Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารและขับถ่ายและครอบครัว,…
การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารและขับถ่ายและครอบครัว
ปวดท้อง (Abdominal pain)
ปวดแบบเฉียบพลัน
อาการปวดท้องที่คงแสดงอาการอยู่ภายใน 24 ชม.
การรักษา
ควรรีบนำผู้ปวยมาพบแพทย์เมื่อมีอาการ
ไข้สูง อาเจียนเป็นสีเขียว (สีน้ำดี) ท้องอืด
อุจจาระสีดำ มีเลือดสดปนหรืออาเจียนเป็นเลือด ปวดท้องรุนแรงมากและปวดนานเกิน 6-8 ชั่วโมงขึ้นไป
ปวดเรื้อรัง
เป็ นๆหายๆ ปวดทุกสัปดาห์อย่างน้อย 2เดือน
การรักษา
เป้าหมายหลักในการรักษา คือ ให้เด็กสามารถเรียนรู้ปรับตัวกับอาการปวดท้องและใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเด็กปกติ
ESOPHAGO-GASTRO-DUODENO-SCOPY
การส่องกล้องเข้าไปในกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร
BARIUM SWALLOWING
การกลืนแป้ง Barium เพื่อตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และ ล าไส้ส่วนต้น
BARIUM ENEMA
การสวนลำไส้ใหญ่ด้วยแป้งแบเรียมเพื่อตรวจวินิจฉัยสำไส้ส่วนปลาย
อาการอาเจียน (Vomiting)
ลักษณะการอาเจียน
ลำไส้อุดตัน
อาเจียนรุนแรงหลังได้รับนม/อาหาร
ถ้ามีน้ำดีปน มีกลิ่นเหม็น แสดงถึงการอุดตันของทางเดินอาหารส่วนล่าง
การติดเชื้อ
มีไข้ปวดท้อง ถ่ายเหลว Bowel soundเพิ่มขึ้น
มีการบีบตัวของลำไส้มากกว่าปกติ hyperactive bowel sound
การให้นม/อาหารผิดวิธี
มักเกิดหลังให้นม/อาหาร ไม่นานลักษณะเป็นนมหรืออาหารที่ให้
โรคหรือความเจ็บป่วย
เลือดออกในทางเดินอาหาร coffee grounded ภาวะความดันในกะโหลกศีรษสูงอาเจียนพุ่ง
อาการอาหารในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับ (Gastroesophageal reflux : GER)
จะขย้อนเป็นนมที่ยังไม่ผ่านการย่อย
Physiologic GER
ทารกที่มีขย้อนอาเจียนหลังมื้อนมโดยไม่พบความผิดปกติอื่นรวมทั้งมีอัตราการเจริญเติบโตเป็นปกติ
Pathologic GER
อาการขย้อนอาเจียนที่พบภาวะแทรกซ้อนตามมาเช่น ปอดอักเสบเรื้อรัง (recurrent pneumonia) จากการสูดสำลัก เลี้ยงไม่โต (Failure to thrive)
การตรวจวินิจฉัย
Intraesophageal pH monitoring
ส่องกล้องตรวจหลอดอาหาร (Flexible esophagoscope)
Barium esophagogram
Radionuclide scanning
หลักการพยาบาล
เพื่อคงไว้ซึ่งอัตราการเจริญเติบโตปกติ และการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคและการรักษา
อุจจาระร่วง (Diarrhea)
ภาวะที่มีการถ่ายอุจจาระเหลว มากกว่า 3 ครั้ง/วัน หรือถ่ายมีมูกหรือปนเลือดอย่างน้อย 1 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ำมีปริมาณมาก ๆ เพียงครั้งเดียวต่อวัน หรือถ่ายอุจจาระมากกว่า 10 ml/ kg/day
Acute diarrhea
เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 2 สัปดาห์แล้วหายไป
อุจจาระร่วงแบบต่อเนื่อง (Persistent diarrhea)
การถ่ายอุจจาระร่วงฉับพลันที่เกิดจากการติดเชื้อ โดยมีอาการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
Chronic diarrhea
การถ่ายอุจจาระร่วงทุกวันติดต่อกัน นานมากกว่า 3 สัปดาห์ขึ้นไป
อาการแสดงทางคลินิก
Vibrio cholerae
มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ (watering stool) สีขาวขุ่นคล้ายน้ำซาวข้าว
Shigella และ Entamoeba histolitica
มักพบอาการไข้มากกว่า 38.5 อาศาเซลเซียส
ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำสีเขียว
กลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่า
ทานอาหารปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อแบคทีเรีย
เกิดอาเจียนรุนแรง อุจจาระร่วง ปวดท้องแบบตะคริว (cramping)
rotavirus
ไข้ ไอ 1-2 วัน จากนั้นจะอาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำปนกากอาหารไม่ย่อย หรือมีสีเหลืองเขียว มีฟอง เหม็นเปรี้ยว
Salmonella
อุจจาระเป็นน้ำสีเขียวมีมูกหรือมูกปนเลือด
Giardia Lambli
มีอาการท้องอืด ร้องงอแง ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน
ขาดเอ็นไซม์ย่อยนมแล็คเตส (Lactose intolerance)
มีอาการท้องอืด มีลมมาก ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำมีฟอง
มักมีอาการภายหลังดื่มนม 30-60 นาที
การได้รับน้ำผลไม้มากเกินไป
การแพ้นมวัว (Cow’s milk protein allergy)
โรคแพ้โปรตีนนมวัว (cow’s milk protein allergy)
IgE mediated cow’s milk allergy
แสดงอาการภายใน 2 ชั่วโมง หลังกินนมวัว
เกิดการแพ้รุนแรงที่มีอาการ หลายระบบพร้อมกัน anaphylaxis ได้
Non-IgE
มีอาการแพ้หลังจากกินนมวัวไปแล้วหลายชั่วโมงจนถึงหลายวัน
อาการในระบบทางเดินอาหาร
Mix IgE and non IgE
อาการแสดงหลัก atropic dermatitis และ eosinophilic Gastroenteritis
การรักษา
การงดนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว ไม่แนะนำให้ใช้นมแพะ
ผู้ป่วยที่งดนมวัวรวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมวัว พิจารณาให้ยาเม็ดแคลเซี่ยม
แม่ที่ให้นมบุตรที่แพ้นมวัว โดยแม่งดนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัว ควรได้รับแคลเซี่ยมที่ไม่มีนมวัว
นัดติดตามอาการของผู้ป่วยเป็นระยะ
ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
ลักษณะทางคลินิก
ระดับความรู้สึกตัว
สีผิว ลักษณะรอยบุ๋มของกระหม่อม
ความชุ่มชื้นของเยื่อบุผิว
สัญญาณชีพ
สมดุลสารน้ำและเกลือแร่ ปริมาณสารน้ำ
การรักษาสมดุลน้ำ
ทารกและเด็กจำเป็นต้องไห้รับสารน้ำชดเชย
ซึ่งแบ่งออกเป็นการให้สารน้ำทางปากและหลอดเลือดดำ
โดยการให้สารน้ำทดแทนทางปาก (ORT)
ภาวะขาดสมดุลโซเดียม
ภาวะโซเดียมต่ำ (Hyponatremia)
ระดับซีรั่มโซเดียม< 130 mEq/L
ปวดศีรษะ N/V ซึม กระวนกระวาย
Reflex ไว ชัก ไม่รู้สึกตัว หยุดหายใจ
การรักษา
แพทย์จะให้โซเดียมทดแทนในรูปของ 3% NaCl และ 0.9% NSS ร่วมกับการแก้ไข ป้องกันภาวะ water intoxication
ภาวะโซเดียมสูง (Hypernatremia)
ระดับซีรั่มโซเดียม> 150 mEq/L
ซึม กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อเกร็งกระตุก Reflex ไว เซลล์สมองเหี่ยว เส้นเลือดฝอยในสมองฉีกขาดเลือดออกในสมอง
ภาวะขาดสมดุลโปตัสเซียม
ภาวะโปตัสเซียมต่ำ (Hypokalemia)
ระดับซีรั่มโปตัสเซียม< 3.5 mEq/L
อาการของระบบกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (arrythmia)
กล้ามเนื้อลายเกิด hyperpolarization of membrane cell ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อเกิดการหดรัดตัวน้อยลง
การรักษา
แพทย์จะให้โปตัสเซียมทดแทนในรูปของการยารับประทาน KCl Elixir การหยดเข้าทางหลอดเลือดดำ KCl IV. solution,
ภาวะโปตัสเซียมสูง (Hyperkalemia)
ภาวะที่มีระดับโปตัสเซียมในซีรั่ม> 5.5 mEq/L.
