Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิเคราะห์ ภาพยนต์สั้น Abeautiful Mind ครั้งที่ 1 - Coggle Diagram
วิเคราะห์ ภาพยนต์สั้น Abeautiful Mind ครั้งที่ 1
John มีอาการป่วยทางจิตหรือไม่และมีอาการอย่างไร
John มีอาการทางจิต คาดการณ์ว่าป่วยเป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia)
วินิจฉัยตาม DSM V
A.มีอาการต่อไปนี้ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไปนาน 1 เดือนต้องมีอาการในข้อ 1-3 อยู่ 1 อาการ
1.อาการหลงผิด
คิดว่าผูู้อื่นจะตามมาปองร้ายและคิดว่ามีคนตามมาทำร้ายตนเอง ภรรยา และลูก
คิดว่าตนเองเป็นสายลับทำงานเพื่อไขรหัสลับของกองทัพรัสเซีย
คิดว่าจิตแพทย์ที่รักษาตนเองเป็นสายลับรัสเซีย
2.อาการประสาทหลอน
มองเห็นชาร์ลมาช่วยเลี้ยงลูกและยังบอกกับภรรยาตอนที่รับดูแลลูกไว้ว่า ชาร์ลมาช่วยอาบน้ำให้ลูก แต่จริงๆแล้วเขาอยู่เพียงลำพังไม่มีใครอยู่กับเขา
เกือบทำร้ายภรรยาและลูก เนื่อจากเห็นคนในกองทัพตามตัวเองมาที่บ้านและได้ยินเสียงพูดว่า "คุณต้องหยุด เธอจะเปิดเผยความลับของเรา" ในตอนที่ภรรยากำลังโทรหาจิตแพทย์
เห็นชาร์ลเป็นรูมเมทตั้งแต่มหาลัยและเห็นชาร์ลอยู่ด้วยในทุกๆช่วงเวลา และยังมองเห็นหลานสาวของชาร์ลทั้งที่จริงๆแล้วสองคนนั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง
4.พฤติกรรมไม่มีระเบียบแบบแผนและเคลื่อนไหวผิดแปลกไปจากปกติ
มักจะเดินหลังค่อมและไม่สบตาใคร
มองซ้ายมองขวาตลอดเวลา มองด้วยสายตาหวาดระแวง
5.อาการด้านลบ (Negative symptoms)
มีอาการทื่อ เฉยเมย อุ้มลูกไว้เฉยๆบนตัก
ไม่มีความรู้สึกทางเพศ ไม่สามารถร่วมเพศกับภรรยาได้
B.มีความเสื่อมหรือปัญหาในด้านการเข้าสังคมหรือการประกอบอาชีพ
ไม่ชอบเข้าสังคม John พูดว่า "ผมไม่ค่อยชอบคนอื่นและคนอื่นก็คงไม่ชอบผมเหมือนกัน"
ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่ชอบทำกิจกรรมรวมกับผู้อื่น
C.มีอาการต่อเนื่องกันนาน 6 เดือนขึ้นไป
John มีอาการประสาทหลอนมานานหลายปี เริ่มตั้งแต่ที่เขาเห็นว่าชาร์ลเป็นรูมเมทของตัวเองตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย
เกณฑ์การวินิจฉัยโรคจิตเภท (Schizophrenia) ตาม DSM V มีดังนี้
A.มีอาการต่อไปนี้ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไปนาน 1 เดือนต้องมีอาการในข้อ 1-3 อยู่ 1 อาการ
1.อาการหลงผิด(delusion) มีความเชื่อที่ผิดๆในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ไม่เป็นความจริงไม่ามารถเปลี่ยนความคิดของผู้ป่วยได้
2.อาการประสาทหลอน ( hallucination)
3.การพูดแบบไม่มีระเบียบแบบแผน (disorganized speech)
4.พฤติกรรมไม่มีระเบียบแบบแผนและเคลื่อนไหวผิดแปลกไปจากปกติ (grossly disorganized or catatonic behavior)
5.อาการด้านลบ (Negative symptoms) ได้แก่ ความคิดอ่านและการพูดลดลง ไม่พูดหรือพูดน้อย (alogia) ,บกพร่องทางเชาวน์ความคิด (Cognitive deficit),อารมณ์ทื่อ (blunted affect) และเฉยเมย ไม่ยินดียินร้าย (anehedonia)
B.มีความเสื่อมหรือปัญหาในด้านการเข้าสังคมหรือการประกอบอาชีพ
ขาดความสนใจในการเข้าสังคมและกิจกรรมที่เคยสนใจ ไม่มีสัมพันธภาพกับใคร (lack of socialization)
