Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยใส่ Traction - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยใส่ Traction
วัตถุประสงค์ของการทำ traction
ดึงกระดูกที่หักให้เข้าที่ (Reduction)
บรรเทาอาการปวด (Relieve pain)
บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
(Relieve muscle spasm)
ป้องกันความพิการ (Prevention of deformity)
แก้ไขความพิการ (Correction of deformity)
ให้อวัยวะส่วนนั้นอยู่นิ่ง (Immobilization)
Skin traction
หมายถึง
ดึงผิวหนังใช้ adhesive tapeชั่วคราว
ใช้ (2.27-3.18 กิโลกรัม)
ดึงคอและขา
pelvic tractionใช้น้ำหนัก (4.45-11.36 กิโลกรัม)
ระยะเวลาในการดึงประมาณ 3-4 สัปดาห์
ข้อบ่งชี้
กระดูกหักในเด็ก
ตรึงกระดูกชั่วคราว
ดึงภายหลังดึงจัดข้อหลุดให้เข้าที่แล้ว
ข้อห้าม
มีรอยขีดข่วน
โรคผิวหนัง
4.ความบกพร่องในการไหลเวียน, แผลในเส้นเลือดขอด
มีการฉีกขาด
กระดูกหักที่เกยกัน
ถาวะแทรกซ้อน
แพ้เทปกาว
ผิวหนังหลุด
แผลกดทับ ตาตุ่ม ส้นเท้า
อัมพาตเส้นประสาทส่วนปลาย
Skeletal traction การดึงกระดูกโดยตรง
หมายถึง
ดึงถ่วงน้ำหนักที่กระดูกโดยตรง
ใช้ Steinmann pin ยึดกับกระดูก
ใช้ Steinmann Pin Holder ดึงถ่วงน้ำหนัก กระดูกผู้ใหญ่
น้ำหนักที่ใช้อยู่ระหว่าง 9.09-13.63 กิโลกรัม
ดึงประมาณ 3-4 เดือน
ข้อบ่งชี้
กระดูกต้นขาหัก
การแตกหักที่ไม่เสถียรหรือแตกหัก
การแตกหักของกระดูกเชิงกราน
การแตกหักหรือความคลาดเคลื่อนของกระดูกสันหลังคด
ข้อห้าม
เด็กเล็กที่ยังมีการเจริญเติบโตของกระดูก
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถนอนอยู่บนเตียงได้นานๆ
ภาวะแทรกซ้อน
ติดเชื้อของกระดูก
เกิดอันตรายต่อแผ่นการเจริญเติบโตของกระดูกgrowth plate)
น้ำหนักดึงมากเกินไปทำให้ชิ้นกระดูกถ่างแยก
อันตรายต่อเอ็น และเกิดแผลเป็นบริเวณ Steinmann pin
พยาบาล5ข้อ
ลำตัวถูกต้อง (Correct body alignment) กลางเตียง
แนวของการดึง (Line of pull) น้ำหนักที่ถ่วงต้องแขวนลอยอย่างอิสระ ขาของผู้ป่วยข้างที่ทำ traction อยู่ในลักษณะ Abduction 45 องศา
ลดแรงเสียดทาน (Prevent friction) ซึ่งก็คือ
ปลายเท้าสัมผัสปลายเตียง
ตุ้มน้ำหนักแตะขอบเตียงหรือพิงเตียง
มีปมเชือกที่ลูกรอกหรือเชือกหลุดออกจากราง
ลูกรอก
มีอะไรพาดอยู่บนเชือก
ส้นเท้ากดทับที่นอน
การยกปลายเตียงขึ้นเล็กน้อย(กรณีดึงถ่วงบริเวณส่วนล่าง)
ไขหัวเตียงขึ้นเล็กน้อย (กรณีดึงถ่วงบริเวณส่วนบน)
ดึงถ่วงน้ำหนักตลอดเวลา (Continuous traction) ไม่ควรเอาน้ำหนักที่ดึงถ่วงออก โดยไม่มีแผนการรักษาของแพทย์
ภาวะแทรกซ้อนของการเข้า traction
แผลกดทับ
อาการท้องผูก
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
โรคปอดบวมที่เกิดจากความดันเลือดต่ำ
การติดเชื้อที่กระดูก
ภูมิแพ้
โรคกระดูกพรุน
Osteomyelitis
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
กล้ามเนื้อใกล้เคียงอ่อนเปียกหรือลีบ
การไหลเวียนของเลือดไม่ดี หรือกดเส้นประสาท
ขาดเลือดไปเลี้ยงบริเวณปลายนิ้ว
(Volkmann’s ischemic )
หลักการพยาบาล
ตำแหน่ง Position
ดูแลหลังBack care
ออกกำลังกาย Exercise
แผลกดทับ Pressure sore
โปรตีนสูงและวิตามินซีสูง High Protein and High Vitamin C
ดื่มน้ำมากๆ 2,000-2,500 c.c.
