Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจร่างกายระบบประสาท …
การตรวจร่างกายระบบประสาท
Neurological
ระบบประสาทอัตโนมัติ
Sympathetic
Parasympathetic
ระบบประสาทส่วนปลาย
เส้นประสาทสมอง (Cranial nerve) 12 คู่
เส้นประสาทไขสันหลัง (Spinal nerve) 31คู่
ระบบประสาทส่วนกลาง
สมอง
สมองใหญ่ Cerebrum
รับความรู้สึก ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบต่อมไร้ท่อและระบบประสาทอัตโนมัติ
สมองน้อย Cerebellum
ควบคุมสมดุล การเคลื่อนไหวของร่างกาย
ไขสันหลัง
สามารถส่งกระแสประสาทไปยังสองและส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เคลื่อนไหวและการรับความรู้สึกต่างๆ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
การตรวจทางรังสี (CT) เป็นการฉายภาพทางรังสีที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยตัดต่อและเลือกภาพให้มีความชัดเจนและเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น
การเจาะหลัง เป็นบทบาทของแพทย์ในการวิเคราะห์ความผิดปกติของระบบประสาท
Cerebral angiogram เป็นวิธีการฉีดสารทึบแสงเข้าทาง Femoral artery ดูการอุดตันที่หลอดเลือดในสมองต่างๆ ดูภาวะเนื้องอกในสมอง
Electroenphalography เป็นวิธีที่ใช้วัดคลื่นไฟฟ้าบริเวณเปลือกนอกของเนื้อสมอง
หน้าที่ควบคุมหลัก
การรับรู้ความรู้สึก
อาศัยตัวรับความรู้สึกบริเวณผิวหนัง กล้ามเนื้อ ข้อต่อ อวัยวะภายในลูกตา จมูก ลิ้น หู
การวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่ได้มาจากนอกร่างกายเข้ามาทางประสาทรับรู้สึกมาแปล ตัดสินใจ ส่งต่อข้อมูล
การสั่งงานและควบคุมการทำงานของร่างกาย
รับสัญญาณจากประสาทส่วนกลางส่งไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย
สิ่งที่ต้องทำการตรวจ
การตรวจการทำงานประสานกัน Coordination
เป็นการตรวจหน้าที่ในการทำงานประสานกันของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
การทดสอบ Finger to finger
ให้ผู้ป่วยหลับตาและกางเเขนออกเต็มที่ แล้วเหวี่ยงแขนเข้าในให้เป็นวงจนปลายนิ้วทั้งสองข้างมาแตะกันตรงกลาง
การทดสอบ Finger to nose
ให้ผู้ป่วยหลับตาและกางแขนข้างหนึ่งออกเต็มที่โดยยื่นนิ้วชี้ออก นิ้วชี้ของมืออีกข้างสัมผัสจมูก
นำนิ้วชี้ข้างที่สัมผัสจมูกไปสัมผัสกับปลายนิ้วชี้ข้างกางออก
ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง สลับทำอีกข้างหนึ่ง
การทดสอบ Finger to nose to finger
ผู้ป่วยลืมตาใช้ปลายนิ้วสัมผัสจมูกตนเองและนำไปสัมผัสกับปลายยิ้วชี้ของพยาบาล
