Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายวิชาชีพ - Coggle Diagram
กฎหมายวิชาชีพ
ความหมายการพยาบาล การผดุงคครภ์
การพยาบาล หมายถึง การกระทำต่อมนุษยืเกี่ยวกับการดูแลและการช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย การฟื้นฟูสภาพ การป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งการช่วยเหลือแพทย์กระทำการรักษาโรค ทั้งนี้อาศัยหลักวิทยาศาสตร์และศิลปะการพยาบาล
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล
การประกอบวิชาชีพการพยาบาล หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่การพยาบาลต่อบุคคล ครอบครัว และชุมชน โดยกระทำการดังนี้
ดูและและช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วย
ช่วยแพทย์รักษาโรคและฟื้นฟูสภาพ
การป้องกันโรค
การส่งเสริมสุขภาพ
การผดุงครรภ์ หมายถึง การกระทำเกี่ยวกับการดูแลและช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอดและทารกแรกเกิด รวมถึงการตรวจ การทำคลอด การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันความผิดปกติใน
ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์
การประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่การผดุงครรภ์ต่อหญิงมีครรภ์ หญิงหลังคลอด ทารกแรกเกิดและครอบครัว โดยกระทำการดังนี้
การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันการเกิดโรค
ความผิดปกติระยะตั้งครรภ์
ส่งเสริมและป้องกันความผิดปกติ
ระยะคลอด
ระยะหลังคลอด
ช่วยแพทย์รักษาโรค
ความแตกต่างระหว่าง การพยาบาล การผดุงครรภ์ และเวชกรรม
เวชกรรม
วิชาชีพเวชกรรมหมายถึง วิชาชีพที่กระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจโรค การวินิจฉัยโรค การบำบัดโรค การป้องกันโรค การผดุงครรภ์ การปรับสายตาด้วยเลนส์สัมผัส การแทงเข็มหรือการฝังเข็มเพื่อบำบัด
มอบหมายให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
มีหลายด้านได้แก่
อายุรกรรม
ศัลยกรรม
สูตินรีเวชกรรม
เสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันโรค
1 more item...
เทคนิคการแพทย์
วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ หมายความว่า วิชาชีพที่กระทำต่อมนุษย์เพื่อให้ได้ในสิ่งตัวอย่างทางการแพทย์และการดำเนินการโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนดลยีการตรวจ ทดสอบ วิเคราะห์ วิจัย และการรายงานผลตรวจ เพื่อการวินิจฉัย การติดตามการรักษา
ข้อบังคับ เงื่อนไขฉบับที่ 2
กายภาพบำบัด
ตามกฎหมาย การประกอบวิชาชีพพยาบาล มีการฟื้นฟูสภาพด้วย ดังนั้น ไม่เป็นการละเมิดวิชาชีพกายภาพบำบัด
แพทย์แผนไทย
หมายความว่า กระบวนการทางการแพทย์เกี่ยวกับการตรวจ วินิจฉัย บำบัด รักษา หรือป้องกันโรค หรือการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพของมนุษย์ การผดุงครรภ์ การนวดไทย ฯ โดยอาศัยความรู้หรือตำราที่ได้ถ่ายทอดและพัฒนาสืบไป
การจ่ายยารักษาผู้ป่วย
ตามข้อบังคับสภาฯ ว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขการประกอบวิชาชีพ มีการรักษาโรคเบื้องต้นด้วย โดยต้องอบรมเวชปฏิบัติทั่วไป (รักษาโรคเบื้องต้น) และต้องขึ้นทะเบียนฯ และทำการตรวจวินิจฉัยรักษาตามคู่มือ และให้ยาตามคู่มือของสภาการพยาบาล จึงสามารถให้ยาได้ในขอบเขตของคู่มือ
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาล
และการผดุงครรภ์ (ต่อ)
หมวดที่ 3 คณะกรรมการ
มาตรา 14 ให้มีคณะกรรมการสภาการพยาบาล ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข 5 คน
ผู้แทนกระทรวงกลาโหม 3 คน
ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 1 คน
ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัย 4 คน
ผู้แทนกรุงเทพมหานคร 1 คน
ผู้แทนสภากาชาดไทย 1 คน
นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยและสมาชิกสามัญสภาการพยาบาลอีก 16 คน
ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยสมาชิกสามัญของสภาการพยาบาลเป็นกรรมการ และให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา 15 คณะกรรมการอาจแต่งตั้งสมาชิกกิตติมศักดิ์หรือสมาชิกสามัญเป็นกรรมการที่ปรึกษาได้ ทั้งนี้ จำนวนกรรมการที่ปรึกษาต้องไม่เกิน 1 ใน 4 ของคณะกรรมการ
มาตรา 16 ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งนายกสภาการพยาบาลอุปนายกสภาการพยาบาลคนที่ 1 และอุปนายกสภาการพยาบาลคนที่ 2 ตำแหน่งละ 1 คน
มาตรา 17 การเลือกตั้งกรรมการตามมาตรา 14 การแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาตามมาตรา 15 และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆตามมาตรา 16 ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา 18 กรรมการนอกจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรรมการที่ปรึกษาต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1)เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
2)ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
3)ไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลาย
มาตรา 19 ให้กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้งมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งหรือรับเลือกตั้งใหม่ได้แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองคราวตืดต่อกันไม่ได้
มาตรา 20 นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ กรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งและรับเลือกตั้งพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
1) สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามาตรา 13
2)ขาดคุณสมบัติตามาตรา 18
3) ลาออก
มาตรา 21 ในกรณีตำแหน่งกรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งว่างลงไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการดังกล่าวทั้งหมดก่อนครบวาระให้คณะกรรมการเลือกสมาชิกสามัญผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 18 เป็นกรรมการแทนภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ตำแหน่งกรรมการนั้นว่างลง