การไหลเวียนของโลหิตบริเวณขา
skeletal traction ให้สังเกตอาการติดเชื้อ
skin traction ให้สังเกตอาการระคายเคือง
ป้องกันการเกิด Foot drop จากการพันElastic bandage แน่นหรือ Common peronealnerve กดกับ splint
การเข้าเฝือก
วัตถุประสงค์
เพื่อให้กระดูก ที่ได้รับบาดเจ็บได้อยู่นิ่ง
ให้กระดูกหรือข้อที่เป็นโรคได้พักลด
แก้ไขความพิการ เช่น ภาวะหลังคด เท้าปุก
ป้องกันความพิการ
ใช้ดามเมื่อฉุกเฉิน
รักษาโรค
ดามกระดูกหัก หรือข้อที่ได้รับบาดเจ็บ
ร่างกายที่มีการอักเสบได้หยุดพัก
ป้องกันความวิกลรูปของข้อต่างๆ
ป้องกันกระดูกหักในกรณีที่กระดูกเป็นโร
ใช้ดัดแก้ความวิกลรูปของร่างกาย
ชนิดของเฝือก
เฝือกลำตัวศีรษะ
Minerva cast
Shoulder cast
Body cast
Single hip spica
Double hip spica
เฝือกแขน
Long arm cast
Short arm cast
เฝือกขา
Long leg cast
Cylinder cast
Short leg cast
P.T.B. (Patella tendon weight bearing cast)
Walking cast
เฝือกกาบ
กาบคู่ (Bivalved casts)
การดูแลเฝือก
ป้องกันเฝือกหักหรือยุบในระหว่างที่เฝือกยังชื้นอยู่
วางเฝือกบนวัสดุนุ่มนิ่ม
หลีกเลี่ยงการวางเฝือกบนวัสดุแข็ง
ประคองเฝือกในระหว่างการเคลื่อนย้าย
หลีกเลี่ยงการใช้มือกดหรือ บีบเฝือกเล่น
ทำให้เฝือกแห้งเร็ว
ไม่ควรใช้ผ้าห่มหรือสิ่งอื่นใดปกคลุมบนเฝือก
ปฏิบัติเมื่อเฝือกแห้ง
อย่าให้เฝือกได้รับความเปียกชื้น
ไม่ควรลงน้ำหนัก หรือเดินบนเฝือก
ก็ไม่ควรให้เฝือกรับน้ำหนัก
อย่างเต็มที่
คำแนะนำ
อย่าให้เฝือกได้รับแรงกดจนแตก หรือยุบ
ห้ามทำให้เฝือกเปียกน้ำ
ห้ามดัดเฝือกออกเอง
เคลื่อนไหวส่วนที่อยู่ภายนอกเฝือก
ห้ามใช้ของแข็งแหย่เข้าไปใต้เฝือก
อย่าดึงสำลีหรือวัสดุรองเฝือกออก
ยกส่วนแขนหรือขาที่ได้รับการใส่เฝือกให้อยู่เหนือระดับหัวใจขณะพักผ่อน
พบแพทย์
มือหรือเท้าส่วนที่ใส่เฝือกบวมมาก
เจ็บปวดหรือแสบร้อนทั้งๆ ที่ได้ยกส่วนที่ใส่เฝือกไว้สูงเหนือระดับหัวใจ
ไม่สามารถระงับด้วยการรับประทานยาแก้ปวดธรรมดา (Pain)
สังเกตว่าปลายนิ้ว หรือ เล็บมือเขียวคล้ำ กว่าข้างปกติ (Pallor)
รู้สึกชาหรือเป็นเหน็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (Paresthesia)
ไม่มีแรงกำ หรือแบนิ้วมือ (Paralysis)
คลำชีพจรไม่พบ (Pulse lessness)
Compartment Syndrome
เกิดจากการบาดเจ็บ ที่ทำให้มีเลือดออก
กล้ามเนื้อและเส้นประสาทโดยรอบถูกทำลาย
เนื่องจากได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