Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Mapping ห้องคลอด, นางสาวปนัดดา ทศพิมพ์ 61102301071 D4, โจทย์สถานการณ์ …

- - - - ทารกที่มีใบหน้าเป็นส่วนนำ บริเวณหน้าจะบวมผิดรูปร่าง ริมฝีปากและลิ้มบวมเขียว แก้มพอง
      - ทารกในครรภ์มักเกิดภาวะขาดออกซิเจน
      - ฝีเย็บฉีกขาดมากในการคลอดที่ใบหน้าเป็นส่วนนำ
      - ถุงน้ำทูนหัวแตกก่อนกำหนดหรือในระยะแรกๆ ของการเจ็บครรภ์
      - อาจเกิดมดลูกแตกจากการคลอดติดขัด
      - สายสะดือพลัดต่ำ
      - ผู้คลอดและทารกมีโอกาสเกิดอันตรายจากการคลอดยาวนานและการช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ
    - - ผนังหน้าท้องหย่อน
      - ครรภ์แฝดน้ำทำให้ศีรษะทารกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระหรืออาจเกิดขึ้นในขณะที่ถุงน้ำทูนหัวแตก
      - ทารกมีรูปร่างลักษณะผิดปกติ เช่น ทารกไร้สมอง
      - มีก้อนในเชิงกรานขัดขวางการลงของท้ายทอย
      - เชิงกรานแคบหรือศีรษะทารกโต
    - - ในรายที่แพทย์พิจารณาให้ลองคลอดทางช่องคลอด ให้เฝ้าดูแลผู้คลอดอย่างใกล้ชิด
      - ทารกแรกเกิดที่คลอดลักษณะใบหน้าเป็นส่วนนำ บริเวณใบหน้าจะบวมช้ำ มีสีม่วงคล้ำ
      - ควรให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียง เพื่อป้องกันถุงน้ำแตกก่อนเวลา เพราะอาจทำให้สายสะดือพลัดต่ำได้
      - ฝีเย็บและผนังช่องคลอดมักถูกยืดขยาย และฉีกขาดได้มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหน้าเป็นส่วนนำ การทำคลอด ศีรษะจึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง ต้องตัดฝีเย็บให้ยาวมากพอและตัดแนวเฉียง
  - - - ทารกตัวเล็ก
      - ครรภ์แฝดน้ำ
      - คลอดก่อนกำหนด
      - ผนังหน้าท้องและกล้ามเนื้อมดลูกหย่อน
      - Anencephalus ทารกไร้สมอง
      - สิ่งกีดขวางการเข้าช่องเชิงกรานของศีรษะทารก
      - ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ทารกตายในครรภ์ ทารกพิการ
    - - เกิดการติดเชื้อหลังคลอด
      - ผู้คลอดมีอาการอ่อนเพลีย หมดแรง ขาดน้ำ
      - ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจน
      - เกิดการฉีกขาดของฝีเย็บ ผนังช่องคลอด ปากมดลูก ผนังมดลูกตอนล่าง
      - เลือดออกในสมองทารก
    - - กระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะทุก 2-4 ชั่วโมง
      - ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 30 นาที
      - ท่านอนควรเป็นท่านอนตะแคง
      - ให้ผู้คลอดงดอาหารและน้ำทางปากทุกชนิดดูแลให้ได้รับสารน้ำ
      - ตรวจภายในเป็นระยะ เพื่อประเมินความก้าวหน้า
      - ให้ผู้คลอดนอนพักที่เตียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ส่วนนำยังลอยอยู่หรือถึงน้ำทูนหัวแตกแล้ว
      - ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์เป็นระยะ ๆ ทุก 30 - 60 นาที
    - - ก้นเป็นส่วนนำชนิดสมบูรณ์ (complete breech)
        
        เด็กเอาก้นลงมาทางเชิงกรานและอยู่ในท่าขางอตลอดทุกส่วน โคนขางอพับเข้าหาลำตัว ลักษณะคล้ายนั่งขัดสมาธิ
      - ก้นเป็นส่วนนำชนิดไม่สมบูรณ์ (incomplete breech)
        
        Knee presentation ทารกอยู่ในลักษณะเหยียดต้นขาแต่ข้อเข่างอ ลักษณะเหมือนคุกเข่า อาจเป็นเพียง ข้างเดียว (single knee presentation) หรือทั้งสองข้าง (double knee presentation)
        
