Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน - Coggle Diagram
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน
Immunization การเสริมภูมิต้านทาน
(Active immunization)
การให้แอนติเจนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุมกันเอง เช่น การเกิดภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนหรือหลังการติดเชื้อ ภูมิคุ้มกันอยู่ในร่างกายนาน ร่างกายจดจำเชื้อโรคได้
(Passive immunization)
การให้แอนติบอดี้หรือภูมิคุ้มกันต่อโรคป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรค ร่างกายไม่จดจำเชื้อโรค
ยายับยั้งแคลซินูริน
Cyclosporin, CSA
เป็นยากดภูมิคุ้มกันที่ใช้กับผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น หัวใจ ไต และตับ เพื่อช่วยให้ร่างกายไม่ต่อต้านอวัยวะใหม่ หรือใช้ร่วมกันกับยาชนิดอื่นเพื่อช่วยให้อวัยวะดังกล่าวทำงานได้เป็นปกติ รวมทั้งใช้รักษาโรคสะเก็ดเงินและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง หรืออาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ มีอาการสั่น สิวขึ้น ผิวหนังแดง มีขนขึ้นที่ใบหน้าหรือตามร่างกายมากขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องไส้ปั่นป่วน ท้องอืด ท้องเสีย แสบร้อนกลางอก เหงือกบวมหรือเจ็บ ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว มีอาการซึมเศร้า นอนหลับยาก นอนไม่หลับ ผู้ชายมีหน้าอกขยายใหญ่ เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือแย่ลง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
Tacrolimus
เป็นยากดภูมิคุ้มกันที่ทำให้ระบบภูมิต้านทานในร่างกายลดต่ำลง ใช้กับผู้ป่วยที่รับการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่ เช่น การปลูกถ่ายไตและตับ เป็นต้น โดยปกติระบบภูมิคุ้มกันร่างกายจะช่วยยับยั้งการติดเชื้อหรือกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ซึ่งร่างกายอาจเข้าใจว่าอวัยวะใหม่ที่ปลูกถ่ายนั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมเช่นกัน จึงจำเป็นต้องใช้ยานี้เพื่อกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย
เกิดผลข้างเคียงที่พบได้น้อย เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเสีย อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ มือบวม และเท้าบวม เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์
Specific T-cell inhibitors ยับยั้งการสร้างและการหลั่ง interleukin-2 จาก T- cells
กดภูมิคุ้มคุ้มกัน ป้องกันการปฏิเสธอวัยวะปลูกถ่าย Keratoconjunctivitis sicca
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน
ยับยั้งการพัฒนาของเซลล์ทีเฮลเปอร์ (T helpe cell)
ยายับยั้ง mTOR
เป็นยากลุ่มหนึ่งที่ยับยั้งเป้าหมายเชิงกลไกของ rapamycin (mTOR) ซึ่งเป็นไคเนสของโปรตีน serine / threonineที่อยู่ในตระกูลของphosphatidylinositol-3 kinase (PI3K) ไคเนสที่เกี่ยวข้อง (PIKKs) mTOR ควบคุมการเผาผลาญของเซลล์เจริญเติบโตและการแพร่กระจายโดยการสร้างและส่งสัญญาณผ่านสองโปรตีนคอมเพล็กซ์ , mTORC1และmTORC2 สารยับยั้ง mTOR ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดเรียกว่าrapalogs (rapamycin และ analogs) ซึ่งแสดงการตอบสนองของเนื้องอกในการทดลองทางคลินิกกับเนื้องอกชนิดต่างๆ
sirolimus
Sirolimus ใช้กับยาอื่น ๆ เพื่อป้องกันการปฏิเสธการปลูกถ่ายไต ยานี้เป็นยากลุ่มหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อภูมิคุ้มกัน มันทำงานโดยการทำให้ระบบการป้องกันของร่างกายอ่อนแอ (ระบบภูมิคุ้มกัน) เพื่อช่วยให้ร่างกายของคุณยอมรับอวัยวะใหม่ราวกับว่ามันเป็นของคุณเอง Sirolimus อาจถูกใช้เพื่อรักษาโรคปอดบางอย่าง (lymphangioleiomyomatosis-LAM)
Eaerolimus
เป็นยากดภูมิคุ้มกันที่ทำให้ระบบภูมิต้านทานในร่างกายลดต่ำลง ใช้กับผู้ป่วยที่รับการปลูกถ่ายอวัยวะ เพื่อไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่ เช่น การปลูกถ่ายไตและตับ เป็นต้น โดยปกติระบบภูมิคุ้มกันร่างกายจะช่วยยับยั้งการติดเชื้อหรือกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ซึ่งร่างกายอาจเข้าใจว่าอวัยวะใหม่ที่ปลูกถ่ายนั้นเป็นสิ่งแปลกปลอมเช่นกัน จึงจำเป็นต้องใช้ยานี้เพื่อกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย
ยาที่เป็นพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic drugs) และ antimetabolites
Cyclophosphamide
เป็นยากดภูมิคุ้มกัน ใช้รักษาโรคมะเร็ง และกลุ่มอาการไตรั่ว (Nephrotic Syndrome) ออกฤทธิ์โดยการชะลอและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งกดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ซึ่งยา Cyclophosphamide อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรอย่างละเอียดก่อนใช้ยา
มีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนไม่มา หรืออาจหยุดการผลิตน้ำอสุจิที่อาจส่งผลให้เป็นหมัน และเสี่ยงเผชิญภาวะมีบุตรยากทั้งในเพศชายและเพศหญิง ซึ่งอาจเกิดขึ้นชั่วคราวหรือคงอยู่ถาวรแล้วแต่กรณี ผู้ป่วยจึงควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงและวิธีการใช้ยาให้ละเอียดก่อนใช้ยาเสมอ
Methotrexate
