข้างของหลอดลม
เปรียบเทียบความรู้สึกว่าช่องว่าง ระหว่างหลอดลมกับ Sternocleidomastoid ทั้ง 2 ข้างเท่ากันหรือไม่
การขยายตัวของปอด
(Lung expansion)
ตรวจคลำด้านหน้า
ดูการเคลื่อนไหว ของ upper และ middle lobe
วางมือบริเวณชายโครงตามแนวกระดูก ซี่โครงที่ 6 โดยนิ้วหัวแม่มืออยู่ที่ Xiphoid process
ฝ่ามือโอบด้านข้าง ของทรวงอก บอกให้ผู้ป่วยหายใจ เข้าออกลึกๆ
ตรวจคลำด้านหลัง
วางฝ่ามือทั้ง 2 ข้างทาบทรวงอกด้านหลัง ให้นิ้วหัวแม่มือวางขนาน กับกระดูกซี่โครงคู่ที่ 10
ฝ่ามือโอบด้านข้างของทรวงอก
ปลายนิ้วหัวแม่มือ 2 ข้าง อยู่ใกล้กันบริเวณแนวกระดูกสันหลัง โดยมีระยะห่างเท่ากัน
ให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึก ๆ สังเกตความแตกต่างของ การเคลื่อนที่ของนิ้วหัวแม่มือ ทั้ง 2 ข้าง
การคลำเสียงสะท้อน
(Tactile fremitus or Vocal fremitus)
วิธีตรวจ
ใช้ฝ่ามือหรือสันมือวางบนผนังอกด้านหลัง ในตำแหน่งที่ตรงกันทั้ง 2 ข้าง จากบนลงล่างหรือล่างขึ้นบนก็ได้
ให้ผู้ป่วยนับ 1-2-3 จะสัมผัสถึงความรู้สึกสั่นสะเทือนที่เกิดจากเสียง เปรียบเทียบกันทั้ง 2 ข้าง
ถ้าคลำเสียงสะท้อนได้เบากว่าอีกข้างหนึ่ง แสดงว่า ปอดข้างนั้น แฟบหรือมีสิ่งอุดกั้นในหลอดลมข้างนั้น
การคลำตำแหน่งที่กดเจ็บ เช่น Costochondral junction และตำแหน่งอื่นๆ
หัวใจ(Heart)
ดู
ดูลักษณะผนังทรวงอกว่าเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง หรือมีการโป่งนูน (Bulging) ของผนังทรวงอกหรือไม่
2.ดู Apical impulse หรือ Apical beat คือตำแหน่งที่มีการเต้นของหัวใจแรงที่สุด เรียกว่า Point of maximum impulse : PMI
Abnormal pulsation อื่น ๆ ในบริเวณ Precordial area และ บริเวณคอทั้ง 2 ข้าง
ฟัง
ควรฟังบริเวณ Precordial area ทั้งหมดโดยฟังตำแหน่งลิ้นหัวใจทั้ง 4 แห่ง
ใช้ Stethoscope
ด้าน Bell - ฟังเสียงต่ำ (low pitch) โดยไม่ควรกดแน่น
ด้าน Diaphragm – ฟังเสียงสูง (high pitch) โดยกดให้แน่น
การฟังเสียงหัวใจปกติ Normal heart sound
S1
เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของ mitral & tricuspid valve เกิดในช่วงหัวใจบีบตัว ฟังชัดที่สุดบริเวณ Apex
S2
เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของ pulmonic & aortic valve เกิดใน ช่วงหัวใจคลายตัว ฟังชัดบริเวณ pulmonic & aortic valve
การฟังเสียงฟู่ (Cardiac murmur)
เป็นเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือนขณะมีการไหลของเลือดผ่านรูเปิดของลิ้นหัวใจ หรือเส้นเลือดที่มีความผิดปกต
Systolic murmur :
เกิดระหว่างเสียง S1
และเสียง S2 โดยเกิดพร้อมกับการเต้นของชีพจรที่คอ
Diastolic murmur :
เกิดระหว่างเสียง S2
และเสียง S1โดยเกิดหลังการเต้นของชีพจรที่คอ
ตำแหน่งลิ้นหัวใจ
A.V.A (Aortic valvular area) Rt. ICS 2nd ชิดกับ sternum
P.V.A. (Pulmonic valvular area) Lt. ICS 2nd ชิดกับ sternum
T.V.A. (Tricuspid valvular area) Lt. ICS 5th ชิดกับ sternum
M.V.A. (Mitral valvular area หรือ Apex) Lt. ICS 5th ตัดกับ MCL.
