นันโทปนันทสูตรคำหลวง :
เอกสารมรดกความทรงจำเเห่งโลกของประเทศไทย
- อักษรที่ใช้บันทึก
- ความสำคัญเเละที่มา
- ภูมิหลังของต้นฉบับสมุดไทย
- ส่วนประกอบของเนื้อหา
- คุณค่าของต้นฉบับสมุดไทย
- ลักษณะของต้นฉบับไทยสมุดไทย
3.2 สภาพของต้นฉบับ
3.3 ส่วนประกอบของต้นฉบับ
3.1 ขนาดเเละจำนวนหน้าของต้นฉบับ
4.1 อักษรไทยย่อ
อักษรไทยย่อในหนังสือสมุดไทยเรื่องนันโทปนันทสูตร
คําหลวง ถือว่าเป็นอักษรไทยย่อที่งดงามที่สุด
ปกสมุด
4.1.2 ภาษาที่ใช้ในการบันทึก
หน้าต้น
หน้าปลาย
5.2 ส่วนเนื้อเรื่อง
4.1.1 สีของเส้นอักษร
5.3 ส่วนท้ายเรื่อง
5.1 ส่วนนำเรื่อง
4.2 อักษรขอมย่อ
5.1.3 บทนมัสการพระพุทธเจ้า
4.2.1 ภาษาที่ใช้ในการบันทึก
5.1.4 คาถาพาหุง บทที่ 7
5.1.2 คาถาภาษาสันสกฤต
5.1.5 คาถานำเรื่อง
5.1.1 ส่วนเเถลงเรื่อง
4.2.2 สีของเส้นอักษร
5.1.6 นามผู้เเต่งเเละวัตถุประสงค์ในการเเต่ง
5.3.3 โคลงท้ายเรื่อง
5.3.4 วันเวลาในการเเต่ง
5.3.2 นามผู้เเต่งเเละบทอัตวิภากษ์
5.3.5 ที่มาของเรื่อง
5.3.6 นามผูบันทึก
5.3.1 ผู้เเต่งพระสูตรภาษาบาลี
5.3.7 ข้อมูลการบันทึก
6.2 คุณค่าด้านการศึกษาอักขรวิทยา
6.3 คุณค่าด้านการบันทึกข้อมูลประเภทหนังสือสมุดไทย
6.1 คุณค่าด้านการศึกษาวรรณคดี
เป็นสวนเนื้อหาของเรื่องกล่าวถึงเหตุการณ์ในสมัยพุทธกาล เป็นเรื่องราววของพระมหาโมคคัลลานะที่ทรมานพญานันโทปนันทนาคราชให้ละพยศหันมานับถือพระรัตนตรัยเนื้อหาส่วนนี้ประกอบด้วยคาถาภาษาบาลี
และข้อความแปลภาษาไทยต่อเนื่องกันไป
มีขนาดกว้าง 13 ซม. ยาว 39.9 ซม. เเละหนา 6.5 ซม.