พยาบาลเปลี่ยนตำแหน่งของนิ้วชี้ไปทางซ้ายและขวา
การทดสอบ heel to knee
ท่านอนเป็นท่าที่เหมาะสมสำหรับการตรวจ
ผู้ป่วยยกขาข้างหนึ่งแล้ววางเส้นเท้าลงบนเข่าอีกข้าง
ไถส้นเท้าไปตามหน้าแข้งและหลังเท้าจนถึงปลายเท้าด้วยความเร็วพอสมควร
Romberg test
ผู้ป่วยยืนหลับตา เท้าชิดกัน หงายฝ่ามือและเหยียดแขนไปข้างหน้า
สังเกตว่าผู้ป่วยสามารถทรวงตัวอยู่ได้หรือไม่หรือล้มเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
ผู้ประเมินอาจออกแรงผลักเบาๆ ด้วยปลายนิ้วไปข้างใดข้างหนึ่ง
การทดสอบอื่นๆที่จำเป็น
Signs of meningeal irritation
การทดสอบอาการคอแข็ง
ปกติจะสามารถยกศีรษะขึ้นได้โดยไม่มีอาการเจ็บปวด
มีอาการเจ็บคอหรือเกร็งกล้ามเนื้อคอ แสดงว่าการทดสอบให้ผลเป็นบวก อาจหมายถึงมีพยาธิสภาพของเยื่อหุ้มสมอง
การทดสอบอาการ Kernig
ผู้รับบริการงอเข่า 90 องศา
พยาบาลค่อยๆ จับเข่าของผู้รับบริการยืดออก
ถ้ายืดไม่ได้และมีอาการปวดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังแสดงว่าผลตรวจได้บวก
อาจมีการระคายเคืองของเยื่อหุ้มสมอง
Planter reflex
การแปลผล มีการเหยียดของนิ้วเท้า ถือว่าการตอบสนองผิดปกติ
การตอบสนองผิดปกติเรียกว่า มี barbinski response หรือ barbinski ให้ผล +
ผู้รับบริการนอนหงาย ไม่เกร็งกล้ามเนื้อ
ใช้วัตถุปลายทู่ขูดที่ฝ่าเท้า
Motor System
ดูรายละเอียดการประเมินได้จากประเมินภาวะสุขภาพระบบกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ
การตรวจทั่วไป
การเดิน ลักษณะที่แสดงออก
ระดับความรู้สึกตัว
Alert
ระดับความรู้สึกตัวปกติ เหมือนคปกติทั่วไป
Drawsiness
ระดับความรู้สึกซึมลง อยากหลัง ต้องปลุกเรียก ยังพูดรู้เรื่อง
Confuse
ระดับความรู้สึกซึมลงมาก พูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักสถานที่ เวลา บุคคล เรียกว่าDisorientation
Delirium
จะเอะอะอาละวาดมากขึ้น หงุดหงิด ตอบคำถามไม่ได้ บางครั้งต้องจับมัดไว้ เรียกว่า Restrained
Stupor
ความรู้สึกซึมมาก ต้องปลุกแรงๆ ลืมตาปัดและหลับต่อ เรียกว่า Semicoma
Coma
ความรู้สึกไม่รู้สึกตัว ไม่มีการตอบสนอง
การตรวจประสาทสมอง 12 คู่
ทดสอบ Olfactory Nerve (I)
ทดสอบประสาทในการดมกลิ่น โดยการให้ผู้ป่วยดมกลิ่นของที่คุ้นเคยหลับตาในขณะที่ดม แล้วให้ผู้ป่วยบอกสิ่งที่ใช้ก็เป็นของหาง่าย เช่น สบู่ ยาสีฟัน กาแฟ เป็นต้น
ทดสอบ Optic Nerve (II)