        Frank breech หมายถึง ขาทั้งสองข้างของทารกเหยียดตรง โคนขาพับขึ้นมาแนบกับหน้าท้อง เท้าแนบ ไปบริเวณหน้า
        
        Footling presentation หมายถึง ทารกเหยียดขาออกมาตรง ๆ โดยข้อเข่าไม่งอ ลักษณะเหมือนยืน อาจเหยียดขาเพียงข้างเดียว (single footling) หรือเหยียดทั้งสอง (double footling)
  - - - ผู้คลอดเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดยาวนาน
      - ทารกอาจเกิดภาวะขาดออกซิเจนจากการคลอดยาวนาน และอาจได้รับอันตรายจากการช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ
      - ปากมดลูกบวมช้ำและอาจฉีกขาดได้
      - ผนังช่องคลอดด้านหลังและฝีเย็บมีการยืดขยาย และฉีกขาดมาก
      - ผู้คลอดมีลมเบ่งเกิดขึ้นในระยะที่ปากมดลูกเปิดน้อย
      - ผู้คลอดมีอาการปวดบริเวณหลังและเอวมาก
      - หนังศีรษะทารกเกิดก้อนโนกระดูกกะโหลกศีรษะมีการเกยกันมาก
    - - ช่วยเพิ่มกำลังใจให้แก่ผู้คลอด ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง
      - การคลอดติดขัด
      - ให้การพยาบาลเหมือนกับการคลอดท่าปกติ โดยประเมินความก้าวหน้าของการคลอดเป็นระยะ ถ้าการคลอดไม่ก้าวหน้าต้องรีบให้การช่วยเหลือ
      - ถ้าไม่สามารถคลอดเองได้ ให้เตรียมผู้คลอดสำหรับผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง
    - - มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ศีรษะทารกไม่ก้ม ท าให้ศีรษะทารกไม่สามารถหมุนต่อไปได้ หรืออาจเกิดจากท่าท้าย ทอยเฉียงหลังหรืออยู่หลัง แล้วหมุนไปทางด้านหน้า แต่หมุนไม่ส าเร็จ
      - แนวหน้าหลังของเชิงกรานแคบกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชิงกรานตอนกลาง หรือช่องภายในเชิงกราน เช่น เชิงกรานชนิดแพลทิเพลลอย ศีรษะทารกจะหมุนไม่ได้
  - - - มีโอกาสเกิดสายสะดือพลัดต่ำได้มาก
      - ในรายที่ไม่ได้รับการบำบัดแต่เนิ่น ๆ ปล่อยให้มีการคลอดยาวนาน ไหล่จะลงมาอัดแน่นในช่องเชิงกราน เกิดการคลอดติดขัด
      - มีโอกาสเกิดมดลูกแตก ปากมดลูกและผนังช่องคลอดฉีกขาด
      - มีโอกาสเกิดการติดเชื้อในโพรงมดลูกได้มาก
      - ผู้คลอดมีความวิตกกังวล หวาดกลัวต่ออันตรายจากการคลอด
    - - เตรียมผู้คลอดให้พร้อมอยู่เสมอที่จะผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้อง และเตรียมผู้คลอดเพื่อผ่าตัดทันที ถ้าพบว่าถึงน้ำทูนหัวแตกแล้ว แต่ทารกยังอยู่แนวขวาง และในรายที่มีสายสะดือพลัดต่ำ
      - ถ้าพบหรือสงสัยว่าทารกอยู่แนวขวาง และถุงน้ำทูนหัวยังไม่แตก ให้รีบรายงานแพทย์ทันที และให้ผู้คลอด นอนพักที่เตียงตลอดเวลา งดการสวนอุจจาระและการตรวจภายใน เพราะอาจทำให้ถุงน้ำทูนหัวแตกได้
    - - มีปัจจัยที่ทำให้ทารกในครรภ์เคลื่อนไหวได้สะดวก เช่น ผนังหน้าท้องหย่อนในผู้คลอดครรภ์หลัง คลอดก่อนกำหนด ครรภ์แฝดน้ำ
      - มีปัจจัยที่ทำให้ทารกเข้าช่องเชิงกรานไม่ได้ เช่น มีเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน มดลูกผิดปกติ รกเกาะต่ำ เชิงกรานแคบ สายสะดือสั้นกว่าปกติ
  - - - ศีรษะทารกหมุนภายในช่องเชิงกรานเป็นระยะทางสั้น (short internal of the head) ทำให้ท้ายทอยคงอยู่หลัง
      - ศีรษะทารกหมุนภายในช่องเชิงกรานเป็นระยะทางยาว (long internal rotation of the head) จนท้ายทอยมาอยู่ด้านหน้า
    - - ผนังหน้าท้องของผู้คลอดมีลักษณะหย่อนมาก
      - มีสิ่งกีดขวางการหมุนไปด้านหลังของศีรษะทารก
      - เชิงกรานเป็นชนิด anthropoid ซึ่งแคบในแนวขวาง
      - มดลูกหดรัดตัวไม่ดีหรือแรงเบ่งน้อย
      - ศีรษะทารกก้มน้อยเกินไปหรือช้าเกินไป
      - กล้ามเนื้อพื้นเชิงกราน มีลักษณะหย่อน
    - - ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผน
        การรักษาของสูติแพทย์และให้ถ่ายปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง
        เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง ไม่ขัดขวางการเคลื่อนต่ำของ
        ส่วนนำ
      - ช่วยจัดท่าเพื่อส่งเสริมการหมุนของศีรษะทารก
        จากท่า OP เป็นท่า OT T และเป็นท่า OA ตามลำดับ โดย
        จัดให้มารดานอนตะแคง หรือให้อยู่ในท่าเข่าชิดอก ท่าคลาน 4 ขา และส่ายสะโพกไปมา
      - บรรเทาปวดและลดความไม่สุขสบาย โดยนวดบริเวณกระเบนเหน็บ และให้ยาบรรเทาปวด
