Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินหลักสูตร - Coggle Diagram
การประเมินหลักสูตร
รูปแบบการประเมินหลักสูตรของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam)
สตัฟเฟิลบีมได้มีรูปแบบการประเินหลักสูตรที่ประกอบด้วยมิติสำคัญ 2 มิติ ได้แก่
1.มิติด้านที่มีอยู่ คือ ถ้าเราตัดสินใจจะทำอะไร เราต้องมีข้อมูลของสิ่งนั้น
2.มิติด้านปริมาณความเปลี่ยนแปลงที่ต้องการให้เกิดขึ้น คือ ถ้าเราตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว ต้องคำนึงถึงความเปลี่ยนแปลง
สตัฟเฟิลบีมได้จำแนก
การตัดสินใจออกเป็น4ประเภท ได้แก่
1.Planing Decisions เป็นการตัดสินใจโดยคาดหวังว่าเราต้องการให้เกิดผลทางการศคกษาอย่างไร
2.Structering Decisions เป็นการตัดสินใจว่าเราควรวางโครงสร้างหรือรูปแบบการใช้หลักสูตรที่ต้องการได้อย่างไร
3.Inplemening Decisions เป็นการตัดสินใจว่า ตามความเป็นจริงมีการนำหลักสูตรไปใช้ได้หรือไม่
4.Recycling Decisions เป็นการตัดสินใจหลังจากนำหลักสูตรไปใช้แล้ว
การประเมินหลักสูตรที่สำคัญของสตัฟเฟิลบีมมีสิ่งสำคัญที่ต้องประเมินอยู่ 4 ด้าน ได้แก่
1.การประเมินสภาพแวดล้อม มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้หลักการมากำหนดจุดมุ่งหมายโดยประเมินสภาพแวดล้อมต่างๆ
2.ประมินตัวป้อน มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้ข้อมูลมาตัดสินใจว่าจะใช้ทรัพยากรใดบ้างเพื่อให้บรรลุผลตามจุดมุ่งหมาย
3.การประเมินกระบวนการ มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินสืบค้นจุดอ่อนของรูปแบบที่ดำเนินการไว้เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกวิธีต่อไป
4.การประเมินผลผลิต มีจุดมุ่งหมายเื่อตรวจสอบผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนว่าเป็นไปตามที่คาดหวังไว้หรือไม่
รูปแบบการประเมินหลักสูตรของไทเลอร์ (Tyler)
จุดมุ่งหมายของการประเมินหลักสูตรของไทเลอร์มีอยู่2จุดมุ่งหมายได้แก่
1.เพื่อตัดสินจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมนั้นประสบผลสำเร็จหรือไม่
2.เพื่อประเมินความก้าวหน้าทางการศึกษา
ไทเลอร์ได้จัดลำดับการเรียนการสอนและการประเมินผลดังนี้
1.กำหนดจุดมุ่งหมายอย่างกว้างๆ
2.กำหนดจุดประสงค์เฉพาะอย่างชัดเจน
3.กำหนดเนื้อหาประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
4.เลือกวิธีการเรียนการสอนที่เหมาะสม
5.ประเมินผลโดยการตัดสินใจด้วยการวัดผลทางการศึกษา
6.หากหลักสูตรไม่บรรลุผล ต้องยกเลิกและปรับปรุงหลักสูตรนั้น
**รูปแบบการประเมินหลักสูตรของโพรวัส (Provus)
โพรวัสได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการประเมินหลักสูตรดังนี้
1.การออกแบบ (Design)
2.ทรัพยากร (Installation)
3.กระบวนการ (Process)
4.ผลผลิตของหลักสูตร (Product)
5.ค่าใช้จ่ายหรือผลตอบแทน (Cost)
ขั้นตอนการประเมินผล มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่1 ผู้ประเมินต้องกำหนดเกณฑ์มาตราฐานของสิ่งที่ต้องการวัดก่อน (Standards-S)