ให้ทดสอบการมองเห็นแจ่มชัด (visual acuity) โดยการให้ผู้ป่วยปิดตาข้างหนึ่งแล้วให้อ่านหนังสือพิมพ์ ห่างจากใบหน้า 15-18 นิ้ว ทดสอบลานสายตา (peripheral vision) โดยการที่ยืนหรือนั่งห่างจากผู้ป่วยประมาณ 2 ฟุต ให้ปิดตาทีละข้าง แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งชูนิ้วชี้วางไว้ด้านข้างผู้ป่วย ห่างออกไปประมาณเกือบสุดแขน ดูว่าผู้ป่วยสามารถเห็นนิ้วมือหรือไม่
ทดสอบ Oculomotor (III), trochlear (IV) และ Abducens Nerves (VI)
ส่วนใหญ่จะทดสอบพร้อมกัน การตรวจสอบการกลอกตาโดยชูนิ้วให้เหนือศีรษะผู้ป่วย ห่างจากตาประมาณ 18 นิ้ว ให้ผู้ป่วยมองไปหลายๆ จุดที่นิ้วเคลื่อนที่ไป 6 ทิศทาง คือ เหนือลูกตา ระดับตา และต่ำกว่าตาทั้งซ้ายและขวา นอกจากนี้ Oculomotor ยังควบคุมการปิดเปิดตา และรูม่านตา การตรวจสอบรูม่านตาให้ใช้ไฟฉายส่องมาที่ลูกตา แล้วฉายไปทางข้างดูว่ารูม่านตามีการหดตัวหรือไม่ ขนาดของรูม่านตาที่วัดได้คือรูม่านตาก่อนหดตัว ดูว่ารูม่านตาหดเร็วหรือช้า ควรดูในที่มืด ผู้ป่วยจะต้องไม่ได้รับยาที่มีผลต่อรูม่านตาทั้งยา รับประทานและยาหยอดตา
ทดสอบ Trigeminal Nerve (V)
เป็นเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของมอเตอร์ของกล้ามเนื้อขมับ (temporal) หรือกล้ามเนื้อในการเคี้ยว (masseter muscles) เพื่อประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขมับ โดยการวางนิ้วมือที่ขมับแล้วให้เคี้ยวฟัน การตรวจกล้ามเนื้อในการเคี้ยว โดยวางนิ้วมือไว้ที่ขากรรไกรของผู้ป่วย แล้วให้เคี้ยวฟันอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ประสาทคู่ที่ 5 นี้ ยังควบคุมความรู้สึกบริเวณลูกตา โหนกแก้ม และขากรรไกร (Ophthalmic, Maxillary และ Mandibular sensation) ด้วย การตรวจสอบทำได้โดยให้ใช้สำลีสัมผัสที่ใบหน้าบริเวณหน้าผาก แก้ม และ ขากรรไกร ที่ใบหน้า 2 ซีก ให้ผู้ป่วยปิดตาขณะสัมผัสและให้ผู้ป่วยบอกเมื่อสำลีสัมผัสหน้า
ทดสอบ Facial Nerve (VII)
เส้นประสาทนี้ จะควบคุมปุ่มรับรส (taste buds) และกล้ามเนื้อใบหน้า (Facial muscle) ให้ผู้ป่วยลืมตากว้าง ๆ ยักคิ้ว ยิงฟัน ปิดตาให้แน่นต้านมือผู้ตรวจที่พยายามลืมตาผู้ป่วย
ทดสอบ Acoustic Nerve (VIII)
ทดสอบการได้ยิน โดยการยืนข้างหูผู้ป่วยแต่ละข้างห่าง 2 ฟุต พูดเลข 2 หลักเบาๆ แล้วถามผู้ป่วย
ทดสอบ Glossopharyngeal (IX) และ Vagus Nerve (X)
เป็นการทดสอบการกลืน ถ้าเราไม่ทดสอบปุ่มรับรส ให้ทดสอบการทำงานของมอเตอร์ โดยผู้ตรวจใช้มือวางบริเวณลำคอผู้ป่วย แล้วให้กลืนนํ้าลาย เราจะรู้สึกว่ามีการขยับกลืน แล้วทดสอบรีเฟล็กซ์การขย้อน (gag reflex) โดยการใช้ไม้กดลิ้นหรือไม้พันสำลียาวแตะที่โคนลิ้นผู้ป่วยรู้สึกจะอาเจียน
