Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลระยะ Latent phase - Coggle Diagram
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลระยะ Latent phase
เสี่ยงต่อภาวะ fetal distressเนื่องจากมีการหดรัดตัวของมดลูก
ข้อมูลสนับสนุน
S : - มารดาบอกว่ารู้สึกปวดบั้นเอวและมดลูกหดรัดตัวถี่ขึ้นทุก10นาทีร่วมกับมีมูกปนเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย
O: - เวลา 06.00 น. Cx. Dilate 2 cms ,effacement 50%, Membrane Intact, Station 0 Interval 7' , Duration 30 " , Severity +
วัตถุประสงค์การพยาบาล
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน ( Fetal distress)
เกณฑ์การประเมินผล
ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ อยู่ระหว่าง 110 -160 ครั้ง ต่อนาที อย่างสม่ำเสมอ
การเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์มี variability และไม่มี late deceleration
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกระยะ Latent phase ทุก 1 ชั่วโมง
ประเมินสภาพทารกในครรภ์ โดยการฟังอัตราการเต้นของหัวใจทารกทุก 1 ชั่วโมง หรือทุกครั้ง
หลังมดลูกหดรัดตัว หากพบว่า < 110 นาที ให้รีบรายงานแพทย์
จัดท่านอนตะแคงซ้าย เพื่อช่วยให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกและนำออกซิเจนไปเลี้ยงทารก
แนะนำมารดาสังเกตลูกดิ้นหลังรับประทานอาหารเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เช้า เที่ยง เย็น แต่ละครั้งเด็กไม่ควรดิ้นน้อยกว่า3ครั้งและใน 24 ชั่วโมงไม่ควรดินน้อยกว่า 12 ครั้ง
6.รายงานเมื่อพบFetal distress เช่น มดลูกมีการหดรัดตัวถี่และรุนแรงมาก(Tetanic contraction) EFM มี late deceleration หรือ variable deceleration
On monitor EFM เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงทารกในครรภ์
ส่งเสริมความก้าวหน้าทางการคลอด (ระยะ Latent Phase)
ข้อมูลสนับสนุน
S : - มดลูกหดรัดตัวถี่ขึ้นทุก 10 นาที
มีมูกใสและมีมูกใสปนเลือดทางออกทางช่องคลอด
O : - เวลา 06.00 น.
PV ได้ cervix dilatation 2 cm. effacement 50 % , Membrane Intact , Station 0, interval 7 นาที, duration 30 วินาที, Severity +
มีมูกปนเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย
วัตถุประสงค์การพยาบาล
ความก้าวหน้าของการคลอดดำเนินเป็นปกติ
เกณฑ์การประเมินผล
การหดรัดตัวของมดลูก Interval = 5-10 นาที, Duration = 15-30 วินาที ความรุนแรง + - ++
ใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง เฉลี่ย 5 ชั่วโมง แต่ไม่ควรเกิน 14 ชั่วโมงในระยะ Latent phase
ปากมดลูกเปิดขยาย 0.5 cm./hr.