เป็นยาในกลุ่ม dihydrofolate reductase inhibitor ออกฤทธิ์แทรกแซงการเจริญเติบของเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์ที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น เซลล์มะเร็ง เซลล์ผิวหนัง และเซลล์ไขกระดูก ใช้รักษาโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระดูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น รวมถึงโรคสะเก็ดเงิน โรคโครห์น เมื่อใช้ในขนาดต่ำจะออกฤทธิ์เป็น disease-modifying antirheumatic drug สำหรับการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ คลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดศีรษะ วิงเวียน รู้สึกเหนื่อยล้า ตาพร่ามัว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยต้องหยุดใช้ยาทันที และรีบไปพบแพทย์โดยด่วน อาการแพ้ยา เช่น มีผื่นคัน หายใจลำบาก มีอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ รู้สึกแสบร้อนที่ดวงตา หรือมีอาการแพ้ที่ผิวหนังอย่างรุนแรง ปวดตามผิวหนัง มีผื่นแดงหรือม่วงกระจายตามร่างกาย โดยเฉพาะใบหน้าและช่วงบนของลำตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลพุพองหรือผิวลอกได้
Azathioprine
เป็นยากดภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้ร่างกายยอมรับอวัยวะใหม่ที่ได้รับการปลูกถ่ายมา แพทย์จะใช้ยานี้ภายหลังจากการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ตับ หรือไต และมักใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นเพื่อช่วยให้อวัยวะที่ปลูกถ่ายทำงานเป็นปกติ รวมทั้งใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ซึ่งเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานผิดปกติและเข้าทำลายข้อต่อ หรืออาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องไส้ปั่นป่วน เบื่ออาหาร ท้องเสีย ผมร่วง ผื่นขึ้น เป็นต้น หากอาการเหล่านี้แย่ลงหรือพบผลข้างเคียงที่รุนแรงต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ทันที อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้า ปาก ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอบวม
Antimetabolites
ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการ สังเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA) ทำให้หยุดการสร้างดีเอ็นเอ หรือเกิดการสังเคราะห์ ดีเอ็นเอ หรือโปรตีน ที่มีความผิดปกติไป และนำไปสู่การเกิดการตายของเซลล์มะเร็ง สารกลุ่มนี้จะมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับนิวคลีโอไทด์ (nucleotide) ทำให้เอนไซม์เข้าใจผิดคิดว่าเป็นสารในร่างกายและเข้าจับกันแบบผันกลับไม่ได้ (irreversible) เอนไซม์จึงหมดฤทธิ์ไป
Mycophenolate mofetil
เป็น ester prodrug ของ Mycophenolic acid (MPA)สารกดภูมิคุ้มกันที่มีคุณสมบัติยับยั้ง enzyme inosine monophosphate dehydrogenase(IMPDH) ซึ่งเป็น enzyme ที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งตัวของ T และ B ลิมโฟไซต์ จากผลการศึกษาทางคลินิก องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาจึงรับรองให้ใช้ยาดังกล่าวในผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนไต
ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
เป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ที่สังเคราะห์ขึ้นโดยทำหน้าที่เหมือนกับฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกาย ยากลุ่มนี้ช่วยลดอาการอักเสบ และมีผลต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นอออฤทธิ์ลดจำนวนและกดการทำงานของเม็ดเลือดขาวและลิมโฟไซต์ ยับยั้งการสร้าง cytokine
การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ เพราะฉะนั้นจึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้ง หากมีอาการที่บอกถึงการติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ เจ็บคอ ไอ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งเกี่ยวกับโรคประจำตัวอื่นๆ ก่อนจะเริ่มใช้ยาชนิดนี้
Prednisolone
เป็นยาสเตียรอยด์ที่ใช้รักษาโรคและภาวะผิดปกติหลายชนิด เช่น ต้านการอักเสบ กดภูมิคุ้มกัน รักษาอาการแพ้ และรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับระบบต่างๆ จัดเป็นยาอันตรายที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
ผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้ เช่น มีอาการบวม รู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกมึนประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดศีรษะ เป็นแผลหายยาก ไม่สบายท้อง ท้องอืด ผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หายใจตื้น มีอาการบวม แลน้ำหนักขึ้นรวดเร็ว มีภาวะซึมเศร้ารุนแรง หรืออารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนไป รู้สึกเจ็บหรือปวดแขน ขา หรือหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ อุจจาระเป็นเลือด ไอเป็นเลือด มีอาการชัก
Immunomodulators ยาปรับภูมิคุ้มกัน
Immunosuppressants ยากดภูมิคุ้มกัน
ใช้รักษาโรคภูมิแพ้ตนเอง (AutoimmuneDiseases) ใช้รักษาโรคมะเร็งบางชนิด ป้องกันการต่อต้านอวัยวะใหม่
กลุ่มยาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
Levamisole - เพิ่มจำนวนและการทำงานของ T-lymphocyte - MM, TB
Thalidomide, Lenalidomide, Pomalidonide ลดจำนวน TNFa, ยับยั้งการสร้างหลอดเลือด - MM
Isoprinosine – เพิ่มการสังเคราะห์ cytokine เช่น IL-1, IL-2 และ IFN-y - HSV warts
Recombinant Cytokines
- aldesleukin (IL-2), interferons alfa, beta, gamma - renal cell carcinoma, melanoma
BCG
- local immune activation → carcinoma in situ (CIS) of the bladder
Intravenous immunoglobulins (IVIG)
- autoimmune diseases, cancer - Kawasak