      - รายงานแพทย์เพื่อช่วยคลอดทางสูติศาสตร์หัตถการหรือเตรียมผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ถ้ามีการผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับเชิงกราน
      - ประเมินอาหารและอาการแสดงของทารกท่า OP ได้แก่ มารดาปวดหลังรุนแรง ตรวจภายในคลำพบขม่อมหน้าเป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดบริเวณเชิงกรานส่วนหน้า ปากมดลูกบวม ศีรษะทารก caput ระยะคลอดยาวนาน มีการหยุดเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
  - - - ทารกได้รับอันตรายจากการคลอด เช่น เกิดอัมพาตของแขน
      - สายสะดือถูกกดทับอยู่ระหว่างลำตัวทารกกับกระดูกช่องเชิงกราน ทำให้ทารกขาดออกซิเจน และเสียชีวิตได้ ถ้าช่วยเหลือไม่ทันภายใน 7 - 8 นาที
      - เกิดการชอกช้ำและฉีกขาดของหนทางคลอดอ่อน เช่น ฝีเย็บ ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก
    - - สังเกตเลือดที่ออกทางช่องคลอด ตลอดจนอาการของการเสียเลือดมาก ตรวจสอบดูการฉีกขาดของช่องทางคลอดและเย็บซ่อมแซมให้ถูกวิธี
      - ให้การประคับประคองจิตใจผู้คลอด เพราะผู้คลอดมักจะตกใจกลัวต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน กลัวว่า ทารกจะได้รับอันตราย พยาบาลต้องอยู่เป็นเพื่อนผู้คลอดตลอดเวลา อธิบายการรักษาพยาบาลที่ได้รับ ถ้าทารกมีอาการดีขึ้น แล้ว รีบน ามาให้ผู้คลอดได้มีปฏิสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมสายใยผูกพัน
      - ในขณะที่ทำคลอด พบว่าทำคลอดไหล่ตามปกติแล้วไม่คลอด ให้เปลี่ยนทำคลอดไหล่หลังก่อน
    - - ทารกมีเนื้องอกหรือความพิการบริเวณต้นคอ ทรวงอกและไหล่
      - ช่องออกเชิงกรานแคบ
      - ทารกตัวโตมาก
  - - - high of fundus size<date
      - ลูกดิ้นน้อย
      - เลือดออกทางช่องคลอด
    - - ตรวจเลือดของมารดาเพื่อวัดระดับแอลฟาฟิโตโปรตีน
        ที่สร้างจากตับของทารก
      - อัลตราซาวด์เพี่อดูขนาดของรกหรือทารกในครรภ์มารดา
      - ตรวจสุขภาพทารกแบบ Fetal NST (Non-Stress Test)
    - - มารดาเป็นความดันโลหิตสูง
        ขณะตั้งครรภ์
      - มารดาติดบุหรี่และยาเสพติด
      - ตั้งครรภ์เกินกำหนด
      - มารดาเป็นลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด
      - มารดาเป็นเบาหวาน
    - - รกลอกตัวก่อนกำหนด
      - ทารกเจริญเติบโตช้า
      - ทารกน้ำตาลในเลือดต่ำ
      - ทารกขาดออกซิเจน
      - ทารกพิการ/เสียชวีต
      - เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
    - - หากมีการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกําหนด พิจารณา stop
        labor หรอืให้ยาสรา้งสารกระตุ้นปอดก่อนคลอด
      - แนะนําหลีกเลี่ยงการรับประทานรสหวาน เค็ม เพื่อควบคุมรัดับน้ำตาลในเลือดและเพื่อควบคุมระดับความดันโลหิตงดการสูบบุหรี่และใช้ยาเสพติด
      - ทํา IUR ในระยะที่2ของการคลอด
      - ในระยะตั้งครรภ์แนะนําให้มารดามาตรวจครรภ์ตามนัด
        ทํา NST และฟัง FHS
- - - - การคลอดไม่เป็นไปตามความหวัง ตามประสบการณ์ของผู้คลอดอาจทำให้ผู้คลอดเกิดความวิตกกังวลได้
    - - ถ้าผู้คลอดได้รับความรู้และการเตรียมตัวคลอดมามาก อาจจะยึดมั่นว่าการคลอดจะเป็นไปตามความคาดหวัง ซึ่งถ้ามีความผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นอาจทำให้วิตกกังวล
    - - การเจ็บครรภ์ก่อนหรือช้ากว่ากำหนดทำให้ในผู้คลอดที่ก่อนกำหนดไม่มีการ เตรียมตัวคลอด และในผู้คลอดที่เกินกำหนดอาจรู้สึกคับข้องใจหรือท้อแท้ใจได้
    - - ความกลัวเกี่ยวกับตนเอง เช่น กลัวว่าตนเองจะบาดเจ็บหรือตายจากการคลอด
      - ความกลัวเกี่ยวกับทารก เช่น กลัวว่าทารกจะบาดเจ็บ พิการ มีภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิต
    - - โรงพยาบาลที่มีสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่บ้าน มีกฎระเบียบและการปฏิบัติกิจกรรมที่ยุ่งยากซับซ้อน
      - บุคคลแปลกหน้า กลิ่น เสียงที่ไม่คุ้นเคย จึงอาจก่อให้เกิดความเครียด
  - - - อดรีโนคอร์ติโคโทรปิค (adrenocorticotropic)
      - คอร์ติโซน (cortisol)
      - เบต้าเอ็นดอร์ฟิน (beta endorphine )
      - อิพิเนฟริน (epinephrine)
- - - - การพยาบาล
        