ทดสอบ Spinal Accessory Nerve (XI)
ประสาทคู่นี้ควบคุมกล้ามเนื้อกระดูกสันอก ไหปลาร้า และปุ่มกกหู (sternocleidomastoid muscle) และกล้ามเนื้อหลัง (trapezius muscles) ทดสอบ กล้ามเนื้อ กระดูกสันอก ไหปลาร้า และปุ่มกกหู โดยการที่ใช้มือวางที่แก้มผู้ป่วย แล้วให้หันหน้าไปด้านข้าง จะรู้สึกถึงแรงที่หันดันฝ่ามือผู้ตรวจทดสอบกล้ามเนื้อหลังโดยการวางฝ่ามือไว้บนไหล่ผู้ป่วยแล้ว ให้ผู้ป่วยยกไหล่ขึ้น
ทดสอบ Hypoglossal Nerve (XII)
ประสาทคู่นี้ควบคุมการเคลื่อนไหวของลิ้น โดยให้ผู้ป่วยแลบลิ้นดูว่าอยู่ในแนวกึ่งกลางหรือไม่
Sensory system assessment
Pain Sensation, Touch Sensation
ให้ผู้รับบริการหลับตา จะนำวัตถุไปวางในมือ เช่น ปากกา ยางลบ ให้ผู้รับบริการทายว่าคือวัตถุอะไรทดสอบทีละข้าง
การทดสอบความจำแนกลักษณะของวัตถุโดยการสัมผัส
Vibration Sensation
การรับรู้การสั่นสะเทือน
ใช้ส้อมเสียงความถี่ เคาะให้สั่นแล้ววางบนหลังกระดูก เช่น ตาตุ่ม หัวเข่า ข้อศอก ข้อมือ หรือตามกระดูกสันหลัง
Traced Figure ldentification
การรับรู้สิ่งที่เขียนบนผิวหนัง
การตรวจรีเฟล็กซ์
การตรวจปฏิกิริยาตอบสนองชนิดตื้น
การทดสอบการหดตัวของถุงอัณฑะ
ปฏิกิริยาตอบสนอง จะเห็นลูกอัณฑะด้านที่ทดสอบหดตัว
ให้ผู้รับบริการนอนหรือนั่ง
พยาบาลใช้วัตถุทู่ๆ ขีดลากที่ด้านในของต้นขาในแนวเฉียงลงล่างและเข้าใน
การตรวจปฏิกิริยาตอบสนองที่ผนังหน้าท้อง
ให้ผู้รับบริการนอนหงาย
ใช้วัตถุปลายทู่เขี่ยบริเวณหน้าท้อง รอบๆสะดือเบาๆ
ลากเฉียงจากด้านนอกเข้าด้านใน
ทดสอบปฏิกิริยาของแก้วตา
เป็นการตรวจสอบการทำงานของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5
การตรวจปฏิกิริยาตอบสนองชนิดลึก
(Deep tendon reflex)
Triceps reflex
เป็นการตรวจสอบการทำงานของเส้นประสาท Cervical spinal nerve คู่ที่ 6-7 และ Radial nerve
ปลายแขนห้อน ใช้ไม้เคาะบริเวณเอ็นของกล้ามเนื้อ Triceps brachealis
Biceps reflex
เป็นการตรวจสอบการทำงานของเส้นประสาท Cervical spinal nerve คู่ที่ 5 และ Musculocutaneous nerve
ผู้รับบริการงอข้อศอกเล็กน้อย ผู้ตรวจวางนิ้วหัวแม่มือบน Biceps tendon กดปลายนิ้วหัวแม่มือลงเล็กน้อง ใช้ไม้เคาะรีเฟล็กซ์
Quadriceps reflex
Femoral nerve
การตอบสนองที่ปกติ ขาท่อนล่างจะเหยียดเนื่องจาก Quadriceps femolis
ให้ผู้รับบริการนั่งห้อย เท้าที่ขอบเตียง
ใช่ไม้เคาะรีเฟล็กซ์บริเวณ Patella tendon
เป็นการตรวจสอบการทำงานของเส้นประสาท Lumbar spinal nerve คู่ที่ 2-4