Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 7 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพระบบประสาท กล้ามเนื้อและกระดูก…
บทที่ 7 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพระบบประสาท กล้ามเนื้อและกระดูก
7.2 การพยาบาลเด็กที่มีภาวะความดันในช่องกะโหลกศีรษะสูง - ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง(Hydrocephalous)
ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง
เป็นภาวะที่มีน้ำไขสันหลังคั่งในกะโหลกศีรษะบริเวณ Ventricle(โพรงสมอง) และชั้น subarachnoid
ในภาวะปกติจะมีน้ำไขสันหลังอยู่ประมาณ 50-150 cc/min อัตราการสร้าง 0.35 cc/min or 500 cc/day
ภาวะความดันในช่องกะโหลกศีรษะสูง
ภาวะความดันสูงในกะโหลกศีรษะคือภาวะที่มีความดันในกะโหลกศีรษะสูงกว่าปกติไขสันหลังที่เจาะได้สูงเกินกว่า 200 มิลลิเมตร
การพยาบาลเพื่อป้องกันภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง
1.จัดท่านอนให้ศีรษะสูง 15-30 องศา
2.ประเมินสัญญาณชีพและการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาททุก1-2 ชั่วโมง
เพิ่มอัตราการหายใจให้มากกว่าปกติ
สาเหตุ
1.มีการสร้าง CSF มากกว่าปกติ ที่พบบ่อยคือเนื้องอกของ Choroid Plexus
2.มีการอุดตันของทางเดินน้ำไขสันหลังระหว่างจุดที่ผลิตและจุดที่ดูดซึม
อาการและอาการแสดง
1.ทารกและเด็กเล็ก ที่มีภาวะน้ำคั่งในกะโหลกศีรษะอาจจะเริ่มมีอาการภายใน2-3เดือน เมื่อวัดรอบอกและรอบศีรษะ
มีอาการเมื่อมองลงล่างจะเห็นตาขาวมาก ซึ่งปกติจะมองไม่เห็น กล้ามเนื้อแขนขากว้าง ซึม อาเจียน
3.เบื่ออาหาร เลี้ยงไม่โต สั่น ร้องเสียงแหลม เมื่อมีอาการมากขึ้น ดูดนมลำบาก ตัวผอม หัวโต มีความต้านทานโรคน้อย
การวินิจฉัย
1.เปรียบเทียบรอบศีรษะกับขนาดปกติของเด็กแต่ละวัย
ถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะจะเห็นการแยกของ Suture และกระดูกกะโหลกศีรษะบาง
3.Transillumination จะเห็นการแยกของ Suture และกระดูกกะโหลกศีรษะบาง
CT Scan
แนวทางการรักษา
1.ถ้าศีรษะโตไม่มากนัก เกิดจากการมีเยื่อหุ้มสมอง อักเสบจากแบคทีเรีย เจาะหลังใส่ยา ก็อาจให้ความดัน ของน้ำไขสันหลังปกติ
ถ้าศีรษะโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ต้องผ่าตัดเอาส่วนที่อุดตันออก
ทำ Shunt ให้น้ำไขสันหลังจาก Ventricle ไปดูดซึมที่ peritoneal เรียก V-P shunt
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลภาวะน้ำคั่งในกะโหลกศีรษะ
1.มีโอกาสเกิดภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง และเปลี่ยนแปลงทางประสาท เนื่องจากมีการสะสมของน้ำไขสันหลังในกะโหลกศีรษะ
อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำและอาหาร เนื่องจากดูดกลืนลำบาก อาเจียน
ความแข็งแรงของผิวหนังผิดไปจากคนปกติ เนื่องจากศีรษะโตดูแลผิวหนังป้องกันระคายเคือง
7.3 การพยาบาลเด็กที่มีการติดเชื้อในระบบสมอง
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
สาเหตุได้ 5 อย่าง
Viral meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส
Eosinophilic meningitis เกิดจากพยาธิ
1.Bacterial meningitis
1.1 Purulent meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิดเป็นหนอง
1.2 Tuberculosis meningitis เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อวัณโรค
การติดเชื้อรา (fungal meningitis)
ปฏิกิริยาที่ไม่ใช่การติดเชื้อ เช่น เนื้องอก
อาการและอาการแสดง
มีไข้สูง หนาวสั่น เบื่ออาหาร ในเด็กเล็กๆ
เป็นการติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมอง (Meningitis) เป็นบริเวณส่วนที่เป็นเมมเบรน ปกป้องหุ้มเนื้อสมองและไขสันหลังาการสำคัญ คือ ไข้ ปวดศีรษะ คอแข็ง ตาไม่สู้แสง
การวินิจฉัย
1.ประวัติของผู้ป่วย โดยบิดามารดา
การตรวจห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
3.) จำนวนเซลล์ในน้ำไขสันหลังเม็ดเลือดขาวในน้ำไขสันหลังในเด็กปกติไม่ควรเกิน 10 เซลล์/ม3
การรักษา
แพทย์จะให้ยาต้านจุลชีพหรือยาปฏิชีวนะ เจาะคอ หรือใช้เครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วยที่มีปัญหา
สมองอักเสบ Encephalitis)
เป็นการอักเสบของเนื้อสมองบางครั้งการอักเสบของเนื้อสมองอาจมีการอักเสบของ เนื้อเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังเกิดร่วมด้วย
สาเหตุ
ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา ปรสิต หรืออาจเกิดจากปฏิกิริยาต่อวัคซีน สมองอักเสบจาก 1. Primary viral encephalitis 2. Secondary viral encephalitis
พยาธิสภาพ
บริเวณที่พบบ่อยที่สุดThalamus และก้านสมอง (brain stem) ซึ่ง เป็นสาเหตุของโคม่าและการหายใจล้มเหลว
อาการและอาการแสดง
1.ไข้ มักสูงได้มาก ๆ ปวดศีรษะ ปวดต้นคอ คอแข็ง
ซึมลง จนกระทั่งถึงขั้นโคม่า ภายใน 24 –72 ชั่วโมง
ชัก มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ
การวินิจฉัยโรค
1.ประวัติจากผู้เลี้ยงดู ให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยมีไข้สูง ซึม คอแข็ง
การรักษา
การตรวจนับเม็ดเลือดขาวในเลือด การตรวจน้ำไขสันหลัง
ภาวะแทรกซ้อน
ผู้ป่วยที่มีอาการของโรครุนแรงอาจเสียชีวิตส่วนผู้ป่วยที่มีอาการของโรคไม่รุนแรงอาจหายเป็นปกติ หรือมีความพิการของสมอง