        ท่าศีรษะสูงและนอนตะแคง
        
        ดูแลให้ผู้คลอดได้รับสารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ
        
        กระตุ้นถ่ายอุจจาระ สวนอุจจาระนานเกินกว่า 12 ชั่วโมง
        
        กระตุ้นผู้คลอดถ่ายปัสสาวะ 2 - 4 ชั่วโมง
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที
        
        รายงานแพทย์สั่งให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
        
        ระยะหลังคลอดให้หมั่นสังเกตการหดรัดตัวของมดลูก
      - การที่มดลูกหดรัดตัวเป็นจังหวะดี แต่หดรัดตัวสั้นเกินไป มีระยะห่างมากเกินไป หรือมีความถี่น้อยเกินไป แรงของการหดรัดตัวน้อยเกินไป จนไม่พอเพียงที่จะทำให้ปากมดลูกเปิดขยายในอัตราปกติได้
      - ผลกระทบ
        
        เกิดการคลอดยากในระยะที่สอง แรงไม่มากพอที่จะผลักดันทารกให้เคลื่อนต่ำลง
        
        เกิดการคลอดยากในระยะที่หนึ่ง ปากมดลูกจะเปิดขยายช้าหรือหยุดชะงักลง
        
        มีโอกาสตกเลือดหลังคลอดเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
      - สาเหตุ
        