คลำ
1.คลำตำแหน่งของ PMI.
ใช้ปลายนิ้วมือทั้ง 4 นิ้วคลำ
ตำแหน่งที่คลำพบว่าหัวใจเต้นแรงที่สุด จะมีแรงกระแทกถูกนิ้วมือเพียงจุดเดียว หรือเป็นบริเวณเล็กๆ ไม่เกิน 2-3 ซม.
คนปกติจะอยู่ที่ช่องซี่โครงที่ 5 ตรงกับ MCL ซึ่งเป็นตำแหน่งของ Apex
2.การคลำเพื่อตรวจอาการแสดงของหัวใจโต
เรียกว่า Ventricular heave
หัวใจเต้นแรงขึ้น เพราะ Left ventricular hypertrophy , contractility
เปลี่ยนไปทางซ้ายเนื่องจาก : Rt. Pneumothorax , Lt. Atelectasis , Cardiac dilatation
เปลี่ยนไปทางขวาเนื่องจาก : Lt. Pneumothorax ,Rt. Atelectasis
3.การคลำ Thrill
ต้องคลำให้ทั่วทั้ง Precordial area ได้แก่ บริเวณลิ้นหัวใจทั้ง 4 โดยวางฝ่ามือบริเวณที่จะตรวจ
Systolic thrills
Diastolic thrills
วัตถุประสงค์
เป็นการตรวจเพื่อประเมินการทำหน้าที่ของอวัยวะและส่วนประกอบของทรวงอก ได้แก่
ผิวหนัง เต้านม กล้ามเนื้อ กระดูกหน้าอก และกระดูกซี่โครง 2.อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจได้แก่ หลอดลม ปอด หัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต
ตำแหน่งที่สำคัญบริเวณทรวงอก
Inferior angle of scapula
เป็นตำแหน่งที่ตรงกับกระดูกซี่โครงที่ 7 ด้านหลัง เมื่อผู้ป่วย นั่งตัวตรง ปล่อยแขนข้างลำตัวตามสบาย
Spinous process of T1
ให้ผู้ป่วยก้มคอเต็มที่จะคลำได้ปุ่มนูนของกระดูก spine ที่โปนที่สุด 2 ปุ่ม คือ ปุ่มบน คือ Spinous process ของ C7 และ ปุ่มล่าง คือ spinous process ของ T1
ใช้สำหรับนับกระดูกซี่โครงและกระดูกสันหลัง
Sternal angle
เป็นส่วนต่อระหว่าง Manubrium sterni กับ sternum ซึ่งเป็นมุมที่คลำได้ชัดเจนมาก และอยู่ตรงกับกระดูกซี่โครงที่ 2 ทางด้านหน้า
เป็นประโยชน์ในการนับกระดูกซี่โครง (Rib) และช่องว่างระหว่างกระดูกซี่โครง (Intercostal space: ICS)
เส้นสมมติ (Imagination line)
เป็นเส้นที่ใช้เปรียบเทียบบอกตำแหน่งของสิ่งที่ตรวจพบ ได้แก่
Midsternal line
Midclavlcular line
Anterior axllary line
นางสาวกัญญารัตน์ ภู่ปัญญาชน
เลขที่ 6 ห้อง 2B
รหัส 63123301008