Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Case Analysis, จัดทำโดย : นางสาวจริยาพร เชื้อกุดรู
(รหัส 611001006) -…
Case Analysis
ปัญหาสุขภาพ
Elderly gravidarum
มารดา
ภาวะแทรกซ้อนทางอายุรกรรม เช่น DM, HT
-
-
-
-
-
การพยาบาล
- เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี
-
-
เกณฑ์การประเมิน
สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติดังนี้
ชีพจร 60-100 ครั้ง/นาที
ความดันโลหิต 90/60 -140/90 มิลลิเมตรปรอท
อัตราการหายใจ 20-24 ครั้ง/นาทีสม่ำเสมอ
-
-
กิจกรรมการพยาบาล
- แนะนำมารดาและสอนให้คลึกมดลูกด้วยตนเอง ทุก 30 นาที
- ดูแลให้ได้รับ 5%D/NSS 1,000 ml + syntocinon 30 ยูนิต iv rate 100 ml/hr และผลข้างเคียงของยา ทำให้มีไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียนและถ่ายเหลวได้
- สังเกตการหดรัดตัวของมดลูก ประเมินปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอด โดยให้ใส่ผ้าอนามัยไว้ ประเมินปริมาณน้ำคาวปลา ปริมาณไม่ควรเกิน 1 ผืนต่อชั่วโมง
- ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้พับงอ เพื่อให้ปัสสาวะไหลสะดวก ไม่มีปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะ ไม่ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
- .แนะนำให้นำบุตรมาดูดนมมารดาทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ต่อมใต้สมองส่วนหลัง หลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งจะทำให้มดลูกหดรัดตัวดี ป้องกันการตกเลือด
- แนะนำให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3-4 ชั่วโมงหรือเมื่อชุ่ม เพื่อประเมินสี ปริมาณและลักษณะของน้ำคาวปลา
-
-
-
-
-
กิจกรรมการพยาบาล
1.จัดท่านอนที่ช่วยในการลดการปวดแผลฝีเย็บ โดยควรนอนตะแคงซ้ายเนื่องจากตัดแผลฝีเย็บทางด้านขวาเพื่อลดแรงกดต่อแผลฝีเย็บและลดอาการปวด (พัชรา, 2561)
2.จัดกระเป๋าน้ำแข็งประคบบริเวณแผลฝีเย็บใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอดเพราะความเย็นจะส่งผลให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้อาการปวดและบวมลดลง (พัชรา, 2561)
3.สอนเทคนิคการผ่อนคลายโดยการบริหารการหายใจเป็นจังหวะ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเบี่ยงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด
4.แนะนำการทำความสะอาดแผลฝีเย็บด้วยน้ำอุ่นหลังการอาบน้ำโดยล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และเช็ดให้แห้งจากด้านหน้าไปด้านหลัง ขณะทำความสะอาดไม่ควรแยกแคม เพราะจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดได้
5.แนะนำให้ล้างฝีเย็บทุกครั้งหลังปัสสาวะหรืออุจจาระ และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าหรือกระดาษชำระจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด
6.แนะนำการบริหารฝีเย็บ เช่น การทำ Kegel exercise โดยให้ขมิบช่องคลอด ซึ่งจะต้องทำวันละ 100-300ครั้ง เพื่อส่งเสริมการหายของแผล และช่วยให้กล้ามเนื้อรอบช่องคลอดและฝีเย็บแข็งแรงและหดรัดตัวดี
7.ดูแลให้มารดาหลังคลอดรับประทานยาบรรเทาปวด Paracetamal (500mg) 1 เม็ด เพื่อบรรเทาอาการปวดและให้สุขสบายขึ้น (พัชรา, 2561)
-
Nursing diagnosis
มารดา
- เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกไม่ดี
-
-
- มีอาการเหนื่อยล้า เนื่องจากสูญเสียพลังงานจากการคลอด
- ขาดความรู้ในการวางแผนครอบครัว
ทารก
- ทารกมีโอกาสเกิดภาวะ Hypothermia เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายยังเจริญสมบูรณ์ไม่เต็มที่
- ทารกอาจเกิดภาวะ Hypoglycemia
การพยาบาล (ต่อ)
- มีอาการเหนื่อยล้า เนื่องจากสูญเสียพลังงานจากการคลอด
-
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้นอนพักโดยปฏิบัติกิจกรรมพยาบาลให้พร้อมในเวลาเดียวกันเพื่อรบกวนมารดาหลังคลอดให้น้อยที่สุดเพื่อให้พักผ่อนได้เต็มที่
-
-
- ดูแลและแนะนำการรักษาทำความสะอาดร่างกาย เพื่อให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
- อาจจะมีการให้ดื่มน้ำหวาน เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้
- ขาดความรู้ในการวางแผนครอบครัว
-
กิจกรรมการพยาบาล
-
-
-
- ให้คำแนะนำมารดาในการฉีดยาคุมกำเนิด