กิจกรรมการพยาบาล
จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการพักผ่อนและให้ผู้คลอดรู้สึกสุขสบาย ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าที่อาจเกิดขึ้นโดยลดปัจจัยที่มารบกวน เช่น แสงสว่าง เสียง กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เป็นต้น
ดูแลทางด้านจิตใจพยาบาลควรสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้คลอดเพื่อให้เกิดความไว้วางใจเปิดโอกาส
ให้ผู้คลอดได้ซักถามหรือระบายความรู้สึกในช่วงต้น (latent phase)
ดูแลปรับเปลี่ยนท่า ควรดูแลให้ผู้คลอดอยู่ในท่าที่ทำให้ทารกในครรภ์เคลื่อนลงต่ำตามแรงโน้มถ่วงของโลกได้ง่าย ได้แก่ ท่านั่ง ท่ายืน นอนศีรษะสูง หรือการเดินในรายที่ไม่มีข้อห้าม
ลงบันทึก Partograph
กระตุ้นให้ปัสสาวะทุก 2-4 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้กระเพาะปัสสาวะเต็ม
บอกมารดาให้ทราบเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการคลอดระยะนี้ และอธิบายให้ทราบเกี่ยวกับกิจกรรมการ
พยาบาลที่ปฏิบัติต่อมารดา เช่น การตรวจการหดรัดตัวของมดลูก การฟังเสียงหัวใจทารก
ตรวจภายในประเมินความก้าวหน้าของการคลอดดูทุก 4 ชั่วโมงหรือเมื่ออยากเบ่งคลอดเพื่อประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดโดยการประเมินการหดรัดตัวทุก 1 ชั่วโมง
ดูแลให้ได้รับอาหารที่เพียงพอเป็นการป้องกันการเกิดอาการอ่อนล้าของผู้คลอด ให้รับประทานอาหารจำพวกน้ำผลไม้ น้ำหวาน ชา เจลลี่ ไอศกรีม โยเกิร์ต จะทำให้ผู้คลอดรู้สึกสดชื่นและช่วยป้องกันภาวะความเป็นกรดในร่างกายมากไป (ketosis)
มีความวิตกกังวลและความกลัวต่อการเจ็บครรภ์และการคลอด
ข้อมูลสนับสนุน
S : - ผู้คลอดซักถามเรื่องการคลอด
ผู้คลอดบอกว่าเจ็บท้องถี่ขึ้น
O : - ผู้คลอดลูบหน้าท้อง - สีหน้าวิตกกังวล
วัตถุประสงค์การพยาบาล
ผู้คลอดมีความวิตกกังวลและความกลัวต่อการเจ็บครรภ์และการคลอดลดลง
เกณฑ์การประเมินผล
มารดาคลายความวิตกกังวล
มารดามีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคลอด การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อร่างกาย สามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง
กิจกรรมการพยาบาล
ส่งเสริมความไว้วางใจ โดยสร้างสัมพันธภาพที่ดี เพื่อให้ผู้คลอดกล้าซักถามปัญหาหรือข้อข้องใจ
ช่วยให้ผู้คลอดคลายความวิตกกังวลและความกลัวโดยปฏิบัติ ดังนี้
อยู่เป็นเพื่อนปลอบใจให้กำลังใจ และเป็นที่ปรึกษาของผู้คลอด รับฟังและพร้อมที่จะแก้ปัญหาต่างๆแก่ผู้คลอด
ให้การพยาบาลผู้คลอดโดยการใช้คำพูดที่สุภาพ ชัดเจน เข้าใจง่าย
เปิดโอกาสให้ผู้คลอดชักดามปัญหา และกระตุ้นให้ผู้คลอดระบายความรู้สึกต่างๆ
ประเมินความวิตกกังวลและความรู้เกี่ยวกับกลไกการคลอด การเจ็บครรภ์ และการผ่าตัดคลอดโดยการซักถามและจากการสังเกตพฤติกรรม
ประเมินสภาพผู้คลอดและทารกในครรภ์ เพื่อประเมินว่าผู้คลอดอยู่ในระยะใดของการคลอดพร้อมทั้งบอกผลการประเมินให้ทราบ
ให้โอกาสผู้คลอดได้ติดต่อกับญาติ โดยพยาบาลเป็นสื่อกลางแจ้งข้อมูลข่าวสารการเยี่ยมของสามีและญาติไห้สู่คลอดทราบ
7.อธิบายให้ผู้คลอดทราบถึงเหตุผลของการรักษาพยาบาลและผลการตรวจทุกครั้งถึงความก้าวหน้าของการคลอดเพื่อให้ผู้คลอดคลายความวิตกกังวลและมีความกลัวลดลงด้วย
ประเมินความต้องการของผู้คลอด กระตุ้นให้ผู้กลอดบอกถึงความรู้สึกที่แท้จริงและให้การตอบสนองอย่างเหมาะสม