Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บริการทั้ง 5 ของงานแนะแนวในโรงเรียน :red_flag: - Coggle Diagram

- - - - ข้อสนเทศที่ทุกคนควรทราบ
      - ประหยัด
        
        แรงงาน
        
        งบประมาณ
        
        เวลา
      - มีความต้องการ/ปัญหาคล้ายคลึงกัน
      - บางข้อมูลไม่สามารถจัดให้เป้นกลุ่มได้
      - พร้อมกันหลายคน
      - ดำเนินการยาก
        
        กระตุ้นผู้เรียนไม่ได้ทุกคน
      - ไม่สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง
    - - จำเพาะเจาะจง
      - ใช้ระยะเวลายาวนาน
      - ตรงตามต้องการแท้จริง
  - - - ระหว่าง
        
        การศึกษา
        
        การประกอบอาชีพ
        
        การครองตัวในสังคม
  - - - วัย
      - วุฒิภาวะ
      - สอดคล้องความต้องการ
      - ระดับความรู้
      - งบประมาณ
      - มีประโยชน์สูงสุด
      - มีความเที่ยงตรง
      - มีความทันสมัย
  - - - ป้ายนิเทศการศึกษาต่อและอาชีพ
      - วารสารการศึกษาต่อและอาชีพ
      - วันงานอาชีพ
      - open house
    - - ปัจฉิมนิเทศ
      - โต้วาที
      - เชิญวิทยากรมาอภิปรายเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต
    - - ข่าวสารการศึกษา
      - วารสารการศึกษา
      - ทัศนศึกษา
      - ป้ายนิเทศการศึกษา
      - การปฐมนิเทศ
- - - - ผู้มาขอรับคําปรึกษาจะต้องสํารวจและเข้าใจตนเอง เพื่อจะสามารถนําตนเองได้ในที่สุด จนสามารถดําเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข รวมทั้งรู้จักตัดสินใจด้วยตนเอง
    - - ช่วยให้บุคคลได้พัฒนาความสามารถในการเข้าไปมี ปฏิสัมพันธ์ในกลุ่ม ช่วยให้บุคคลได้ปรับปรุงตนเอง เข้าใจความรู้สึกซึ่งกันและกัน และเรียนรู้ทักษะต่างๆร่วมกัน
  - - - การปรึกษาผ่านการสื่อสารทางอุปกรณ์สื่อสารอาจจะทำให้มีข้อจำกัดหลายๆเรื่อง เช่น ไม่สามารถรับรู้สีหน้าท่าทางได้
        
        ต้องอาศัยเทคนิคในการสื่อสารที่ดี
        
        ต้องอาศัยเทคนิคและวิธีการที่หลากหลาย
    - - ช่วยให้ผู้รับบริการเข้าใจในปัญหา ความความสามารถ ความต้องการ และมองเห็นลู่ทางในการแก้ปัญหาของตนเองได้
        
        ช่วยฝึกให้ผู้รับคำปรึกษาได้ตัดสินใจด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง
        
        ช่วยให้ผู้รับบริการสามารถปรับตัว และดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
        
        ช่วยป้องกันปัญหา แก้ไขปัญหา และส่งเสริมพัฒนาผู้รับบริการ
- - - - นักเรียนเข้าใจในตัวเองมากขึ้น สามารถวางแผนชีวิต-ตัดสินใจศึกษาต่อและเลือกอาชีพได้
      - สืบค้นรูปแบบพัฒนาการด้านร่างกาย สังคม อารมณ์ สติปัญญาและจิตใจ
      - สืบค้นสาเหตุของพฤติกรรมเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ/แก้ไขอย่างถูกต้อง
      - เพื่อให้ผู้ปกครองและครูเข้าใจผู้เรียนมากขึ้นและปฏิบัติตัวต่อนักเรียนได้อย่างเหมาะสม
    - - ประโยชน์
        
        นักเรียนเข้าใจตนเองมากขึ้น มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต
        
        ผู้ปกครองเข้าใจบุตรหลานได้ดีขึ้นและปฏิบัติตนต่อบุตรหลานได้เหมาะสม
        
        ผู้แนะแนวทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวนักเรียนและเข้าใจสาเหตุของพฤติกรรม
        
        โรงเรียนทราบปัญหาและความต้องการของผู้เรียน และนำข้อมูลมาปรับปรุบบริการ จัดกิจกรรม จัดการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม
      - ข้อจำกัด
        