ไม่ดูแลสุขภาพอนามัยส่วนตัว
C.มีอาการต่อเนื่องกันนาน 6 เดือนขึ้นไป
โดยต้องมี active phase (ตามข้อA) อย่างน้อยนาน 1 เดือนและที่เหลืออาจเป็น prodromal หรือ residual phase
การประยุกต์ใช้กระบวนการพยาบาลในการพยาบาลผู้ป่วยจิตเภท
1.พยาบาลสร้างสัมพันธภาพแบบ one to one เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัย และไว้วางใจ จัดเวลาเข้าไปพบและพูดคุยกับผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
2.พยาบาลต้องตระหนักว่าความคิดของผู้ป่วยเป็นความคิดที่ยึดแน่นและผู้ป่วยเชื่อว่าเป็นจริงตามนั้น
3.พยาบาลต้องแสดงการยอมรับอาการประสาทหลอนของผู้ป่วยซึ่งทำได้โดยการรับฟังและไม่โต้แย้ง แต่ถ้าผู้ป่วยถามพยาบาลว่าเห็นหรือได้ยินเช่นเดียวกับผู้ป่วยหรือไม่ พยาบาลควรตอบให้ผู้ป่วยรู้ว่าพยาบาลไม่เห็นหรือไม่ได้ยิน
4.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยพูดถึงอาการประสาทหลอนและหาวิธีที่จะทำให้ผู้ป่วยเผชิญอาการประสาทหลอนของเขาอย่างเหมาะสม เช่น ใช้เสียงของเขาเองที่จะโต้ตอบกับเสียงที่เขาได้ยินหรือรีบมาบอกพยาบาลถ้าเขาเห็นภาพบางอย่างไม่เป็นจริง
5.หากพบเห็นผู้ป่วยที่กำลังแสดงอาการประสาทหลอน พยาบาลควรบอกสิ่งที่เป็นจริงกับผู้ป่วยในขณะนั้น เช่น ผู้ป่วยบอกว่ามีแม่มาหา ซึ่งขณะนั้นไม่มีแม่ผู้ป่วย พยาบาลควรบอกให้ผู้ป่วยรู้ว่าไม่เห็นแม่ของเขา
6.ไม่ส่งเสริมและลดโอกาสในการเกิดอาการประสาทหลอนต่างๆโดยการสนทนากับผู้ป่วยด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนเรียกชื่อผู้ป่วยให้ถูกต้องและกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
7.สำหรับผู้ป่วยที่มีความคิดแบบหวาดระแวง พยาบาลควรปฏิบัติดังนี้
7.2.การปฏิบัติตัวต่อผู้ป่วยต้องคงเส้นคงวาเมื่อมีข้อตกลงกันแล้วจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลง
7.3.การเข้าไปสนทนากับผู้ป่วยต้องแนะนำตัว และบอกวัตถุประสงค์ให้จัดเจน
7.1.พยาบาลต้องไม่ทำให้ผู้ป่วยสงสัยในพฤติกรรมของพยาบาลเพราะผู้ป่วยจะระมัดระวังตัว
7.4.หลักเหลี่ยงการเข้าไปจับต้องผู้ป่วย และไม่ควรใช้ภาษาหรือกิริยาที่ก่อให้เกิดความสงสัยหรือตีความได้ไม่ชัดเจน
8.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้เป็นตัวของตัวเอง โดยกระตึ้นให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมกับสมาชิกอื่นที่ผู้ป่วยพอใจและพยาบาลควรให้กำลังใจหรือเสริมแรงเมื่อเห็นผู้ป่วยร่วมในกิจกรรม
9.เมื่อสัมพันธภาพดำเนินมาสักระยะ พยาบาลควรชักชวนผู้ป่วยเช้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ซึ่งกิจกรรมระยะแรกควรเป็นกิจกรรมง่ายๆ ไม่ต้องใช้ความสามารถเแพาะตัว และมีสมาชิดกลุ่มไม่มากเกินไปกระตุ้นให้ผู้ป่วยสื่อสารมากขึ้น
John ควรได้รับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือไม่
John ควรได้รับรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยเหตุผลดังนี้
เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตนเอง ภรรยาและลูกจากการอาการประสาทหลอน
เขาไม่ยอมรับประทานยาโดยนำยาไปเก็บไว้ในกล่อง
ได้รับผลข้างเคียงจากยาทำให้ไม่มีความรู้สึกทางเพศ