มาตรา 22 ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1)บริหารกิจการสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด มาตรา 7
2)แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมอื่นเพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่างๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสภาการพยาบาล
3)ออกข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา 23 นายกสภาการพยาบาล อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่ 1 อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่ 2 เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่ 1
เป็นผู้ช่วยนายกสภาการพยาบาลในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายกสภาการพยาบาลตามที่นายกสภาการพยาบาลมอบหมาย
อุปนายกสภาการพยาบาลคนที่ 2
เป็นผู้ช่วยนายกสภาการพยาบาลในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายกสภาการพยาบาลตามที่นายกสภาการพยาบาลมอบหมายเมื่อทั้งนายกสภาการพยาบาลและอุปนายกสภาการพยาบาลไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
เลขาธิการมีอำนาจหน้าที่
ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาการพยาบาลทุกระดับ
ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการทั่วไปของสภาการพยาบาล
รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก และทะเบียนอื่นๆ
ควบคุม ดูแล ทรัพย์สิน ของสภาการพยาบาล
*เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
รองเลขาธิการเป็นผู้ช่วยเลขาธิการของสภาการพยาบาลในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการตามที่เลขาธิการมอบหมาย และเป็นผู้ทำการแทนเลขาธิการ เมื่อเลขาธิการไม่อยู่
นายกสภาการพยาบาลมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
ดำเนินกิจการของสภาการพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ หรือตามมติของกรรมการ
เป็นผู้แทนสภาการพยาบาลในกิจการต่างๆ
*เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ
ประชาสัมพันธ์มีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ แนะนำ เผยแพร่กิจการของสภาการพยาบาลแลพให้การศึกษาแก่ประชาชน และองค์กรอื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับการพยาบาล
เหรัญญิกมีอำนาจหน้าที่ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการบัญชี การเงินและการงบประมาณของสภาการพยาบาล
หมวดที่ 4 การดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
มาตรา 24 การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเพียง 1 เสียง ในการลงคะแนน ถ้าเสียงคะแนนเท่ากัน ให้ประธานที่ประชุมออกเสียงเพิ่มอีก 1 เสียงชี้ขาด
มติของที่ประชุมในกรณีให้สมาชิกสามัญพ้นจากสมาชิกภาพ เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามมาตรา 11 และให้ถือคะแนนเสียงน้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ
การประชุมคณะอนุกรรมการให้นำความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาบังคับใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 25 สภานายกพิเศษจะเข้าฟังการประชุมและชี้แจงแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมคณะกรรมการหรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังคณะกรรมการในเรื่องใดๆก็ได้
มาตรา 26 มติของที่ประชุมคณะกรรมการในเรื่องต่อไปนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษก่อน จึงจะดำเนินการตามมตินั้นได้
1 การออกข้อบังคับ
2 การกำหนดงบประมาณของสภาการพยาบาล
3 การให้สมาชิกสามัญพ้นจากสมาชิกภาพตามาตรา 24 วรรคสาม
4 การวินิจฉัยชี้ขาดตามมาตรา 41 วรรคสาม สี่ และ ห้า
หมวดที่ 5 การควบคุมการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ กระทำการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เว้นแต่ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง
มาตรา 28 การขึ้นทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง และหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา 29 การขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แบ่งเป็น 3 ประเภท
มาตรา 30 ผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามมาตรา 29 ต้องมีความรู้
มาตรา 31 ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกสามาัญแห่งสภาการพยาบาลและมีคุณสมบัติอื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการพยาบาล
มาตรา 32-มาตรา 45 ต่อ
หมวดที่ 5 ทวิ พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 45 ทวิ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ต่อไปนี้ เพื่อตรวจสอบใบอนุญาต ค้นหรือยึดเอกสารหลักฐาน หรือสิ่งของที่อาจใช้เป็นหลักฐานในการพิจารณาหรือดำเนินคดี ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือเวลาที่ทำการของสถานที่ดังกล่าว
มาตรา 45 ตรี ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง
มาตรา 45 จัตวา ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฏหมายอาญา
มาตรา 45 เบญ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้รับผิดชอบหรือปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ตามมาตรา 45 ทวิ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ี
หมวดที่ 6 บทกำหนดลงโทษ
มาตรา 46 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 หรือมาตรา 43 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 47 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 31 วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท
มาตรา 48 ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำ หรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใดๆ ตามที่เรียกหรือแจ้งให้ส่งตามมาตรา 38 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 48 ทวิ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามาตราในมาตรา 45 เบญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัติ วิชาชีพการพยาบาล
และการผดุงครรภ์
ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
มาตรา 1 พระราชบัญญัติ เรียกว่า "พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงคครภ์ พ.ศ. 2528"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 บรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติ หรือซึ่งขัดแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา 4 "วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์"หมายความว่า วิชาชีพเกี่ยวกับการพยาบาลและการผดุงครรภ์
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่้เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งออกกฎระเบียบและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
"ใบอนุญาต" หมายความว่า ใบอนุญาตซึ่งสภาการพยาบาลออกให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์หรือการพยาบาลและการผดุงคครรภ์
"สมาชิก" หมายความว่า สมาชิกสภาการพยาบาล
"กรรมการ" หมายความว่า กรรมการสภาการพยาบาล
"คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการสภาการพยาบาล
"เลขาธิการ" หมายความว่า เลขาธิการสภาการพยาบาล
"พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
หมวดที่ 1 สภาการพยาบาล
มาตรา 6 ให้มีสภาการพยาบาล มีวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้สภาการพยาบาลเป็นนิติบุคคล
มาตรา 7 สภาการพยาบาลมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1 ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ให้ถูกต้องตามหลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
2 ส่งเสริมการศึกษา การบริหาร การวิจัย และความก้าวหน้าในวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
3 ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
4 ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กรอื่นในเรื่องเกี่ยวกับการพยาบาล การผดุงครรภ์ และการสาธารณสุข
5 ให้คำปรึกษา หรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับปัญหาการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในประเทศไทย
6 เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
1 more item...
มาตรา 8 สภาการพยาบาลมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
1 รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
2 สั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล การผดุงครรภ์ หรือการพยาบาลและการผดุงครรภ์
3 ให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในระดับอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษาที่จะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ เพื่อเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย
4 รับรองหลักสูตรต่าง ๆ สำหรับการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรของสถาบันที่จะทำการสอนวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
5 รับรองหลักสูตรต่างๆ สำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสถาบันการศึกษาที่จะทำการฝึกอบรมในวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
6 รับรองวิทยฐานะของสถาบันที่ทำการสอนและฝึกอบรมตามข้อ 4 และ 5
1 more item...
มาตรา 9 สภาการพยาบาลมีรายได้ดังต่อไปนี้
1 เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
2 ค่าจดทะเบียนสมาชิกสามัญ ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
3 ผลประโยชน์จากกิจกรรมอื่นของสภาการพยาบาลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
4 เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภาการพยาบาล
5 ดอกผลของเงินและทรัพย์สินอื่นตาม 1 2 3 และ 4
มาตรา 10 ให้รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาการพยาบาลและมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
หมวดที่ 2 สมาชิก
มาตรา 11 สภาการพยาบาลประกอบด้วยสมาชิกสองประเภท คือ
1 สมาชิกสามัญ ได้แก่ผู้ที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้
**มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
**มีความรู้ในวิชาชีพ
**ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหาย
**ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาสูงสุด
**ไม่เป้นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
2 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งการพยาบาลเชิญให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
มาตรา 12 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
1 ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และขอหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรเกี่ยวกับความรู้หรือความชำนาญเฉพาะทาง
2 แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาการพยาบาลส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
3 เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับเลือกเป็นกรรมการ
4 ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฏิบัติตนตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 13 สมาชิกภาพของสมาชิกสามัญสิ้นสุดลงเมื่อ
1 ตาย
2 ลาออก
3 ขาดคุณสมบัติตามาตรา 11(1)
กรรมการสภาการพยาบาล
สมาชิกสามัญเลือกสมาชิกสามัญมา 16 คน
สมาชิกสามัญสมัครรับเลือกตั้ง