        ต้องใช้เวลามากในการศึกษา
        
        การเก็บรวบรวมข้อมูลลำบาก เนื่องจากอดีตขอผู้เรียนจึงอาจไม่อยากให้ข้อมูล
        
        ความสามารถของผู้ศึกษาที่อาจตัดทอนกระบวนการรวบรวมข้อมูล หรือขาดความเข้าใจเด็ก
    - - นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ
      - นักเรียนที่มีปัญหาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
      - นักเรียนที่ประสบความสำเร็จด้านการเรียน
      - นักเรียนที่มีผลการเรียนอ่อน
    - - ขั้นวินิจฉัยปัญหา
      - 4.ขั้นเสนอแนะแนวทางแก้ไข
      - ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
      - ขั้นติดตามและประเมินผล
      - ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
    - - กระบวนการศึกษาสาเหตุของพฤติกรรมของบุคคลอย่างลึกซึ้งเป็นเวลาต่อเนื่อง
  - - - การซักถามพูดคุยระหว่างผู้สัมภาษณ์กับผู้ให้สัมภาษณ์
    - - ทราบข้อเท็จจริงกี่ยวกับผู้ให้สัมภาษณ์
      - ตรวจสอบความรู้ ความสามารถ
      - ทราบแนวความคิด ความรู้สึก ทัศนคติ
      - สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ให้สัมภาษณ์
    - - มีโครงสร้างแน่นอน
        
        มีการเตรียมคำถามไว้ในแบบสัมภาษณ์ชัดเจน
        
        ผู้สัมภาษณ์ใช้คำถามเหมือนกันทุกครั้ง
      - ไม่มีโครงสร้างแน่นอน
        
        คำถามอาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ แต่ยังคงจุดประสงค์เดิม
    - - เป็นการติดต่อสื่อสารโดยตรง
      - มีความยืดหยุ่นและดัดแปลงแก้ไขได้
      - สามารถสังเกตเห็นความจริงใจของผู้ให้สัมภาษณ์
    - - เวลาในการสัมภาษณ์
      - ความจริงใจของผู้ถูกสัมภาษณ์ และความสามารถของผู้สัมภาษณ์
      - สภาวะทางอารมณ์ของผู้สัมภาษณ์และผู้ให้สัมภาษณ์
  - - - วิธีการหนึ่งของงานบริการสำรวจผู้เรียนรายบุคคลเพื่อทราบความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนภายในห้องเดียวกัน
    - - เพื่อให้ทราบถึงความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอันมีอยู่ระหว่างบุคคลนั้นกับหมู่คณะของเรา
    - - ใช้คำถามนำ เพื่อสร้างตารางข้อมูล และสุดท้ายนำมาสร้างภาพสังคม เพื่อดูความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน และให้ความช่วยเหลือ
    - - สามารถนำข้อมูลที่ได้มาจัดแบ่งกลุ่มนักเรียนให้เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือนักเรียน
    - - ต้องเป็นข้อมูลจริง ต้องอาศัยความซื่อตรงของนักเรียน
  - - - เพื่อให้ผู้แนะแนวมีความเข้าใจและรู้จักผู้เรียนในสถานการณ์จริง
    - - การสังเกตโดยการเข้าไปร่วม
      - การสังเกตโดยการไม่เข้าไปร่วม
    - - การศึกษาพฤติกรรมของผู้เรียนโดยการใช้การดูและการฟัง
    - - การสังเกตแแบบมีเค้าโครง
      - การสังเกตแบบไม่มีเค้าโครง
    - - กำหนดสิ่งที่จะสังเกต
      - สังเกตพฤติกรรมคู่กับสถานการ์
      - ไม่ควรให้ผู้ถูกสังเกตรู้ตัว
      - ผู้สังเกตต้องไม่มีอคตริ
    - - พฤติกรรมกระทำซ้ำซาก
      - พฤติกรรมผิดแปลกจากธรรมชาติของผู้เรียน
      - พฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เต็มใจ/ไม่ยอมรับความจริง
    - - สามารถเก็บข้อมูลที่นักเรียนไม่กล้าเล่า
      - มีความน่าเชื่อถือ
      - เห็นพฤติกรรมที่แท้จริง
      - เก็บข้อมูลจากเหตุการณ์จริงได้ทันที
    - - มนุษย์สามารถบิดเบือนพฤติกรรมได้ผู้สังเกตจึงต้องมีทักษะที่ดี
      - เป็นกระบวนการที่ต้องการความต่อเนื่องเป็นระบบ
      - บางครั้งต้องมีการใช้อุปกรณ์เช่น กระจกทางเดียว
  - - - เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบทดสอบที่สร้างขึ้นอย่างเป็นขั้นตอนทางวิชาการ
    - - เพื่อการทำนาย
      - เพื่อการเลือก
      - เพื่อนัดจำแนก
      - เพื่อการประเมินผล
    - - แบบทดสอบเป็นเพียงการทดสอบที่ใช้จำกัดในวงแคบ มีการเผยแพร่ไม่มากนัก
    - - แบบทดสอบด้านสติปัญญา
      - แบบทดสอบสัมฤทธิผลมาตรฐาน
      - แบบทดสอบความถนัด
      - แบบสำรวจความสนใจ
      - แบบทดสอบบุคลิกภาพ
    - - นักเรียนรู้จักและเข้าใจตนเอง
      - ช่วยตัดสินใจในการเลือกเรียนต่อและประกอบอาชีพ
      - รู้จักปรับตัวในสังคม
      - ทราบถึงความพร้อมและความต้องการของบุคคล
      - เป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทดสอบของครูแนะแนว
  - - - ใช้ข้อมูลของผู้เรียนในการวางแผนกำหนดกิจกรรม
      - ใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคัดเลือกผู้เรียนอย่างเหมาะสม
      - ทำให้มีข้อมูลเบื้องต้นเพื่อสบค้นข้อมูลอื่น ๆ ของนักเรียน
      - ใช้เป็นแนวทางแนะแนวอาชีพได้
      - ทำให้รู้จักและเข้าใจนักเรียนแต่ละคนได้ชัดเจน
    - - เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ จะต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานและสถาบันอื่น ๆ
    - - เพื่อทราบข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคลในด้านต่างๆ
      - เพื่อประกอบการวิเคราะห์ปัญหา
    - - แบบเป็นซองหรือพับได้
      - แบบเป็นบัตรแผ่นเดียว
      - แบบเป็นเล่มคล้ายสมุดบันทึก
    - - เอกสารรวบรวมประวัติส่วนตัวของผู้เรียนด้านต่างๆอย่างเป็นระเบียบ
    - - ข้อมูลเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา
      - ข้อมูลจากการทดสอบกับแบบทดสอบมาตรฐาน
      - ข้อมูลทางบุคลิกภาพ
      - ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย
      - 2.ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวและชุมชนที่เด็กอยู่
      - ข้อมูลเกี่ยวกับเวลาเรียน
      - ข้อมูลส่วนตัว
      - ข้อมูลเบ็ดเตล็ด
    - - ข้อมูลส่วนตัว
      - ข้อมูลด้านครอบครัว
      - ข้อมูลด้านความสามารถ
      - ข้อมูลด้านความสนใจการศึกษา
      - แผนที่แสดงการเดินทางจากโรงเรียนไปบ้าน
  - - - แบบสอบถามไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่นักเรียนเผชิญอยู่
      - จำกัดผู้ตอบเฉพาะผู้ที่อ่านออกเขียนได้
      - ขาดการติดต่อระหว่างผู้ถามและผู้ตอบ
      - อาจเกิดการไม่ส่งแบบสอบถามกลับคืน ทำให้ข้อมูลไม่ครบ
    - - ช่วยให้เกิดแนวคิดในการแนะแนวอย่างถูกต้องเหมาะสม
      - ช่วยให้ทราบถึงปัญหาและความต้องการของนักเรียนแต่ละคน
      - นักเรียนได้สำรวจตนเอง
      - ช่วยให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม
      - ช่วยให้ทราบเรื่องราวต่าง ๆ ของนักเรียนในเวลาอันรวดเร็ว
    - - แบบสอบถามการประเมินผล
        