ขั้นที่2 ผู้ประเมินต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวการดำเนินงานหรือปฏิบัติงานจริงของสื่งที่ต้องการวัด
(Perfoemance-P)
ขั้นที่3 ผู้ประเมินนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากขั้นที่2 มาเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานที่ตั้งไว้ในข้อที่1 (Compare-C)
ขั้นที่4 ผู้ประเมินศึกษาความแตกต่างกับเกณฑ์าตราฐาน (Disscrpancy-D)
ขั้นที่5 ผู้ประเมินส่งผลการประเมินไปให้ผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง (Dicision making-D)
รูปแบบการพัฒนาหลักสูตรของแฮมมอนด์ (Hammond)
แฮมมอนด์ได้ให้แนวคิดมิติทั้ง 3 ดังนี้
1.มิติด้านการสอน ประกอบด้วย5ตัวแปร คือ
การจัดชั้นเรียนและตารางสอน
จัดลำดับเนื้อหาวิชา
มีวิธีออกแบบกิจกรรมการเรียน
มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการจัดการเรียน
งบประมาณทที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน
2..มิติด้านสถาบัน ประกอบด้วย5ตัวแปร ดังนี้
นักเรียน
ครู
ผู้บริหาร
ผู้เชี่ยวชาญ
ครอบครัว
ชุมชน
มิติด้านพฤติกรรม มีองค์ประกอบ 3 ด้านคือ
ด้านองค์ความรู้ (Cognitive Domain)
ด้านทักษะ (Psychometor)
ด้านเจตคติ (Affective Domain)
แนวคิดการประเมินหลักสูตรของแฮมมอนด์
1.กำหนดสิ่งที่ต้องการประเมิน
2.กำหนดตัวแปรในมิติการสอนและมิติสถาบันให้ชัดเจน
3.กำหนดจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
4.ประเมินพฤติกรรมที่ระบุไว้
5.วิเคราะห์ผลภายในองค์ประกอบและความสัมพันธ์
6.พิจารณาสิ่งที่ควรเปลี่ยนแปลงปรับปรุง
รูปแบบการประเมินหลักสูรของดอริส (Doris T. Gow)
Dorisได้เสนอกระบวนการประเมินหลักสูตรเป็น 2 ขั้นตอน คือ
ขั้นที่1 การวิเคราะห์หลักสูตร โดยพิจารณาองค์ประกอบ 4 ด้าน คือ
โอกาสการเรียนรู้
สิ่งเร้า
โครงสร้างของหลักสูตร
สภาพการเรียนการสอน
ขั้นที่2 การตัดสินคุณภาพของหลักสูตร
นำข้อมูลในขั้นที่ 1 มาพิจารณาเปรียบเทียบกับหลักการทฤษฎีทางการศึกษาและทางจิตวิทยา
จุดเด่น เป็นการตัดสินคุณภาพหลักสูตรโดยใช้หลักการทฤษฎีทางการศึกษาและทางจิตวิทยาเป็นหลักไม่ใช้ความคิดเห็นของผู้วิเคราะห์
รูปแบบการประเมินหลักสูตรของวิชัย วงษ์ใหญ่
วิชัย วงษ์ใหญ่ ได้สรุปแนวคิดและขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตรไว้ดังนี้
1.คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร ใช้ข้อมูลสภาพปัญหาและความต้องการของสังคม มากำหนดจุดมุ่งหมาย หลักการและโครงสร้าง และออกแบบหลักสูตร โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญประกอบ
2.ยกร่างเนื้อหาสาระ แต่ละกลุ่มประสบการณ์ แต่ละหน่วยการเรียน และแต่ละรายวิชา โดยปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชา
3.ทดลองใช้หลักสูตรในสถานศึกษานำร่อง และแก้ไขข้อบกพร่อง
4.อบรมผู้สอน ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาให้เข้าใจหลักสูตรใหม่
5.ปฏิบัติการสอน กิจกรรมการใช้หลักสูตรใหม่มี