กระสับกระส่าย ถ่ายเหลว กล้ามเนื้ ออ่อนแรง Flaccid paralysis Arrythmia , Bradycardia , หัวใจหยุดเต้นในจังหวะคลายตัว(K > 8)
การรักษา
การต้านพิษต่อหัวใจโดยใช้ 10% Calcium gluconate
การดึงโปตัสเซียมเข้าเซลล์โดยใช้ 7.5% NaHCO3, Insulin + Glucose, 0.5% Albuterol
การดึงโปตัสเซียมออกจากร่างกายโดยใช้ Kayexalate, Furosemide, หรือการทำDialysis
ภาวะขาดสมดุลของกรดด่าง
Metabolic acidosis
ซึมลง หายใจหอบลึก P เร็ว Arrhythmia
COลดลง BPลดลง Pul. HT
Metabolic alkalosis
กระสับกระส่าย ซึมลง กล้ามเนื้ ออ่อนแรง หายใจช้าและตื้น Pเร็ว arrythmia สับสน คลื่นไส้อาเจียน ชักกระตุก หยุดหายใจ
การรักษา
NSS ลดการดูดกลับ HCO3-, KCl ลดการขับ H+เพิ่มการขับ HCO3-
ปากแหว่ง/ เพดานโหว่ (Cleft lip/ Cleft palate)
มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและปัจจัยแวดล้อมที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในระยะ 12 wk
อาจเกิดจากมารดาขาดอาหาร มีการติดเชื้อ ใช้ยา หรือสารเสพติดขณะตั้งครรภ์
วิตามินเอ dilantin และ corticosteroid
ปากแหว่ง
Medial nasal elevation และ maxillary
process ไม่เชื่อมติดกันในระยะสัปดาห์ที่5-8 ของการตั้งครรภ
เพดานโหว่
เกิดจาก Palatine process ทั้งสองด้าน ไม่เชื่อมติดกับ Median palatine process และ Nasal septum ในระยะสัปดาห์ที่ 7-12 ของการตั้งครรภ
การรักษา
ใส่เพดานเทียม
การผ่าตัดตกแต่ง
Cleft Lip อายุ3 เดือน
Cleft Palate อายุ 1 ปี
speech therapy
หลอดอาหารตัน /และมีรอยต่อกับหลอดลม (Esophageal atresia และ Tracheo-esophageal fistula (TEF)
ทารกมีน้ำลายมาก หายใจเร็ว สำลักน้ำลาย ไอ ทำให้หน้าเขียว ตัวเขียว เมื่อให้นมหรือน้ำครั้งแรก ทารกจะสำลัก ไอ ขย้อนทันที และมีอาการเขียว
ISOLATED ESOPHAGEAL ATRESIA
หลอดอาหารตันโดยไม่มีทางติดต่อกับหลอดลม
ESOPHAGEAL ATRESIA
WITH PROXIMAL T-E FISTULA
หลอดอาหารตัน และมีทางติดต่อระหว่างหลอดอาหารส่วนบนกับหลอดลมคอ
ESOPHAGEAL ATRESIA
WITH DISTAL T-E FISTULA
หลอดอาหารตัน และมีทางติดต่อระหว่าง
หลอดอาหารส่วนล่างกับหลอดลมคอ
ESOPHAGEAL ATRESIA
WITH DOUBLE T-E FISTULA
หลอดอาหารตัน และมีทางติดต่อระหว่างหลอดอาหารส่วนบน- ล่างกับหลอดลมคอ
T-E FISTULA WITHOUT ESOPHAGEAL ATRESIA
หลอดอาหารไม่ตัน แต่มีทางติดต่อกับหลอดลม
การพยาบาล
ดูแลการหายใจให้มีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมประสิทธิภาพของการผ่าตัด หลีกเลี่ยงการเคาะปอด จัดท่านอน 30 องศา
ดูแลให้ได้รับสารน้ำสารอาหารทั้งในระยะก่อนและหลังผ่าตัด ประเมิน bowel sound
ติดตามภาวะโภชนาการ
ลำไส้กลืนกัน (Intussusception)
เป็นภาวะที่ทางเดินอาหารส่วนต้นเคลื่อนตัวเข้าไปในทางเดินอาหารส่วนที่อยู่ปลายกว่า โดยมักพบ Terminal ileum เคลื่อนเข้าไปใน Ascending colon
พยาธิสภาพ
1. ช่องลำไส้ (Lumen) แคบลงจนปิดสนิท ทำให้ทางเดินอาหารอุดตัน
2. ทั้งลำไส้และเยื่อที่ยึดลำไส้กับผนังหน้าท้องด้านหลัง (Messentery) ที่ถูกกลืนเข้าไปเกิดการดึงรั้ง ทำให้เยื่อบุผนังลำไส้หลั่งมูก (Mucous)