มีจำนวนหน้าทั้งสิ้น 189 หน้า ประกอบด้วยหน้าต้น 97 หน้า และหน้าปลาย 92 หน้า
ต้นฉบับสมุดไทยเรื่องนันโทปนันทสูตรคำหลวง ปัจจุบันกลุ่มงานหนังสือตัวเขียนและจารึก หอสมุดแห่งชาติ
(ท้าวาสุกรี) กรมศิลปากรเป็นผู้ดูแลรักษา
จัดอยู่ในแผนกธรรมคดีเลขที่ 120 ตามทะเบียนของหอสมุดแห่งชาติระบุว่าขุนวิทูรดรุณกรทูลเกล้าฯ ถวายให้เป็นสมบัติของหอสมุดแห่งชาติเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม2451 เนื้อหาในหนังสือสมุดไทยเล่มนี้เป็นเรื่อง
“นันโทปนันทสูตรคําหลวง”
สภาพบางส่วนที่ชำรุดของต้นฉบับ
กลางปกสมุดเป็นกรอบทรงซุ้ม เดินเส้นสีทองกันขอบสองชั้น แต่
ส่วนกลางหลุดลอก
เรื่องนันโทปนันทสูตรคำหลวง เป็นพระราชนิพนธ์ที่แปลจากเรื่อง “พระบาฬีนนโทนนทสูตร” ของพระมหาพุทธสิริเถระ เจ้าฟ้ากุ้งได้ทรงแปลถ่ายทอดจากภาษาบาลีมาเป็นข้อความไทย อีกทั้งยังมีการใช้ถ้อยคำที่สละสลวยมาเรียบเรียงในร่ายยาวที่มีการสัมผัสต่อเนื่องกันตลอดเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ปรากฏในอรรถกถา
หน้าต้นมีจำนวน 97 หน้า
หน้าปลายมีจำนวน 87 หน้า
วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาลักษณะและคุณค่าของเรื่องนันโทปนันทสูตรคำหลวง
ผู้แต่ง
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือ เจ้าฟ้ากุ้ง
มีการบันทึกในรูปแบบ
อักษรไทยย่อ อักษรขอมย่อ
มีคุณค่าทางด้านวิชาการ
คือ ด้านวรรณคดี ด้านอักขรวิทยา การบันทึกข้อมูลประเภทหนังสือสมุดไทย
นอกจากจะมีความสำคัญที่เป็นวรรณคดีพระพุทธศาสนาและความอลังการในการใช้คำศัพท์ที่ไพเราะงดงามที่แสดงถึงอัจฉริยะภาพด้านอักษรศาสตร์ของเจ้าฟ้า
มีความสำคัญต่อการศึกษาอักขรวิทยา โดยเฉพาะพัฒนาการของอักษรและอักขรวิธี จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถนำมาศึกษารูปอักษรและอักขรวิธีได้
ตอนท้ายของสมุดไทยเล่มนี้ได้บันทึกวิธีการจัดเตรียมสมุดไทยทั้งก่อนและหลังการบันทึกไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอน และมีคุณค่าในแง่ของความเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 300 ปี หรือในแง่คุณค่าของเนื้อหาที่บันทึก รวมทั้งความงามด้านศิลปกรรมโดยเฉพาะภูมิปัญญาด้านการบันทึกและการรักษาเอกสารโบราณของบรรพบุรุษไทย
“สุสฤษฺฏิกฤตฺยปฤษฺเฏน ตมฺ โพธิชฺญาณํสุลาภํ”
แปลว่า “พระโพธิญาณนั้นเป็นลาภอันประเสริฐ ด้วยความประสงค์จะสร้างกรรมดี”
เป็นบทสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า
“นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส”
แปลว่า “ขอนอบน้อมแด่พระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง”
เป็นคำประพันธ์ร้อยกรองภาษาบาลีประเภท
วสันตดิลกฉันท์ในกลุ่มฉันท์วรรณพฤติ
แปลว่า “ผู้เป็นใหญ่แห่งมุนี (พระพุทธเจ้า) ทรงชนะแล้ว ด้วยวิธีแสดงฤทธิ์เมื่อทรงให้พญานาคผู้เป็นบุตร (พระโมคคัลลานะ) ไปทรมานพญานาคนันโทปนันทะผู้หลงผิด ผู้มีฤทธิ์มาก ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน”
เป็นคำประพันธ์ร้อยกรองภาษาบาลีที่ปรากฏก่อนเริ่มเนื้อเรื่อง ขึ้นต้นด้วยบทบูชาพระรัตนตรัย
ข้อความกล่าวถึงว่าผู้แต่งคือ “มหาสิริบาล” ซึ่งเป็นพระนามฉายาขณะทรงผนวชของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร จากนั้นเป็นการนมัสการพระรัตนตรัย แล้วจึงกล่าวถึงการแปลเรื่องนันโทปนันทสูตรจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย และกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการแต่งว่าเพื่อขออำนาจคุณพระรัตนตรัยปกป้องให้พ้นจาก“อันดรายุปัท์ทรวาสรรพาพาธ” คือ ให้พ้นจากอันตราย ความอุบาทว์ และความเจ็บไข้ทั้งปวง