        สิ่งที่ทำให้มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
        
        มีความเครียดและความวิตกกังวลสูง
        
        ได้รับยาแก้ปวด หรือยาสลบมากเกินไป
        
        เจ็บครรภ์คลอดเป็นเวลานาน มีอาการอ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อย
        
        มีปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะหรืออุจจาระเต็ม
        
        ขาดการกระตุ้นให้เกิดเฟอร์กูสันรีเฟล็กซ์ จากส่วนนำไม่กระชับกับปากมดลูกหรือพื้นเชิงกราน
        
        กล้ามเนื้อมดลูกผิดปกติกล้ามเนื้อมดลูกมีการยืดขยายมาก เช่น ครรภ์แฝด ครรภ์แฝดน้ำ ทารกตัวโต
      - ลักษณะผิดปกติ
        
        ความนานของการหดรัดตัวของมดลูกน้อยกว่า 40 วินาที
        
        ความแรงของการหดรัดตัวของมดลูกอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลางหรือแรงดันในถุงน้ำคร่ำมีค่าน้อยกว่า 15 มม.ปรอท
        
        ระยะห่างของการหดรัดตัวของมดลูกมีมากกว่า 3 นาทีหรือภายใน 10 นาทีมดลูกมีการหดรัดตัวน้อยกว่า 3 ครั้ง
    - - มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ
        ชนิดไม่คลาย
        
        การที่มดลูกหดรัดตัวแข็งตึงมาก และความถี่ระยะพักสั้น หรือแทบจะไม่มีระยะพักเลย
        
        ลักษณะ
        
        มดลูกหดรัดตัวนานกว่า 90 วินาที ระยะพักสั้นมาก
        
        มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ คือ ระยะห่างน้อยกว่า 90 วินาที
        
        มดลูกหดรัดตัวแรงมากกว่าปกติ ผู้คลอดมีอาการเจ็บปวดมาก
        
        สาเหตุ
        
        พบรอยคอดตามแนวขวางของหน้าท้อง และอยู่ต่ำกว่าระดับสะดือเล็กน้อย
        
        คลอดติดขัด ทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติที่คลอดเองไม่ได้
        
        wด้รับยากระตุ้นมดลูกไม่ถูกวิธี คือให้เร็วเกินไป หรือให้ยาขนาดมากเกินไป
        
        การพยาบาล
        
        ดูแลให้ผู้คลอดได้รับยาแก้ปวดหรือยานอนหลับ
        
        ประเมิน FHS ทุก 5 นาทu
        
        ถ้ามีความผิดปกติไม่ สามารถคลอดทางช่องคลอดได้ ให้เตรียมผู้คลอดเพื่อc/s
        
        ให้O2 cannula 4 ลิตร/นาทึ
        
        จัดให้ผู้คลอดนอนตะแคงซ้าย เพื่อช่วยให้เลือดไปเลี้ยงรกได้ดีขึ้น
        
        หยุดให้Oxytocin, ดูแลให้ได้รับสารน้ำ
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที
        
        ผลกระทบ
        
        ผู้คลอดมีอาการเจ็บครรภ์มากกว่าปกติ
        
        ทารกมีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจนได้สูง
        
        ทารกคลอดทางช่องคลอดไม่ได้
      - มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ
        ชนิดหดรัดตัวเป็นวงแหวนบนรอยคอดของทารก
        
        การที่กล้ามเนื้อมดลูกชนิดวงกลม : มีการหดรัดตัวไม่คลายเฉพาะที่ จนเกิดเป็นวงแหวนโดยรอบตำแหน่งรอยคอดของตัวทารก เช่น บริเวณซอกคอ บริเวณ ท้องระหว่างกระดูกเชิงกรานกับทรวงอก เกิดเหนือปากมดลูกขึ้นไปประมาณ 7 - 8 ซม.
        
