Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภูมิภาคนิยม และภูมิภาคาภิวัตน์ - Coggle Diagram
ภูมิภาคนิยม และภูมิภาคาภิวัตน์
ภูมิภาคนิยมใหม่
มีการตอบสนองต่อกระแส โลกาภิวัตน์และระบบโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจากการสิ้นสุดของสงครามเย็น คือ เป็นระบบหลายขั้วอำนาจ (multipolar system)
บทบาทของตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐเริ่มมีเพิ่มมากขึ้น
ความตกลงของการบูรณาการส่วนภูมิภาคเกิดขึ้นในหลายระดับ
การศึกษามีลักษณะสหวิทยาการสาขา (Interdisciplinary)
เศรษฐศาสตร์
การเมืองระหว่างประเทศ
รัฐศาสตร์
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
สังคมวิทยา
ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ (economic geography)
ให้ความสำคัญกับการศึกษาปรากฏการณ์ในหลายระดับและหลายรูปแบบ
รูปแบบที่รัฐผลักดัน (state-driven)
ตลาดผลักดัน (market-driven)
อนุภูมิภาค (sub-regional)
ข้ามภูมิภาค (trans-regional)
ภูมิภาคนิยม (regionalism)
ความหมาย
ตามความหมายจากพจนานุกรม ภูมิภาคนิยม ในความหมายเชิงการเมือง คือ ความรู้สึกในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศที่ปรารถนาจะเป็นอิสระมากขึ้นในทางการเมือง
กรมอาเซียน
ภูมิภาคนิยมแบบเปิด (open regionalism)
เป็นกระบวนการรวมตัวและร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกันโดยไม่มีการกีดกันประเทศภายนอก
ภูมิภาคนิยมแบบปิด (closed regionalism)
เป็นกระบวนการรวมตัวและร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกัน โดยมีการกีดกันประเทศภายนอก
ไชยวัฒน์ ค้ำชู
การรวมกลุ่มระหว่างประเทศภายในภูมิภาคเดียวกัน โดยผ่านการจัดตั้งองค์การความร่วมมือระดับภูมิภาคหรือสถาบันที่สามารถจัดระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ภูมิภาคนิยม ไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่นักวิชาการรุ่นเก่า ซึ่งโดยมากมักใช้คำว่า
การบูรณาการส่วนภูมิภาค (regional integration)
แนวคิดของ Bela Belassa
1. ข้อตกลงหรือเขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA)
เป็นรูปแบบพื้นฐานที่สุดของการรวมกลุ่มในภูมิภาคทางเศรษฐกิจ เช่น การลดภาษี
2. สหภาพศุลกากร (Custom Union: CU)
มีการกำหนดพิกัดอัตภาษีภายนอกร่วมกัน เพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศที่มิใช่ประเทศสมาชิก
3. ตลาดร่วม (Common Markets: CM)
ขยายระดับการรวมกลุ่มสหภาพศุลกากร ขจัดอุปสรรคที่จะขัดขวางการเคลื่อนย้ายของปจจัยการผลิต
4. สหภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน (Economic and Monetary Union: EMU)
เป็นการรวมกลุ่มทางการเงิน โดยการรับเอานโยบายทางเศรษฐกิจและการเงินร่วมกัน
5. สหภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง (Economic and Political Union: EPU)
เป็นขั้นสุดของการรวมกลุ่มทางภูมิภาค โดยประเทศสมาชิกรวมตัวกันเป็นสหพันธรัฐสหภาพ (Federal Union) นำไปสู่การเป็นรัฐเดียว
แนวคิดของ George Liska
เสนอว่า การที่ประเทศต่างๆ รวมกลุ่มกันนั้นย่อมทำให้ประเทศเหล่านั้นสูญเสียอำนาจอธิปไตยบางส่วนไป
แนวคิดของ Donald J. Puchala
เสนอว่า การรวมกลุ่มในระดับภูมิภาค หมายถึง การค่อยๆ ลดอำนาจอธิปไตยและเอกสิทธิต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความสงบ ประนีประนอมกัน
ภูมิภาคนิยมเก่า
กระแสของภูมิภาคนิยมได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง (ปี 1950-1960)
ได้รับอิทธิพลจากการเติบโตของความร่วมมือระดับภูมิภาคในยุโรปตะวันตก
โลกแบ่งออกเป็นสองขั้วอำนาจอย่างชัดเจน
ฝ่ายเสรีทุนนิยมประชาธิปไตย
สหรัฐอเมริกาได้กำเนิดแผนมาร์แชลแพลน (Marshall Plan)
โครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ยุโรปตะวันตก เพื่อฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
เกิดการจัดตั้งประชาคมแห่งภูมิภาค คือ ประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้า (European Coal and Steel Community: ECSC)
ฝ่ายสังคมนิยมเผด็จการ
ก่อตั้งกลุ่มความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจร่วมกันของค่ายสังคมนิยมตะวันออก (The Council for Mutual Economic Assistance: COMECON) เพื่อป้องกันมิให้ยุโรปตะวันออกเข้าร่วมกับฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตย
ปี 1970-1980 กระแสภูมิภาคนิยมถูกลดความสำคัญลง เพราะไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินภารกิจของหลายๆ องค์กร และปัญหาการลิดรอนอำนาจอธิปไตยของประเทศสมาชิก
ในทางเศรษฐกิจการเกิดขึ้นของการบูรณาการมักมีลักษณะปิด
ให้ความสำคัญกับการเป็นองค์การเหนือชาติ (supranational organization) ที่มีฐานอยู่บนพันธะผูกพันทางกฎหมาย (rule-based organization)
แนวคิดภูมิภาคาภิวัตน์
ระบบเศรษฐกิจแบบตลาดของโลกขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังการเสื่อมสลายของค่ายสังคมนิยม ภูมิภาคนิยมแบบเก่าจึงแปรสภาพและเกิดเป็นภูมิภาคนิยมแบบใหม่ในระดับโลก
การค้าระดับภูมิภาคที่มีลักษณะเปิดต่อภายนอก (กลุ่ม)
เกิดการรวมกลุ่มภูมิภาคจากความต้องการภายในของภูมิภาค
มีลักษณะหลายมิติเป็นพหุนิยมมากขึ้น
ภาคธุรกิจและประชาสังคมมีความสำคัญมากขึ้น
ภูมิภาคนิยมและภูมิภาคาภิวัตน์มีความเกี่ยวพันกันอย่างยิ่ง กับกระบวนการทางสังคมอย่างไม่เป็นทางการของภูมิภาคาภิวัตน์
ภาคประชาสังคมนั้นมีบทบาทสำคัญด้านภูมิภาคาภิวัตน์โดยเฉพาะในแง่ของการแก้ปัญหาของภารกิจงาน และการเสนอบริการ
กระบวนการความร่วมมือกันของภาคประชาชนของประเทศในภูมิภาคนั้น ๆ อย่างน้อย 3 ประเทศ ด้านสังคมและเศรษฐกิจเป็นหลักโดยจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม
สรุป คำว่าภูมิภาคนิยมเป็นคำที่นิยมใช้ในการเรียกการรวมตัวกันของประเทศในภูมิภาคนั้นๆ และด้วยเหตุที่การรวมตัวของประเทศในภูมิภาคนั้นยากที่จะสำเร็จหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล จึงใช้คำว่าภูมิภาคนิยมโดยหมายร่วมถึงภูมิภาคาภิวัตน์ด้วย