อาการและอาการแสดง
ร้องไห้รุนแรงจากปวดท้องตามการ
เคลื่อนไหวของลำไส้, อาเจียนมีน้ำดีปน ปวดท้องรุนแรง
ถ่ายอุจจาระเป็นมูกปนเลือด
(Currant jelly-like)
คลำพบก้อนคล้ายไส้กรอกด้าน RUQ ของช่องท้อง
การตรวจพบก้อนบริเวณช่องท้องส่วนบนด้านขวาใต้ชายโครง ก้อนคล้ายไส้กรอก (sausage-liked)
ห้ามรักษาโดยการใช้สวนด้วยแบเรียมและสวนด้วยลม
ลำไส้โป่งพอง (Hirschsprung’s disease)
ภาวะผิดรูปแต่กำเนิดของทางเดินอาหารส่วนปลายเนื่องจากไม่มีเซลล์ประสาทอัตโนมัติพาราซิมพาเธติคหรือที่เรียกว่า ganglion cells มาเลี้ยงที่ผนังกล้ามเนื้
อาการและอาการแสดง
มีลักษณะบิดคล้ายริบบิ้น (ribbon-like stool)
ในทารกแรกเกิด ถ่ายขี้เทาช้ากว่า 24 ชั่วโมงหลังคลอด
การรักษา
แบบประคับประคอง สวนล้างลำไส้ : ลดอาการท้องอืด ระบายอุจจาร
การผ่าตัด
การพยาบาล
ประเมินการท างานของล าไส้ bowel sound, วัดรอบท้องลดความไม่สุขสบายจากท้องอืด
ประเมิน / ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ส่งเสริมการผ่าตัด Anastomosis ให้มีประสิทธิภาพ
ความผิดปกติของผนังช่องท้อง
Omphalocele
การมีอวัยวะภายในช่องท้องยื่นออกมาภายนอกช่องท้องโดยมีถุงหุ้ม
Gastroschisis
การมีอวัยวะภายในช่องท้องยื่นออกมาภายนอกช่องท้องโดยไม่มีถุงหุ้ม
การรักษา
Omphalocele มีจุดประสงค์เพื่อ ผลักดันให้อวัยวะกับสู่ช่องท้องตามปกติ และป้องกันการติดเชื้อ การแตกของถุงหุ้มอวัยวะ
การพยาบาล
เตรียมความพร้อมในการผ่าตัด
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและอาหารเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับ
สารอาหารทางหลอดเลือดดำ (Total parenteral nutrition: TPN)
ประเมินการทำงานของระบบทางเดินอาหาร
ไส้เลื่อนกระบังลม (Diaphragmatic Hernia)
อาการ
หลังคลอดหายใจลำบาก อกบุ๋ม เขียว ท้องแฟบ (Scaphoid abdomen
Breath sound
ข้างที่ถูกเบียดHR จะเบาส่วนใหญจะเป็น Left Diaphragmatic hernia
Bowel sound
ความผิดรูปของรูทวารหนัก (Anorectal malformation)
อาการแสดง
ทารกแรกเกิดไม่ถ่ายขี้เทา
มีเยื่อบางปิดรูทวารหนัก
มีขี้ เทาหรืออุจจาระออกทางท่อทางเดินปัสสาวะ / ช่องคลอด
มี 5 ลักษณะ
Anal stenosis
มีการตีบแคบของช่องทวารหนัก
Imperfolate anal membrane
มีเยื่อบางปิดกั้นรูทวาร
Anal atresia without fistula
ไม่มีรูเปิดของทางเดินทวารหนัก และ
ไม่มีรูทะลุไปอวัยวะอื่น
Anal atresia with fistula
Rectum ลงมาไม่ถึงกล้ามเนื้ อหูรูดทวารหนัก และมีรูทะลุกับอวัยวะอื่น
Rectal atresia
Rectum บางส่วนหายไป ลงมาไม่ถึงกล้ามเนื้ อหูรูดทวารหนัก แต่มีทวารหนักปกติ
การพยาบาล
ประเมินร่างกายทารกแรกเกิด
ไม่ถ่ายขี้ เทาใน 24 ชม.
และทดสอบวัดปรอททางทวารหนัก
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลัง Anoplasty
งดการวัดปรอททางทวารหนัก /การสวนทวารหนัก หลังผ่าตัดสัปดาห์แรก
ส่องไฟให้แผลแห้ง
ป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
ขยายรูทวารหนักตามแผนการรักษาหลังการผ่าตัด
นางสาวธัญพิชชา เหล่านอก รหัสนิสิต 62560571