        สาเหตุ
        
        การให้ยา oxytocin
        
        หลังจากทารกแฝดคนแรก
        
        การตั้งครรภ์ที่มีน้ำคร่ำน้อยหรือถุงน้ำแตกก่อนเป็นเวลานาน
        
        หลังการทำสูติศาสตร์หัตถการบางชนิด
        
        ผลกระทบ
        
        ผู้คลอดมีอาการเจ็บครรภ์มาก ถูกบริเวณหน้าท้องไม่ได้
        
        ผู้คลอดและทารกอยู่ในภาวะคับขัน
        
        ระยะที่ 3 ของการคลอด คือปากมดลูกมีการหดรัดตัวเป็นวงแหวน ทำให้ปากมดลูกปิดเกิดรกค้างและตกเลือดหลังคลอด
        
        ลักษณะ
        
        มีวงแหวนเกิดบนรอยคอดของทารก ซึ่งมักจะอยู่เหนือปากมดลูกขึ้นไป ประมาณ 7 - 8 ซม.ตรวจไม่พบทางหน้าท้อง
        
        มดลูกมีการหดรัดตัวแรง ผู้คลอดเจ็บครรภ์มาก มีระยะพัก มดลูกมักหดรัดตัวไม่สม่ำเสมอ
        
        การพยาบาล
        
        จัดให้ผู้คลอดนอนตะแคงซ้าย ให้ออกซิเจน ฟังเสียงหัวใจทารกทุก 15 นาที
        
        ดูแลให้ผู้คลอดได้รับยา pethidine ตามแผนการรักษา
        
        หยุดให้Oxytocin, ดูแลให้ได้รับสารน้ำ
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที
      - มดลูกหดรัดตัวมากกว่าปกติ
        ชนิดไม่ประสานกัน
        
        การที่มดลูกหดรัดตัวแรงและถี่ แต่ไม่สม่ำเสมอ และใยกล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน ทำให้การหดรัดตัวของมดลูกไม่มีประสิทธิภาพ
        
        สาเหตุ
        
        ผู้คลอดG1พบได้มากกว่าผู้คลอดG2
        
        ผู้คลอดที่มีอายุมากผ่านการคลอดมากกว่า 5 ครั้ง
        
        ผู้คลอดที่มีความวิตกกังวล ความกลัวสูง
        
        มีภาวะ CPD, ทารกท่าผิดปกติ
        
        ลักษณะ
        
        มดลูกหดรัดตัวแรงมาก
        
        ในระยะพัก กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัวไม่เต็มที่
        
        มดลูกหดรัดตัวไม่สม่ำเสมอ
        
        ผลกระทบ
        
        ทารกในครรภ์มีโอกาสเกิดภาวะขาดออกซิเจนได้สูง
        
        ผู้คลอดอ่อนเพลียมาก อาจมีภาวะขาดน้ำ และเลือดเป็นกรด
        
        ผู้คลอดมีอาการเจ็บครรภ์มากกว่าปกติและเจ็บตลอดเวลา
        
        ประสิทธิภาพในการขยายปากมดลูกลดลง
        
        การพยาบาล
        
        ประเมิน FHS ทุก 15-30 นาที
        
        ดูแลให้ผู้คลอดได้รับยาแก้ปวดหรือยานอนหลับตามแผนการรักษา
        
        จัดให้ผู้คลอดนอนตะแคง
        
        ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 15 นาที
  - - - ได้รับยาสลบ
      - ได้รับยาแก้ปวดในปริมาณมาก
      - ผู้คลอดหมดแรง
      - ผู้คลอดมีอาการเจ็บครรภ์มาก
      - ผู้คลอดอ้วนมาก
      - ผู้คลอดได้รับยาชาเฉพาะที่
      - ท่าเบ่งคลอดไม่เหมาะสม
      - เบ่งไม่ถูกวิธี
      - ผู้คลอดมีพยาธิสภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคปอดรุนแรง
    - - การค]อดยาวนาน
      - เบ่งยาวนาน หมดแรง อ่อนเพลีย
      - ความวิตกกังวล หวาดกลัว
      - ทารกเกิดภาวะคับขันหรือขาดออกซิเจน
    - - กระตุ้นเชียร์เบ่ง กล่าวคำชมเชยและพูดให้กำลังใจ
      - กระตุ้นให้ผู้คลอดเบ่งทุกครั้งที่มดลูกมีการหดรัดตัวหยุดเบ่งเมื่อมดลูกคลายตัว
      - ดูแลให้ผู้คลอดได้รับน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ
      - ไม่ควรให้ผู้คลอดเบ่งคลอดถ้าปากมดลูกยังเปิดไม่หมด
      - ผู้คลอดมีอาการหมดแรงเบ่งมาเป็นเวลานานการคลอดไม่ก้าวหน้า รายงานแพทย์เพื่อช่วยคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการ
      - สอนวิธีเบ่งคลอดที่ถูกวิธีตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์