-
4.2 ก่อนฉีดยาคุมกำเนิดจะต้องมั่นใจว่ามารดาไม่ได้ตั้งครรภ์หากมารดามีเพศสัมพันธ์ก่อนมาฉีดยาคุมกำเนิดจะต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนถึงจะฉีดยาคุมกำเนิดได้ โดยเริ่มฉีดได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 ของการมีประจำเดือนและระหว่างรอประจำเดือนมาหาก ต้องการมีเพศสัมพันธ์จะต้องสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
4.3 ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดียวไม่มีผลต่อการผลิต น้ำนม ดังนั้นหลังคลอดสามารถฉีดได้ทันที หรือ ฉีด 4- 6 สัปดาห์หลังคลอด (ยกเว้นชนิดฮอร์โมนรวม)
-
4.5 ควรมาฉีดยาคุมกำเนิดตามนัด (DMPA ฉีดทุก 84 วัน และ NET-EN ฉีดทุก 60 วัน) ในกรณีไม่สามารถมาตามนัดได้ ไม่ควรมาก่อนหรือหลังกำหนด 2 สัปดาห์
-
4.7 แนะนำภาวะเจริญพันธุ์ภายหลังหยุดใช้ยาจะมี ประจำเดือนมาปกติภายใน 6 เดือน มากกว่าร้อยละ 50 และประจาเดือนมาปกติภายใน 1 ปี ร้อยละ 85 จากการศึกษาพบว่าหลังจากหยุดฉีดยาแล้วจะตั้งครรภ์ได้ช้ากว่าผู้หยุดใช้ยาเม็ดคุมกาเนิดและห่วงอนามัยประมาณ 2-3 เดือน
- อธิบายถึงข้อดีของยาฉีดคุมกำเนิด
-
-
-
5.4 ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดียวจะไม่มีอาการ ข้างเคียงจากฮอร์โมน estrogen เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หน้าเป็นฝ้า
-
-
การพยาบาล (ด้านทารก)
- ทารกมีโอกาสเกิดภาวะ Hypothermia เนื่องจากศูนย์ควบคุมอุณหภูมิร่างกายยังเจริญสมบูรณ์ไม่เต็มที่
-
กิจกรรมการพยาบาล
- ดูแลทารกให้ได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอ สังเกตุจากทารกตัวอุ่น ผิวแดงดี ควรสวมหมวก ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ห่มผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ
- ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลงของร่างกายทารก
- ประเมินภาวะอุณหภูมิต่ำ เช่น อาการซึม หัวใจเต้นช้าลง หายใจช้าลง ริมฝีปากปลายมือปลายเท้าเขียว แขนขาเย็น
- ประเมินภาวะอุณหภูมิสูง เช่น หน้าแดง หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็วขึ้น ผิวหนังร้อนกวาปกติ
- ดูแลให้การพยาบาลอย่างนุ่มนวล เช่น การเปลี่ยนผ้า การเช็ดตัว หรืออาบน้ำเด็ก ด้วยความรวดเร็ว เพื่อป้องกันภาวการณ์สูญเสียความร้อนออกนอกร่างกาย
- ดูแลความสะอาดร่างกายทารกให้แห้งตลอดเวลา ไม่ควรปล่อยให้ทารกเปียกหรือแฉะ โดยเปลี่ยนผ้าร้องก้อน ผ้าปูทุกครั้งที่อุจจาระ ปัสสาวะ
- แนะนำให้มารดาสังเกตลักษณะของทารกว่ามีภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ หรือไม่ คือ ผิวเย็นซีด คล้ำ ซึม ดูดนมช้า ดูดนมน้อยลงน้ำหนักลดลง ปัสสาวะลดลง อาเจียน หรืออาจหยุดหายใจ เป็นต้น หากมีต้องรีบเพิ่มความอบอุ่นให้ทารก และแจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลทันที
- แนะนำให้มารดาโอบกอดทารก เพื่อเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกาย
- ปรับอุณหภูมิห้องให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม อุณหภูมิห้องให้เหมาะสมคือ 26 - 28 องศาเซลเซียส
- ทารกอาจเกิดภาวะ Hypoglycemia
-
กิจกรรมการพยาบาล
- ดูแลให้ทารกได้รับนมมารดา หรือนมผสม ซึ่งมีสารอาหารโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่สูงกว่านมผสมสำหรับทารกครบกำหนด และเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของทารกเกิดก่อนกำหนด รวมทั้งดูแลให้ทารกได้รับสารน้ำ และสารอาหารทางหลอดเลือดดำ ตามแผนการรักษา
2.แก้ไข และป้องกันสาเหตุที่ส่งเสริมให้ทารกมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น ภาวะที่มีอุณหภูมิร่างกายต่ำ ภาวะขาดออกซิเจน เป็นต้น
3.ติดตามผลระดับน้ำตาลในเลือด และประเมินอาการทางคลินิกของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น สั่นระรัวของมือและเท้า (Tremor) สั่นกระตุก (Jitteriness) หายใจไม่สม่ำเสมอ ความตึงตัวของกล้ามเนื้อไม่ดี (Hypotonia) หยุดหายใจ (Apnea) รับนมไม่ดี (Poor feeding) ร้องเสียงแหลม ชักและอุณหภูมิกายต่ำ เป็นต้น
Diagnosys
Elderly gravidarum with Mild pre-eclampsia without severe features with Malposition (OPP) with ND. vaccuum extrction with SGA
-