Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กรณีศึกษา PBL “นายถุงชา” - Coggle Diagram

- - - - Benzhexol (5) 1 tab O h.s.
      - Lorazepam (2) 1 tab O p.r.n.
      - Haloperidol 5 mg. IM p.r.n. for agitation 96 hrs.
      - Haloperidol decanoate 50 mg. IM q 2 weeks
      - Depakine CR (500) 1 tab x 2 O เช้า, h.s.
      - Chlorpromazine (25) 1 tab O h.s.
      - Clozapine (100) 1.5 tab O h.s.
- - - - 1.มีเจ้าหน้าที่ในชุมชน หรือ อสม.ติดตามตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วย โดยมีการไปให้ความรู้ผู้ดูแล แนะนำและกระตุ้นการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย
      - 2.รณรงค์ให้ชุมชนยอมรับและไม่รังเกียจผู้บกพร่องทางจิตยอมที่จะเปิดใจในการปรับตัวเข้าหา
      - 3.ให้โอกาสในการใช้ทักษะที่ได้รับการพัฒนาโดยอาจจะมีการจัดเวทีหรือแสดงผลงานของผู้ป่วยหรืออาจจะให้ผู้ป่วยได้ทำการสอนแนะนำผู้อื่นตามศักยภาพที่มีอยู่
      - 4.ช่วยฝึกอาชีพโดยอาจเป็น อบต.หรือผู้นำชุมชนเข้ามาช่วยเพื่อให้ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลมีงานทำ
  - - - 1.แม่หรือพี่ชายและพี่สะใภ้ของผู้ป่วยควรดูแลให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อเนื่อง
      - 2.กระตุ้นและให้กำลังใจผู้ป่วยให้ได้ทำงานที่มีประโยชน์
      - 3.กระตุ้นหรือช่วยเหลือในการดูแลความสะอาดร่างกายเสื้อผ้า
      - 4.สนับสนุนและให้กำลังใจผู้ป่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
      - 5.เก็บอุปกรณ์ต่างๆที่สามารถให้เป็นอาวุธควรเก็บให้มิดชิด
      - 6.พาผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- - - - การเลี้ยงดูภายในครอบครัวที่มักใช้ความรุนแรง
      - ความเครียด ความกดดันในเรื่องต่างๆ
    - - Psychoanalytic theory (ทฤษฎีจิตวิเคราะห์)
      - Personality theory (ทฤษฎีบุคลิกภาพ) บุคลิกภาพบางรูปแบบ อาจทำให้คนๆนั้นมีโอกาสเกิด โรคหรืออาการทางจิตเวชง่ายขึ้นความสัมพันธ์นี้เห็นได้ไม่ชัดในการเกิดpsychosis แต่เห็นชัดเจนกว่า ในการเกิด โรคกลุ่มneuroses การเกิดมีบุคลิกภาพต่างๆนั้นขึ้นกับทั้งปัจจัยด้านพันธุกรรม จิตวิทยาและสังคม
      - Learning Theory เรียนรู้ช่วยอธิบายการเกิดและการรักษาโรคทางจิตเวชที่มีอาการทางพฤติกรรมเป็นหลัก
- - - - สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอด้วยท่าที่เป็นมิตร โดยใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเงียบพยายามสบตาและสัมผัสผู้ป่วยด้วยความระมัดระวัง
      - สนใจและให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกกลัวหรือความวิตกกังวล
      - ไม่แสดงการยอมรับว่าสิ่งที่ผู้ป่วยได้ยินอยู่ในโลกของความจริง โดยใช้คำพูดให้ผู้ป่วยรับรู้ เช่น "คุณได้ยินเสียงคนพูด แต่ฉันไม่ได้ยินเสียงอะไร"
      - ส่งเสริมให้ใช้เทคนิคการผ่อนคลายความเครียดวิธีต่าง ๆ
      - กระตุ้นให้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น โดยมีพยาบาลอยู่เป็นเพื่อนและ ให้กำลังใจ ขณะเข้ากลุ่มควรได้รับการเกื้อหนุนจากกลุ่มอย่างเหมาะสมเป็นทั้งผู้นำ และผู้ตาม
  - - - ประเมินความคิดของผู้ป่วยว่าที่ส่งผลพฤติกรรมและการกระทำของผู้ป่วยอย่างไร
      - ให้ความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับผลเสียและผลดีของการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้ผู้ป่วยตะหนักถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง
      - ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องและการดูแลสุขภาพทั่วไป
      - หากผู้ป่วยไม่ปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ทำการกระตุ้นให้ผู้ป่วยปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