        เพื่อให้นักเรียนแสดงปฏิกิริยาต่อนโยบาย เพื่อนำไปปรับปรุง
      - แบบสอบถามเพื่อการติดตามผล
        
        เพื่อติดตามนักเรียนเก่าว่าสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตภายนอกได้มากน้อยเพียงใด
      - แบบสอบถามการกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
        
        เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียนในด้านต่าง ๆ
    - - เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาเพื่อตอบสนองนักเรียนมากยิ่งขึ้น
      - เพื่อติดตามนักเรียนที่จบไปแล้ว
      - เพื่อทราบเจตคติ ปัญหา และความต้องการของนักเรียน
      - เพื่อศึกษาหาข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ของนักเรียยน
    - - ชุดคำถามที่สร้างขึ้นเพื่อให้บุคคลได้ตอบตามความรู้สึกและเจตคติ
- - - - การช่วยให้นักเรียนรู้จักแนวทางการทำงานและการเลือกหาอาชีพในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนเป็นมีเจตคติที่ดีต่อการทํางาน แต่ต้องไม่กระทบต่อการเรียนและกิจกรรมอื่น ๆ ที่นักเรียนจะต้องปฏิบัติเป็นประจํา
    - - การช่วยให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีทักษะทางสังคมดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้นักเรียนได้รู้จักและเข้าใจตนเองดีขึ้น เพราะการช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรง ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทํางานกับผู้อื่น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปรับตัวทางสังคม
    - - การช่วยให้นักเรียนได้เลือกแผนการเรียน วิชาเรียน หลักสูตร แนวทางการศึกษาต่อ และสถาบันการศึกษาต่อได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด ความสนใจ สภาพร่างกาย และฐานะทางเศรษฐกิจของตน
  - - - การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับทุกคนเป็นไปได้ยาก
      - ต้องขอความร่วมมือจากหลายฝ่าย
      - ครูอาจจะดูแลผู้เรียนได้ไม่ทั่วถึง จากการจัดประสบการณ์หลายรูปแบบ
    - - ช่วยให้บุคคลมีแรงจูงใจในการสร้างผลงาน
      - 5.ทำให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปใช้ในการปฏิบัติตนเมื่ออกจากสถานศึกษา
      - 2.ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
      - มีทักษะในการแก้ปัญหาและมีประสบการณ์ในการทำงาน
      - มีเจตคติที่ดีในการทำงาน สามารถเข้าใจได้ว่าการทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
- - - - การสัมภาษณ์ เสียเวลากระทำได้น้อย แต่ลึกซึ้งและกว้างขวาง
      - การใช้โทรศัพท์ หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีค่าใช้จ่าย และต้องใช้เวลาอย่างจำกัด