      - กล่าวชื่นชมเมื่อผู้ป่วยปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองโดยไม่ต้องได้รับการกระตุ้นจากพยาบาล
  - - - ประเมินความคิดของผู้ป่วยว่ามีผลอย่างไรต่อพฤติกรรม ผู้ป่วยรายนี้คิดว่ามารดาและแม่ค้าในตลาดเพราะคิดว่าเป็นทหารพม่า และคิดว่าตนเองเป็นทหารเอกของพระนเรศวร จึงต้องระมัดระวังในประเด็นนี้
      - สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย โดยรับฟังด้วยความเข้าใจ ไม่โต้แย้ง ขณะเดียวกันก็ไม่สนับสนุนความเชื่อของผู้ป่วย
      - สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อ โดยการมาพูดคุยกับผู้ป่วยทุกวัน
      - จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย
      - ดูแลให้ยา Haloperidol 5 mg. IM p.r.n. for agitation q 6 hrs. Chlorpromazine (25) 1 tab O h.s. Clozapine (100) 1.5 tab O h.s. ตามแผนการรักษา
      - สังเกตพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยขณะรับการรักษา
  - - - สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจและมีความมั่นใจที่จะเปิดเผยความคิด ความรู้สึกและปัญหาต่างๆ
      - ค้นหาวิธีการที่จะทำให้ผู้ป่วยยอมรับการเจ็บป่วย
      - ให้ความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับโทษของการดื่มสุรา
      - ให้กำลังใจเมื่อผู้ป่วยปฏิบัติตามและให้ความร่วมมือในการรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
      - เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้พูดคุยปรึกษาในสิ่งที่อาจยังมีข้อกังวลใจ หรือไม่สบายใจเกี่ยวกับยาหรืออาหารข้างเคียงของยาที่ได้รับ
      - จัดให้คนในครอบครัวของผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการสนทนา แลกเปลี่ยนความรู้หรือประสบการณ์เกี่ยวกับการรับประทานยาของผู้ป่วย พร้อมทั้งตอบข้อสงสัยที่ครอบครัวของผู้ป่วยต้องการทราบ
  - - - สร้างสัมพันธภาพกับครอบครัวของผู้ป่วย พร้อมกับประเมินสภาพทั่วไปของครอบครัว
      - ให้คำปรึกษาปัญหาต่าง ๆ ที่ญาติเผชิญอยู่ รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของการป่วยทางจิตเวช และการให้คำแนะนำในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
      - ให้ครอบครัวของผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกที่มีต่อผู้ป่วย
      - ทำความเข้าใจกับครอบครัวของผู้ป่วยเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เกิดขึ้น
      - จัดให้มีหน่วยงานให้คำแนะนำ และช่วยแก้ปัญหาเมื่อครอบครัวเผชิญภาวะวิกฤตต่าง ๆ เนื่องมาจากการป่วยทางจิตเวช
  - - - สร้างความไว้วางใจในการติดต่อกับผู้ป่วยแบบตัวต่อตัว (one to one relationship)
      - การสื่อสารกับผู้ป่วยต้องเปิดเผยรักษาคำพูดให้ข้อมูลอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการจ้องมอง
      - ยอมรับในพฤติกรรมหวาดระแวง ไม่โต้แย้ง ต่อต้าน และรับฟังเรื่องราวอย่างสนใจเพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือ
      - ไม่แสดงกิริยาที่อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความสงสัยหรือไม่มั่นใจ
      - ส่งเสริมศักยภาพการดูแลตนเองของผู้ป่วยการร่วมมือในการรักษาด้วยยาและพัฒนาการมีส่วน ร่วมของครอบครัวในการดูแลผู้ป่วยโดย
        
        ให้ความรู้กับผู้ป่วยและญาติ ถึงพยาธิสภาพของโรค แผนการรักษาพยาบาลและการ
        ดูแลช่วยเหลือผู้ป่วย
        
        เสริมสร้างพลังอำนาจ และสอนทักษะการจัดการกับความเครียด แก่ผู้ดูแล
        
        ให้ข้อมูลในแหล่งที่สามารถช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉิน แก่ผู้ดูแล
        
        การดูแลช่วยเหลืออาการข้างเคียงจากยารักษาโรคจิต